จับตา 2 บริษัทร่วมทุนพัฒนาอสังหาฯ แกรนด์ ยูนิตี้ฯ – ปริญเวนเจอร์ หลังกลุ่มทุนเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี เข้าซื้อหุ้นใหญ่ในบริษัทยูนิเวนเจอร์ ด้าน 2 บริษัทร่วมทุน "แอล.พี.เอ็น.-ปริญสิริ "รอนโยบายการลงทุนหลังผู้บริหารใหม่เข้าทำงาน

การเข้าถือหุ้นใหญ่ในบริษัทยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ UV ของลูกชายนายเจริญ สิริวัฒนภัคดี นับว่าเป็นการ"เดิมเกม"ต่อยอดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยอาศัยความได้เปรียบในเรื่องของทุนที่หนา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัทยูนิเวนเจอร์ฯยังมีเครือข่ายธุรกิจทางด้านอสังหาฯอื่นๆที่เข้าไปร่วมทุน ซึ่งได้แก่ แกรนด์ยูนิตี้ ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง 3 พันธมิตร คือ ระหว่างยูนิเวนเจอร์, บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดิเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท เยาววงศ์ จำกัด ในสัดส่วนเท่าๆกัน

รวมถึงบริษัทปริญเวนเจอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัทยูนิเวนเจอร์และบริษัทปริญสิริ จำกัด (มหาชน) และยังร่วมทุนกับบริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) จัดตั้งบริษัท แสนสิริ เวนเจอร์ จำกัด โดยบริษัทยูนิเวนเจอร์ฯถือหุ้นอยู่ 49% และได้ลงทุนร่วมกับบริษัท เอส.ยู.เอ็น แมเนจเม้นท์ จำกัด พัฒนาโครงการ ซัน สแควร์ สีลม ซึ่งเป็นศูนย์การค้า ซึ่งบริษัทถือหุ้นอยู่ 29.5%

นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ฯ เปิดเผยว่า ในฐานะที่บริษัทแอล.พี.เอ็น.เป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วน 33% ในบริษัทแกรนด์ยูนิตี้ฯ เห็นว่าส่วนหนึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่กลุ่มสิริวัฒนภักดี เข้ามาถือหุ้นในบริษัทยูนิเวนเจอร์ เพราะจะทำให้เงินทุนมีมากขึ้น สามารถขยายการลงทุนได้มาก ซึ่งเชื่อว่าการเข้ามาซื้อหุ้นใหญ่ของเสี่ยเจริญในครั้งนี้ ย่อมแสดงให้เห็นว่า บริษัทยูนิเวนเจอร์ฯมีจุดเข็งหรือข้อดี บางอย่างจนทำให้น่าสนใจลงทุน

ส่วนนโยบายการลงทุนในอนาคตของบริษัทร่วมทุนแกรนด์ยูนิตี้ฯนั้น ตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยในกลุ่มผู้ถือหุ้น ซึ่งคงต้องรอให้การปรับองค์กรภายหลังการเข้าไปของผู้บริหารใหม่ หรือรอนโยบายของผู้ถือหุ้นใหม่ ว่าจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะการลงทุน เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า กลุ่มดังกล่าวมีบริษัทลงทุนอสังหาฯ เช่นเดียวกัน

“ ต้องรอผู้ร่วมทุนมาคุยกันว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ซึ่งไม่ใช้เรื่องแปลกที่บริษัทขนาดใหญ่แห่งหนึ่งจะมีบริษัทลูกหรือบริษัทในเครือหลายบริษัททำธุรกิจเดียวกัน ส่วนนโยบายการลงทุนของแกรนด์ยูนิตี้ฯนั้นต้องคุยกันใหม่ด้วย เพราะที่ผ่านมาแกรนด์ยูนิตี้ จะซื้ออาคารสร้างค้างมาพัฒนา ซึ่งตอนนี้เหลือน้อยมากและแทบจะไม่มี แต่ปัจจุบันแกรนด์ยูนิตี้ยังมีโครงการที่ดำเนินการอยู่แล้ว” นายโอภาสกล่าว

ด้านนายชัยวัฒน์ โกวิทจินดาชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การดำเนินงานของปริญเวนเจอร์ จะยังคงดำเนินงานอย่างต่อเนื่องในโครงการที่เปิดขายในปีนี้ ส่วนการลงทุนต่อเนื่องนั้น จะต้องมีการหารือร่วมกันใหม่อีกครั้ง ภายหลังที่ยูนิเวนเจอร์ปรับการดำเนินงานเรียบร้อยแล้ว ซึ่งขึ้นอยู่กับนโยบายการลงทุนของผู้ถือหุ้นใหม่ แต่ต้องยอมรับว่าการเข้ามาถือหุ้นของกลุ่มสิริวัฒนภัคดี ย่อมทำให้ยุนิเวนเจอร์มีเงินทุนที่แข็งเกร็งขึ้น