Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน8 มิถุนายน 2550
เอ็นพาร์คดิ้นปรับหนี้ก้อนโต             
 


   
www resources

โฮมเพจ แนเชอรัล พาร์ค

   
search resources

แนเชอรัล พาร์ค, บมจ.
เสริมสิน สมะลาภา
Real Estate




เอ็นพาร์ค ลุ้นแผนแก้ไขหนี้กับแบงก์นครหลวงไทย-กรุงไทย หลังพยายามอย่างสุดชีวิตเพื่อปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้ และยืนหยัดในธุรกิจอสังหาฯต่อ ระบุเสนอ 4 แนวทางการปรับหนี้กับแบงก์นครหลวงไทย เพื่อขอให้ระงบการขายทอดตลาดหุ้น "SIRI-PA" ขณะเดียวกันได้ตัดสินใจขายหุ้นในซินเท็คฯเพิ่มกว่า 89 ล้านหุ้น รับรายได้กว่า 90 ล้านบาทชำระดอกเบี้ยและเงินต้นแบงก์กรุงไทย เปรยอาจมีข่าวดีกลุ่มทุนฮ่องกง สนใจซื้อหุ้นยกล็อต 23 ล้านหุ้นในกองทุนรวมอสังหาฯ ยูโอบีอพาร์ตเมนต์ หนึ่งด้านกรุงไทยยันพร้อมช่วยเหลือลูกหนี้แต่ต้องดูเงื่อนไขที่เสนอมาก่อน

จากการที่เกิดความสับสนในสถานะของบริษัทอันเนื่องมาจากคดีล้มละลายในอดีตส่งผลให้บริษัทยังไม่สามารถหาแหล่งเงินกู้ใหม่ (รีไฟแนนซ์) เพื่อมาชำระคืนหนี้แก่ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCIB และธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) หรือ KTB ได้ นั้นล่าสุดนายเสริมสิน สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) (N-PARK)เปิดเผยว่า

ในส่วนของธนาคารนครหลวงไทยฯ บริษัทได้พยายามเจรจาขอผ่อนผันระยะเวลาชำระหนี้มาโดยตลอด แต่แผนการชำระหนี้ของบริษัทได้ถูกปฏิเสธและวานนี้ (7มิ.ย.) บริษัทเพิ่งรับทราบจากประกาศในหนังสือพิมพ์รายวันฉบับหนึ่งว่า ธนาคารนครหลวงไทยจะทำการขายทอดตลาดหุ้นสามัญบริษัท แปซิฟิค แอสเซ็ทส์ จำกัด (มหาชน) (PA) จำนวน 177,020,236 หุ้น และบริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน)(SIRI) จำนวน 205,000,000 หุ้น ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทที่ได้นำมาจำนำเป็นประกันการชำระหนี้ต่อธนาคารนครหลวงไทย

อย่างไรก็ดี ทันทีที่บริษัททราบข่าวก็ได้รีบติดต่อกับธนาคารนครหลวงไทยเพื่อขอเจรจาเป็นครั้งสุดท้าย หากทราบผลการเจรจา บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบต่อไป

แหล่งข่าวจากบริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ N-PARK เปิดเผยถึง แนวทางการปรับโครงสร้างหนี้ที่เสนอต่อธนาคารนครงหลวงไทย ว่า บริษัทยื่นข้อเสนอแนวทางการปรับโครงสร้างหนี้และการชำระหนี้คืนรวมทั้งหมด 4 แนวทาง ประกอบด้วย แนวทางแรก ขอให้ธนาคารระงับการขายทอดตลาดทรัพย์หลักประกันหุ้นสามัญในบมจ.แสนสิริ (SIRI) และ บมจ.แปซิฟิค แอสเซ็ทส์ (PA) ไว้ก่อน เพื่อไม่ให้การดำเนินการทางกฎหมายส่งผลให้การดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ชะงักลง

โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้จัดหานักลงทุนที่มีความสนใจที่จะลงทุนคือ Grant Thornton (Grant) ซึ่งเบื้องต้น Grant แจ้งให้ทราบว่ามีกองทุนจากต่างประเทศสนใจจะลงทุนในหุ้น SIRI ที่บริษัทถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 24.61% ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบเบื้องต้นในเอกสารที่เกี่ยวข้อง และคาดว่าสามารถได้ข้อสรุปภายในวันที่ 15 กรกฎาคม 2550 ซึ่งบริษัทจะนำเงินที่ได้ไปไถ่ถอนหุ้น SIRI จำนวน 205 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 615 ล้านบาท (อ้างอิงราคาตลาดเฉลี่ยประมาณหุ้นละ 3.00 บาท)

"บริษัทขอให้ธนาคารระงับการขายทอดตลาดทรัพย์หลักประกัน เพราะไม่ต้องการให้ธนาคารเกิดความเสียหาย ซึ่งการการทอดตลาดจะส่งผลในเชิงลบต่อมูลค่าหุ้น จากมูลค่าหลักประกันที่คิดตามราคาตลาดเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1,500 ล้านบาท และไม่รู้ว่าเมื่อใดจะขายหุ้นหมด ซึ่งจะทำให้ธนาคารได้รับเงินน้อยกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็นตามราคาตลาด และเป็นผลให้ธนาคารได้รับชำระหนี้ไม่ครบถ้วน"

แนวทางที่สอง บริษัทขอละเว้นเบี้ยปรับที่เกิดขึ้นทั้งจำนวน รวมทั้งสิ้น 247 ล้านบาท เนื่องจากเป็นจำนวนเงินที่ค่อนข้างสูงมาก และจะเป็นเหตุให้การปรับโครงสร้างหนี้และการชำระหนี้ของบริษัทไม่ประสบผลสำเร็จ แต่บริษัทจะยังคงชำระดอกเบี้ยในอัตราเอ็มแอลอาร์ตามปกติ

แนวทางที่สาม ขยายระยะเวลาชำระคืนหนี้ส่วนที่เหลือจากการชำระคืนหนี้จากการไถ่ถอนหุ้นจำนำ SIRI ให้เสร็จสิ้นภายใน 3 เดือน นับจากวันที่ 15 กรกฎาคม 2550 โดยมีแหล่งเงินทุนจากการขายหุ้นที่ถืออยู่ใน BMCL จำนวน 820.26 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 6.86% ซึ่งเบื้องต้นบริษัทจะขายหุ้นจำนวนดังกล่าวให้กับบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หากคำนวณอ้างอิงตามราคาตลาดเฉลี่ยที่หุ้นละ 1.00 บาท มูลค่ารวม 820 ล้านบาท

นอกจากนี้ ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างหานักลงทุนที่มีความสนใจที่จะลงทุนในหุ้น PA ที่บริษัทถืออยู่ในสัดส่วน 62.5% (ติดภาระจำนำกับธนาคาร 53%) มูลค่าหุ้นจำนำกับธนาคารคำนวณอ้างอิงตามราคาตลาดเฉลี่ยที่หุ้นละ 5.00 บาท หรือประมาณ 885 ล้านบาท

แนวทางที่สี่ ในดอกเบี้ยคงค้างในอัตราปกติ MLR ตามที่ธนาคารได้แจ้งให้บริษัททราบในเบี้องต้น โดยธนาคารคำนวณจนถึงวันที่ 6 มิถุนายน 2550 เป็นจำนวน 56 ล้านบาทนั้น บริษัทจะเร่งหาเงินมาเพื่อชำระดอกเบี้ยคงค้างในจำนวน 30 ล้านบาทก่อน ในวันที่ธนาคารแจ้งผลอนุมัติการปรับโครงสร้างหนี้ต่อบริษัท ส่วนจำนวนที่เหลือบริษัทใคร่ขอความกรุณาธนาคารผ่อนผันให้บริษัทนำเงินที่ได้มาเพื่อไถ่ถอนหุ้นจำนำ SIRI มาชำระคืนหนี้ดอกเบี้ยคงค้างพร้อมต้นเงินกู้ในคราวเดียวกัน

ส่วนภาระหนี้ของธนาคารกรุงไทย (KTB) บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาขอผ่อนผันระยะเวลาชำระหนี้ แต่เพื่อประคองสถานการณ์ บริษัทจึงขายหุ้นสามัญของบริษัท ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) บางส่วนเพื่อมาชำระดอกเบี้ย และเงินต้น ซึ่งขณะนี้บริษัทได้ขายหุ้นสามัญบริษัท ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) อีกเป็นจำนวน 89,339,901 หุ้น ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 1.01 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 90,515,300 บาท

