|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ททท.ปลื้ม ตลาดยุโรป-สแกนถึงสิ้นปีโตกว่า 20% ทะลุเป้าหมายจากทุกปีที่โตราว 15% ระบุชัดคนสแกนยังชื่นชอบมาเที่ยวประเทศไทย เล็งขยายฐานลูกค้าดึงตลาดกอล์ฟ เรือยอร์ช เที่ยวไทยตลอดปี ด้าน TUI ทัวร์ยักษ์ใหญ่จากสแกน เผยปีนี้เพิ่มเดสติเนชั่นใหม่ นอกเหนือจากภูเก็ต เล็งไฮไลน์ เกาะช้าง, ชุมพร,ขนอม และสุราษฎร์ ยาหอมไทยเป็นที่หนึ่งในอินโดจีน
นายอานุภาพ ธีรรัฐ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงาน แฟรงเฟิร์ท เปิดเผยว่า สถานการณ์นักท่องเที่ยวจากกลุ่มยุโรป โดยเฉพาะตลาดในกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย เยอรมัน ออสเตรีย และรัสเซีย มีแนวโน้มการเติบโตสูง โดยคาดว่าปีนี้จะเติบโต 20-25% มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะเติบโตที่ระดับ 10-15% ซึ่งการเติบโตในปีนี้น่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยเท่ากับ หรือมากกว่าเมื่อปีก่อนเกิดเหตุการณ์สึนามิ โดยปี 2549 นักท่องเที่ยวจากยุโรปเดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยกว่า 3.32 ล้านคน เพิ่มจากปีก่อนหน้าราว 23% สำหรับปีนี้ 4 เดือนแรก ชาวยุโรปเดินทางเข้ามาประเทศไทยแล้ว กว่า 1.14 ล้านคน เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 12.94%
ทั้งนี้ล่าสุดยอดบุ๊คกิ้งของนักท่องเที่ยวจากกลุ่มยุโรปและสแกนดิเนเวียที่จะเดินทางเข้ามาประเทศไทยช่วงปลายปีนี้มีมากกว่า 50% ซึ่งเป็นยอดที่มากกว่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของทุกปี ซึ่งการเดินทางจะมาทั้งกับเที่ยวบินปกติ เช่น สายการบิน สวิสแอร์ไลน์ หรือ SAS ที่เดือนตุลาคมปีนี้จะเพิ่มเที่ยวบินเป็น 7 ไฟล์ท ต่อสัปดาห์ จากขณะนี้บินอยู่ที่ 2 ไฟล์ทต่อสัปดาห์ นอกจากนั้นยังมีเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟล์ท) ที่บริษัทนำเที่ยวจะจัดเข้ามาอีกจำนวนมาก ซึ่งจะเริ่มทยอยเดินทางเข้ามาตั้งแต่เดือนกันยายนปีนี้ ถึง กุมภาพันธ์ปีหน้า
อย่างไรก็ตาม จากการที่นักท่องเที่ยวตลาดนี้เพิ่มมากขึ้น บริษัทนำเที่ยวจึงได้กระจายนักท่องเที่ยวออกไปพักในแหล่งท่องเที่ยวใหม่ เช่น ชุมพร ขนอม ระนอง และ สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย) โดยเฉพาะ ที่ ชุมพร และ ขนอม ถือเป็นปีแรก ที่จะได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ นอกจากนั้น บริษัทนำเที่ยว ยังนำเสนอโปรแกรมการเดินทางไปเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยว ในเดสติเนชั่นอื่นๆ อาทิ เชียงใหม่ เชียงราย และ บางจังหวัดในภาคอีสาน
นายอานุภาพ กล่าวอีกว่า มีแนวคิดที่จะขยายตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มสแกน กลุ่มนีชมาร์เก็ต เช่น ตลาดกอล์ฟ และ กลุ่มนักเล่นเรือยอร์ช โดยจะชูให้ประเทศไทย เป็นเดสติเนชั่น ที่นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้สามารถเดินทางมาเล่นกิจกรรมดังกล่าวได้ตลอดทั้งปี เพราะประเทศเหล่านี้จะมีอากาศที่หนาวเย็น ไม่สามารถแล่นเรือยอร์ช
หรือตีกอล์ฟได้ทั้งปี และนอกจากนั้นยังเป็นการกระจายความเสี่ยง หากในอนาคตภาวะโลกร้อนจะทำให้สแกนดิเนเวีย มีช่วงฤดูหนาวน้อยลง แต่เขาก็ยังสามารถเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยเพื่อทำกิจกรรมอื่นได้
“ปัจจุบันยอมรับว่า งบประมาณการทำตลาดของททท.มีจำกัด เราไม่มีเงินมากพอที่จะจัดกิจกรรมทางการตลาดเพื่อขยายฐานนักท่องเที่ยวไปสู่กลุ่มนีชมาร์เก็ตมากนัก จึงทำได้เพียงตลาดแมส ซึ่งเป็นตลาดที่มีฐานนักท่องเที่ยวเยอะ ซึ่งชาวแสกนถือเป็นตลาดคุณภาพเมื่อเทียบกับนักท่องเที่ยวกลุ่มแมสในตลาดอื่น โดยมีวันพักเฉลี่ยยาว 14 วัน ค่าใช้จ่ายต่อวันประมาณ 4-5 พันบาท”
TUI โกยนักท่องเที่ยวสแกนเข้าไทยสิ้นปี
ทางด้านนาง ลิน เวสเบลด์ ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ บริษัท TUI Nordic บริษัทนำเที่ยวรายใหญ่จากสแกนดิเนเวีย กล่าวว่า ชาวสแกนชื่นชอบที่จะเดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทย โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว เพราะความคุ้มค่าของเงินที่จ่ายไปกับบริการที่ได้รับ รวมถึงมิตรภาพของคนไทย ซึ่งปลายปีนี้ บริษัทจะนำนักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศไทยไม่น้อยกว่า 1.3 แสนคน โดยกระจายไปเดสติเนชั่นต่างๆ ซึ่งปีนี้เราจะไฮไลน์แหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ เช่น เกาะช้าง เกาะเต่า เกาะมุก เกาะพงัน ส่วนแหล่งที่พักใหม่ๆ ที่เรานำเสนอนอกเหนือจากภูเก็ต ได้แก่ ชุมพร และขนอม
“ต่อปีเรานำลูกทัวร์เข้ามาเมืองไทยจำนวนมาก ส่วนใหญ่มาลงภูเก็ต ปัญหาขณะนี้คือ ความล่าช้าในการให้บริการของสนามบิน เพราะช่วงปลายปี นักท่องเที่ยวจะมาภูเก็ตเยอะ ทำให้บุคลากรและสถานที่ไม่พอรองรับ เราจึงเพิ่มทางเลือกให้ลูกทัวร์ไปเดสติเตชั่นอื่นๆบ้าง”
อย่างไรก็ตาม ช่วงฤดูหนาวปลายปีนี้ บริษัทจะพานักท่องเที่ยวจากโดยชาร์เตอร์ไฟล์ทประมาณ 26 ไฟล์ท ต่อสัปดาห์ สำหรับตลาดเมืองไทยปีนี้บริษัทน่าจะทำยอดขายได้มากขึ้นกว่าปีก่อน 30% สำหรับประเทศอื่นๆในอินโดจีน ที่ บริษัทมีการทำตลาดบ้าง ได้แก่ กัมพูชา เวียดนาม แหล่งท่องเที่ยวจะเป็นหาดทราย ชายทะเลเช่นกัน แต่ตลาดยังเล็กมากเมื่อเทียบกับไทย
|
|
|
|
|