|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ตลาดรวมไอศกรีม 4 เดือนแรกปีนี้วูบ โตเพียงแค่ 3.6% เหตุอากาศทำเหตุ ฝนตกหนัก เผยรายใหญ่ในตลาดรายหนึ่งสะดุดเหตุช่องทางจำหน่ายลดลง ทำให้ตลาดรวมหดตัวลงไปด้วย วอลล์เดินหน้าทำตลาดไม่หยุด คุยโวช่วง 4 เดือนแรกเติบโต 20% กวาดแชร์ 60% พร้อมทั้งอัดงบตลาด 100 ล้านบาท ปั้นซับแบรนด์ วอลล์มอ ต่อ หวังผลักดันเป็นเรือธงในอนาคต หลังแชร์ตลาดรวมได้ 3%
นายเจอโรม ยีน โรเบิร์ต ชาราโชน รองประธานกรรมการบริหาร กลุ่มผลิตภัณฑ์ อาหารและไอศกรีม และ นางสาวชัญญา รอดรักขวัญ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาการตลาดผลิตภัณฑ์ไอศกรีม บริษัท ยูนิลีเวอร์
ไทย เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า มูลค่าตลาดรวมของไอศกรีมที่ไม่ใช่เป็นร้านค้านั่งทาน จากเอซีนีลเส็นระบุว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ มูลค่าตลาดเติบโตเพียง 3.6% เท่านั้นซึ่งน้อยมาก แต่ทั้งปีนี้ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะเติบโตเท่าใด ขณะที่ช่วงเดียวกันปีที่แล้วตลาดรวมโตมากถึง 20% แต่ปีที่แล้วทั้งปีมีการเติบโตถึง 25%
เหตุผลที่ทำให้ตลาดรวมเติบโตน้อยมาก มาจากหลายปัจจัยเช่น ปัญหาทางด้านสภาพภูมิอากาศ ซึ่งปรกติแล้วในช่วงเดือนเมษายนจะเป็นฤดูกาลขายหลักของไอศกรีมแต่ปรากฏว่ามีฝนตกตลอด อีกทั้งในช่วงเดือนมกราคมก็มีอากาศหนาวทำให้การบริโภคไอศกรีมลดน้อยลงด้วย โดยสถิติการบริโภคไอศกรีมของคนไทยอยู่ที่ 2.5 ล้านลิตรต่อคนต่อปีเมื่อปีที่แล้ว เพิ่มจากปี 2548 ที่บริโภค 2.1 ลิตรต่อคนต่อปี แต่ก็ยังน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ทำให้โอกาสที่ตลาดเติบโตยังมีอีกมาก
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า อีกสาเหตุที่ทำให้ตลาดรวมตกลงก็เพราะว่า ผู้ประกอบการรายใหญ่รายหนึ่งที่มีแชร์ในตลาดติดท็อปทรี ได้เกิดปัญหาทางด้านการทำตลาดขึ้น โดยเฉพาะในด้านของช่องทางการจำหน่ายที่เสียไปมาก ทำให้ตลาดหายไปมากกว่า 40% จึงทำให้การบริโภคในตลาดรวมหายไปมาก
โดยปัจจุบันผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดไอศกรีมในไทยประกอบด้วย วอลล์ เนสท์เล่ ยูไนเต็ด ครีโม เป็นต้น โดยตลาดไอศกรีมเมืองไทยมีมูลค่ารวม 8,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ประเภทอิมเพลาส์ 80% ประเภทเทคโฮม 20% ขณะที่ไอศกรีมประเภทเทคโฮมกลับมีการเติบโตมากถึง 30%
สำหรับในส่วนของวอลล์นั้น ช่วง 4 เดือนแรกผลประกอบการโดยรวมของกลุ่มไอศกรีมเติบโต 20% และมีแชร์รอบล่าสุดเมื่อเดือนเมษายนนี้ประมาณ 60% โดยที่ซับแบรนด์ วอลล์ มอ ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อประมาณ 10 เดือนที่ผ่านมา ส่วนแบ่งในตลาดรวม 3% แต่มีส่วนแบ่งในกลุ่มไอศกรีมเด็กประมาณ 5% ซึ่งมีส่วนช่วยทำให้แชร์รวมของวอลล์เพิ่มมากขึ้นด้วย