ก่อนหน้านี้ ทางบริษัทประสบความสำเร็จในการขายที่ดินที่เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ให้แก่กลุ่มนายเอเดรียน เซชา (Adrian Zecha) ที่ซื้อมา 7 ล้านเหรียญสหรัฐ และขายในราคา 9 ล้านเหรียญหรือประมาณ 315 ล้านบาท

สามารถทำกำไรมาได้ส่วนหนึ่ง นอกจากนี้ ทางกลุ่มนักลงทุนจากฮ่องกง ได้เจรจากับทางบริษัทเพื่อเข้ามาซื้อหุ้นที่ถืออยู่ในกองทุนรวมอสังหาฯ ยูโอบีอพาร์ต เมนต์ จำนวน 23 ล้านหุ้นหรือคิดเป็นสัดส่วน 27.06% ซึ่ง ณ 30 เม.ย. 2550 กองทุนฯมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 906,784,107.26 บาท มูลค่าหน่วยลงทุน 10.6680 โดยในไตรมาสแรกกองทุนฯมีกำไรสุทธิเพิ่มเป็น 13.064 ล้านบาท เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปี 2549 ที่มีกำไรสุทธิ 10.322 ล้านบาท

นายเสริมสินกล่าวยืนยันว่า บริษัทยังมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่องโดยใช้แนวทางทั้ง 5 แนวทางไปพร้อม ๆ กัน ได้แก่ 1. การหาทางออกเรื่องคดีล้มละลายในอดีต 2. การเจรจากับเจ้าหนี้ 3. การเพิ่มทุน 4. การหาพันธมิตรร่วมทุนในโครงการต่างๆ และ 5.การขายสินทรัพย์ หากบริษัทมีความคืบหน้าในการแก้ปัญหาประการใด บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบต่อไป

กรุงไทยแย้มพร้อมช่วยเหลือเอ็นพาร์ค

ด้านนายสันติ วิลาศศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในฐานะประธาน กรรมการบรรษัทภิบาลธนาคารกรุงไทยฯ กล่าวถึงข้อเสนอที่ทางบริษัท แนเชอรัลฯ ขอผ่อนผันหนี้กับธนาคารฯว่า โดยส่วนตัวยังไม่ทราบรายละเอียด เนื่องจากเรื่องดังกล่าวยังไม่ได้เข้าสู่การพิจารณาของกรรมการชุดใหญ่ ซึ่งจะต้องปล่อยให้คณะกรรมการพิจารณาเรื่องนี้ก่อนว่าเป็นอย่างไร

อย่างไรก็ตามเชื่อว่าทางธนาคาร พร้อมที่จะให้บริษัทเข้ามาเจรจาปรับโครงสร้างหนี้อยู่แล้ว แต่การผ่อนผันหนี้จะเป็นอย่างไรจะต้องขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ทางเอ็นพาร์คเสนอมาก่อนว่าเป็นอย่างไร และจะต้องขึ้นอยู่กับมติของคณะกรรมการบริหารว่าจะเป็นอย่างไร

"ทางแบงก์อยากที่จะให้ลูกค้ามาปรับโครงสร้างหนี้อยู่แล้ว ไม่ใช่แค่เอ็นพาร์คที่เดียว ซึ่งในส่วนของเอ็นพาร์คทางธนาคารกรุงไทยได้ตัดหนี้เป็น NPL ไปแล้ว หากมีการปรับโครงสร้างหนี้ก็จะทำให้หนี้ NPL ลดลงได้แต่ก็ต้องดูเงื่อนไขก่อนว่ายอมรับได้หรือไม่ ซึ่งจะพิจารณาเรื่องนี้ให้จบภายในเดือนนี้ได้หรือไม่ยังบอกไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องยาก" นายสันติ กล่าว

ด้านนายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการธนาคารฯ กล่าวเพียงว่า ตนไม่ทราบในเรื่องดังกล่าวต้องสอบถามฝ่ายบริหารเอง ซึ่งในหลักการก็ไม่สามารถตอบได้เหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไร   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us