Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน13 มิถุนายน 2550
แข่งอัดแคมเปญดันยอดบัตรพุ่ง4หมื่นใบธปท.ไม่ห่วงยันขยายตัว10%เหมาะสม             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารแห่งประเทศไทย

   
search resources

ธนาคารแห่งประเทศไทย
Credit Card




แบงก์ชาติเผยยอดใช้จ่ายบัตรเครดิตเดือนเม.ย.ยังชะลอลงอย่างต่อเนื่องลดวูบจากเดือนก่อน 2 พันล้าน ระบุผลยังไม่เชื่อมั่นในสถาการณ์ทางการเมือง-เศรษฐกิจ และสินเชื่อเต็มวงเงิน ขณะที่ปริมาณบัตรใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 39,000 บัตร หลังผู้ประกอบการโหมแข่งออกโปรโมชั่น แต่ยอดสินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ผู้ว่าการธปท.ยันการขยายตัวของบัตรเครดิตที่อยู่ในตระดับ 10% เป็นอัตราที่เหมาะสม

รายงานข่าวจากฝ่ายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)แจ้งถึงปริมาณบัตรเครดิตของทั้งในส่วนของธนาคารพาณิชย์ และผู้ประกอบการบัตรเครดิตที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ ณ สิ้นเดือนเมษายน 2550 ที่ผ่านมาว่า มีจำนวนบัตรเครดิตในระบบทั้งสิ้น 11,126,469 บัตร มีปริมาณที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเดือนมีนาคม 2550 จำนวน 39,306 บัตร ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นดังกล่าวเกิดจากการเร่งทำโปรโมชั่นของผู้ประกอบการที่มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรงตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา

โดยจากปริมาณบัตรเครดิตรวมแบ่งเป็นบัตรเครดิตที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ 4,453,675 บัตร เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 12,584 บัตร ออกโดยธนาคารต่างประเทศ 1,236,007 บัตร เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 2,756 บัตร และออกโดยบริษัทประกอบธุรกิจบัตรเครดิตที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (นอนแบงก์) 5,436,967 บัตร เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 23,966 บัตร

ส่วนยอดคงค้างสินเชื่อบัตรเครดิตในเดือนเมษายน 2550 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยมียอดสินเชื่อทั้งสิ้น 169,746.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าเพียง 3,363.57 ล้านบาท โดยสินเชื่อบัตรเครดิตที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์มีจำนวนทั้งสิ้น 56,991.11 ล้านบาท สินเชื่อธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ 34.522.96 ล้านบาท และนอนแบงก์ที่ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตปล่อยสินเชื่อทั้งหมด 78,232.28 ล้านบาท โดยการปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยของยอดคงค้างสินเชื่อบัตรเครดิต ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากปริมาณการใช้จ่ายที่ชะลอตัวลง เนื่องจากความไม่เชื่อมั่นในสถานการณ์บ้านเมืองและภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง และอีกส่วนมาจากในช่วงที่ผ่านมา มีบัตรเครดิตส่วนหนึ่งที่ใช้จำนวนสินเชื่อจนเต็มวงเงินแล้ว จึงทำให้ไม่สามารถใช้วงเงินเครดิตจากบัตรได้อีก

ด้านปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในเดือนเมษายนมีปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรทั้งสิ้น 68,349 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 1,988.29 ล้านบาท เป็นการลดลงของการใช้จ่ายในประเทศเป็นหลัก โดยมีปริมาณการใช้จ่าย 48,188.48 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 1,994.72 ล้านบาท โดยการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในประเทศมีการชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องจากเดือนหน้า ขณะที่การใช้จ่ายในต่างประเทศเพิ่มขึ้น มียอดการใช้จ่าย 3,191.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 786.24 ล้านบาท เนื่องจากมีคนไทยท่องเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้นในช่วงหยุดสงกรานต์ และแรงจูงใจจากการแข็งค่าขึ้นของเงินบาท

และยอดการเบิกเงินสดล่วงหน้ายังคงอยู่ในระดับสูงขึ้นกว่าช่วงก่อนหน้า แม้ว่าจะลดลงจากเดือนก่อน โดยในเดือนเม.ย.มียอดเบิกเงินสดล่วงหน้าทั้งสิ้น 16,969.01 ล้านบาทลดลงจากเดือนก่อนหน้า 889.81 ล้านบาท

ด้านนางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงกรณีที่ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ(บีไอเอส)ออกมาเตือนถึงความร้อนแรงการเติบโตธุรกิจบัตรเครดิตของสถาบันการเงินปรเทศต่างๆในแถบเอเชีย ซึ่งเกรงว่าอาจมีผลทำให้อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงของสถาบันการเงินลดลงว่า จากการที่ธปท.สำรวจธุรกิจบัตรเครดิตพบว่าขณะนี้ธุรกิจสินเชื่อบัตรเครดิตยังไม่มีปัญหา ขณะเดียวกันเมื่อเทียบสัดส่วนระหว่างสินเชื่อบัตรเครดิตกับสินเชื่อโดยรวมในระบบยังอยู่ที่ระดับ 2-3%ของสินเชื่อโดยรวม ถือว่าสัดส่วนยังไม่สูงมากนัก

ทั้งนี้ เป็นผลมาจากที่ผ่านมาธปท.มีการออกกฎเกณฑ์ต่างๆ ให้สถาบันการเงินมีการปล่อยสินเชื่อประเภทนี้อย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะกรณีที่มีการกำหนดคุณสมบัติของผู้ถือบัตรเครดิตให้รายได้ขั้นต่ำไม่เกิน 15,000 บาท ดังนั้น การขยายตัวของธุรกิจบัตรเครดิตขยายตัวไม่มากเกินไป ถือเป็นการป้องกันปัญหาที่จะเกิดล่วงหน้า

"ประเทศต่างๆ ในแถบเอเชีย อาทิ ไต้หวัน เกาหลี จากที่เคยมีปัญหา ตอนนี้ก็สามารถแก้ปัญหาได้แล้ว ส่วนการเติบโตธุรกิจบัตรเครดิตของไทยในขณะนี้ก็ไม่ได้หวือหวามากนัก เมื่อเทียบกับในช่วงอดีตที่เคยผ่านมา โดยจากเดิมที่เคยเติบโตถึง 40% แต่วันนี้อัตราการเติบโตเหลือเพียงกว่า 10% เท่านั้น จึงยืนยันได้ว่าธุรกิจบัตรเครดิตตอนนี้ยังไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด”นางธาริษา กล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us