โดยมูลค่าตลาดรวมไอศกรีมในไทยมีประมาณ 8,000 ล้านบาท แบ่งเป็น เซกเมนท์เด็กสัดส่วน 30% จากมูลค่าตลาดรวม ส่วนเซกเมนท์วัยรุ่นมีสัดส่วนประมาณ 30% เซกเม้นท์เทคโฮมมีสัดส่วนประมาณ20% และอื่นๆมีสัดส่วประมาณ 20% ซึ่งในส่วนของวอลล์นั้นมีซับแบรนด์ที่ครอบคลุมทุกกลุ่มป้าหมายจึงทำให้สามารถเพิ่มทางเลือกและเจาะถึงกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุมจึงทำให้มีส่วนแบ่งตลาดมากขึ้น ในตลาดไอศกรีมเซกเมนท์กลุ่มเด็กแบรนด์วอลล์มีซับแบรนด์แพดเดิลป๊อป และ มอ ส่วนเซ็กเม้นท์วัยรุ่นมีคอร์เน็ตโต เซกเมนท์เทคโฮมมีวอลล์ซีเลคชั่น และกลุ่มอื่นๆเช่น เซกเมนท์ ผู้ใหญ่มีแม็กนั่ม แบรดน์เอเชียนดีไลท์สำหรับไอศกรีมรสชาติเอเชีย หรือวอลล์มินิสำหรับไอศกรีมที่ทานแบบสแน็ก ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตค่อนข้างดีอีกกลุ่มหนึ่ง
อัด100ล้านปั้นซับแบรนด์“มอ”ต่อ
นายเจอโรม กล่าวต่อถึง แผนการทำตลาดสำหรับไอศกรีมซับแบรนด์ วอลล์ มอ ที่ผสมแคลเซียม ด้วยว่า ในปีนี้จะทุ่มงบการตลาดโดยรวมสำหรับ “มอลล์วอ” ทั้งปีประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อทำการตลาดในรูปแบบ 360 องศา ทั้งอะโบฟเดอะไลน์และบีโลว์เดอะไลน์ ทั้งการโฆษณาผ่านสื่อทีวี สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อรถไฟใต้ดิน เป็นต้น การจัดกิจกรรมต่างๆ การจัดทำโปรโมชั่น การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ และการทำ วอลล์ มอเดอร์แลนด์เป็นต้น ซึ่งเป็นการสานต่อจากการตลาดที่เริ่มทำมาเมื่อปีที่แล้วอย่างเต็มที่ และได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี และหวังที่จะผลักดันให้วอลล์มอเป็นเรือธงหนึ่งในกลุ่มไอศกรีมเด็ก
ล่าสุดได้วางตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่ในหลายรูปแบบเพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีเพียงรูปแบบไอศกรีมแท่งราคา 12 บาทเท่านั้น เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคและสร้างโอกาสในการขยายตัวด้วย โดยเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ได้วางตลาดรูปแบบ ซื้อกลับบ้านหรือเทคโฮม ราคา 79 บาท ผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรดเป็นหลัก และล่าสุดในเดือนนี้ได้วางผลิตภัณฑ์ในรูปแบบวอลล์มอ แซนด์วิช แบบเดี่ยวราคา 10 บาท และแบบแซนด์วิชมัลติแพ็ค 10 ชิ้นราคา 89 บาท เป็นรายแรกในตลาดไอศกรีม และประมาณเดือนหน้าจะวางตลาดรูปแบบไอศกรีมโคนราคา 15 บาท
ส่วนโครงการ วอลล์มอเดอร์แลนด์ นั้น ถือเป็นกิจกรรมพิเศษ ที่จะจัดโรดโชว์ไปตามโรงเรียนต่างๆจำนวน 60 แห่ง เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเด็กอายุระหว่าง 6-14 ปี ประมาณ 30,000 คนเริ่มวันที่ 18 มิถุนายนนี้ จนถึงกลางเดือนกันยายนศกนี้ เพื่อเป็นการขยายฐานตลาด และให้ความรู้เกี่ยวกับความสำคัญของแคลเซียมที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
|
|
|
|
|