Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน12 มิถุนายน 2550
เมเจอร์ฮุบ40%หุ้นไทยทิคเก็ตขายตั๋วเบ็ดเสร็จ             
 


   
www resources

โฮมเพจ เมเจอร์ซินีเพล็กซ์

   
search resources

ไทยทิกเก็ตมาสเตอร์
เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป, บมจ.
วิชา พูลวรลักษณ์




เมเจอร์ฯสยายปีก กระโดดเข้าถือหุ้นในไทยทิคเก็ตมาสเตอร์ดอทคอม 40% มูลค่า 30 ล้านบาท พร้อมปรับเปลี่ยนชื่อเป็น ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ หลังฝ่ายผู้ถือหุ้นไทยทิคเก็ตฯเปิดทางให้ หวังสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจการจำหน่ายบัตร ชี้งานคอนเสิร์ตต่างประเทศลดน้อยถอยลงเหตุหวั่นไม่ปลอดภัย

นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทางกลุ่มเมเจอร์ฯได้เข้าไปเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ บริษัท ไทยทิคเก็ตมาสเตอร์ ดอทคอม จำกัด โดยเข้าไปลงทุนในสัดส่วน 40% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด หรือประมาณ 30 ล้านบาท ส่วนกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของไทยทิคเก็ตลดสัดส่วนหุ้นเหลือ 60% พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่เป็น บริษัท ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ จำกัด โดยมีเป้าหมายที่ต้องการขยายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักเพื่อขยายการเติบโตให้มากขึ้น

ก่อนหน้านี้ ทางเมเจอร์ฯก็ได้เข้าร่วมทุนกับพันธมิตรธุรกิจอย่างเช่น บริษัท สยามฟิวเจอร์ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 21.7% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด และบริษัท แคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์พีเรียนซ์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 36.7% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด

การเข้าร่วมทุนกับไทยทิคเก็ตฯครั้งนี้ จะทำให้บริษัทฯสามารถขยายธุรกิจการจำหน่ายตั๋วได้มากขึ้น นอกเหนือจากตั๋วหนัง โดยผ่านประสบการณ์และศักยภาพของไทยทิคเก็ตฯที่ให้บริการจำหน่ายบัตรมากกว่า 5 ล้านใบและมากกว่า 400 งานแสดงมาแล้ว ทั้งอีเวนต์ที่จัดขึ้นเองและที่จำหน่ายบัตรอย่างเดียว โดยปีที่แล้วไทยทิคเก็ตฯมีกำไรประมาณ 40-50 ล้านบาท

ทั้งนี้ เมเจอร์ฯจะเริ่มให้บริการในฐานเป็นเซอร์วิสโพรวายเดอร์ได้โดยเริ่มต้นที่สาขารัชโยธิน สยามพารากอน และดิเอสพละนาด และคาดว่าในช่วงเดือนสิงหาคมจะสามารถให้บริการได้ครอบคลุมทุกสาขา ในการเป็นจุดจำหน่ายตั๋วต่างๆ

นายไบรอัน แอล มาร์การ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยทิคเก็ตมาสเตอร์ดอทคอม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของกลุ่มบีอีซีเทโร กล่าวว่า ทางบริษัทฯมีการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายบัตรมากขึ้นทุกปี รวมทั้งมีการพัฒนาระบบการจำหน่ายบัตรงานแสดงจนสามารถนำไปขายยังต่างประเทศได้ และขยายสู่การจำหน่ายบัตรรถโดยสารทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันนี้ บริษัทฯมีสาขาที่เปิดให้บริการ 8 สาขา คือ บีทูเอสเซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลชิดลม, เซ็นทรัลลาดพร้าว, เซ็นทรัลปิ่นเกล้า, เซ็นทรัลบางนา, เซ็นทรัลรังสิต, เมืองไทยรัชดาลัย และบิ๊กซีหัวหมาก

นายโชคชัย เอี่ยมฤทธิไกร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ จำกัด กล่าวว่า ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลง บริษัทฯมีอัตราการเติบโต 7% โดยคาดว่าในปีนี้จะมีผลประกอบการที่เติบโต 10% โดยจะมียอดขายประมาณ 1,100 ล้านบาท หรือยอดขายตั๋วประมาณ 1.6 ล้านใบ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มียอดขายประมาณ 1,000 ล้านบาท และมียอดขายตั๋วประมาณ 1.5 ล้านใบ

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ของธุรกิจการจัดคอนเสิร์ตและบิ๊กอีเวนต์ที่ผ่านมาไม่ค่อยดีนัก โดยเฉพาะในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ พบว่า ตลาดรวม มีจำนวนงานที่ลดลงอย่างมาก เหลือแค่ 7-8 งานเท่านั้นเอง ขณะที่ปีที่แล้วมีมากกว่า 30 งานที่เป็นคอนเสิร์ตต่างประเทศ

“ สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดมากจากการที่ บ้านเรามีปัญหาเรื่องการลอบวางระเบิด และเหตุการณ์ระเบิดหลายจุดในภาคใต้และในกรุงเทพฯช่วงต้นปี ส่งผลให้เกิดความไม่เชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของผู้ที่จะมาทัวร์คอนเสิร์ต จึงทำให้ตลาดเติบโตน้อยลง ซึ่งงานที่เป็นงานใหญ่เพิ่งจบไปก็เช่น คอนเสิร์ตของอีริค แคลปตัน และคอนเสิร์ตของเรน”

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของธุรกิจคอนเสิร์ตหรืออีเวนต์ของไทยเองกลับมีการเติบโตที่ดี เช่น ละครเวทีเรื่องฟ้าจรดทรายของ บอย-ถกลเกียรติ วีรวรรณ มียอดขายที่ขายไปแล้วประมาณ 100 ล้านบาท สำหรับในช่วงครึ่งปีหลังนี้ งานของบริษัทฯเริ่มมีมากขึ้น โดยขณะนี้มีเฉลี่ยประมาณ 15 งานต่อเดือน ทั้งงานคอนเสิร์ตการแสดง อีเวนต์ต่างๆทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น คอนเสิร์ตเองเกิลเบิร์ตเดือนสิงหาคม, การแข่งขันเทนนิสไทยแลนด์โอเพ่นเดือนกันยายน การแสดงดิสนีย์เมจิกเดือนตุลาคม คอนเสิร์ตลิงคินพาร์คเดือนพฤศจิกายน เป็นต้น ซึ่งบริษัทฯจะเน้นตลาด คอนเสิร์ต อีเวนต์ ซึ่งเป็นสัดส่วนรายได้หลักมากกว่า 90% และที่มาแรงในเวลานี้คือ กีฬา และที่เพิ่มเข้ามาใหม่คือ ตั๋วเดินทางของบริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส ซึ่งเริ่มจาก 16 เส้นทางและขณะนี้ก็สามารถที่จะขยายเส้นทางได้ครอบคลุมเส้นทางที่บขสให้บริการทั่วประเทศแล้ว

นายอนวัช องค์วาสิฏฐ์ รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานธุรกิจภาพยนตร์ เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป กล่าวว่า หลังจากร่วมทุนกับไทยทิคเก็ตฯแล้ว ทางเมเจอร์ฯก็จะยุบเมเจอร์ออนไลน์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่ทำเกี่ยวกับการให้บริการขายบัตรการแสดงต่างๆที่นอกเหนือจากตั๋วหนังของเมเจอร์ฯ ทำให้บริษัทใหม่ที่ร่วมทุนครั้งนี้เป็นผู้ครอบครองตลาดมากกว่า 90% ในตลาดการจำหน่ายบัตรต่างๆ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us