|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ทรู เอาใจคอลูกหนัง ทุ่ม 1,500 ล้านบาท คว้าสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 3 ฤดูกาล ครบทุกช่องทาง หวังส่งต่อสร้างฐานรายได้ให้ 3 ธุรกิจหลักโตต่อเนื่อง สนองนโยบายผู้นำด้านคอนเวอร์เจนซ์ มั่นใจเพิ่มลูกค้าใหม่ให้ทรูวิชั่นส์อีกไม่ต่ำกว่า 1 แสนราย พร้อมดันทรูมูฟมีแชร์ลูกค้าใหม่ในตลาดมือถือติด 1 ใน 3
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามแผนของบริษัทฯที่วางไว้ หลังประกาศตัวเป็นผู้นำด้านคอนเวอร์เจนซ์ ที่จะพัฒนาคอนเท้นต์ที่เกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็น ทางด้าน กีฬา เพลง การศึกษา วัฒนธรรม รวมไปถึงด้านอาหาร ให้มีการสร้างรายได้มากยิ่งขึ้น ผ่าน 3 ธุรกิจหลัก คือ ทรูวิชั่นส์ ทรู ออนไลน์ และทรูมูฟนั้น
ล่าสุดบริษัทฯได้วางงบประมาณกว่า 1,500 ล้านบาท ในการขอซื้อลิขสิทธ์โดยตรงจาก FAPL หรือ Football Association Premier League เป็นผู้ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเพียงรายเดียวในประเทศไทย 3 ฤดูกาลต่อเนื่อง ตั้งแต่ 2007/2008-2009/2010 ครบทุกแมตช์การแข่งขัน จำนวนกว่า 380 แมตช์ต่อฤดูกาล ผ่านช่องกีฬาต่างๆของทรูวิชั่นส์ ยูบีซี
“เดิมการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกนี้ ทางช่องอีเอสพีเอ็น เป็นผู้ได้รับลิขสิทธิ์ดังกล่าวในการถ่ายทอดสดยังภูมิภาคนี้ โดยทางทรูวิชั่นส์เป็นผู้ซื้อสัญญาณการถ่ายทอดสดต่ออีกทีหนึ่งจากทางอีเอสพีเอ็น ในการนำมาแพร่ภาพให้คนไทยดู ด้วยจำนวนเงินสูงถึง 300 ล้านบาทต่อฤดูกาล แต่กลับไม่สามารถถ่ายทอดสดได้ครบทุกแมตช์ของการแข่งขัน จึงทำให้บริษัทฯมีแนวคิดซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดโดยตรงจาก FAPL ในการถ่ายทอดสดในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียวในครั้งนี้นั้นเอง”
โดยสิทธิ์ในครั้งนี้ บริษัทฯสามารถทำการถ่ายทอดสดได้ครบทุกสื่อที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นทางโทรทัศน์ ผ่าน ทรูวิชั่นส์ยูบีซี ทางอินเทอร์เน็ตผ่านทรูออนไลน์ และทางโทรศัพท์มือถือผ่านทรูมูฟ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ทาง FAPL ขายลิขสิทธิ์เป็นแพกเก็จแบบนี้ จากเดิมที่จะแยกขายลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันเป็นทีละช่องทางไป
ทั้งนี้บริษัทฯยังได้จัดโปรโมชั่นรองรับการแข่งขันดังกล่าวไว้ด้วย ด้วยการสมัครแพ๊กเก็จทรูไลฟ์ ฟรีวิว ตั้งแต่วันนี้-31 กรกฏาคม 2550 ของการใช้ทรูมูฟเดือนละ 300บาท หรือสมัครเป็นสมาชิกทรูวิชั่นส์ในซิลเวอร์แพ็กเกจและทรูโนว์เลจแพ๊กเกจ สามารถสั่งซื้อช่องพรีเมียร์ลีกเพียง 299 บาทต่อเดือน จากราคาปกติ 399 บาทต่อเดือน ซึ่งจะสามารถรับชมการแข่งขันได้ 3-5 แมตช์ต่อสัปดาห์ และยังสามารถซื้อแบบตลอดฤดูกาลการแข่งขัน ได้ในราคา 2,299 บาท ต่ำกว่าราคาปกติถึง 35 % ได้อีกทางหนึ่งด้วย
“การจัดโปรโมชั่นในครั้งนี้ คาดว่าจะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ให้กับทรูวิชั่นส์ในช่วงนี้ไม่ต่ำกว่า 1 แสนราย หรือสูงสุดที่ 3 แสนราย ของระยะเวลาในการถ่ายทอดสดตลอด 3 ฤดูกาลนี้ ขณะเดียวกันในส่วนของทรูมูฟนั้น คาดว่าจะผลักดันให้ทรูมูฟมีจำนวนลูกค้าใหม่ในสัดส่วน 1 ใน 3 ของฐานลูกค้าใหม่ของตลาดมือถือในปีนี้ได้อีกทางหนึ่งด้วย”
อย่างไรก็ตาม จำนวนลูกค้าใหม่กว่า 1 แสนครัวเรือนนี้ เมื่อคิดอัตราค่าบริการที่ 399 บาท คาดว่าต่อเดือนจะมีรายได้ประมาณ 480 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นรายได้ที่ถึงจุดคุ้มทุนแล้ว เพราะในแต่ละฤดูกาลของการแข่งขันนั้น เฉลี่ยมีค่าลิขสิทธิ์อยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทฯยังมีรายได้จากส่วนอื่นเข้ามาเสริมด้วย ไม่ว่าจะเป็นรายการที่ติดมากับการได้รับลิขสิทธ์ดังกล่าวที่จะนำมาเผยแพร่ทางช่อง ทรูสปอร์ต หรือรายได้จากช่องทางออนไลน์ และมือถือ จึงคาดว่าการซื้อลิขสิทธ์ครั้งนี้จะสร้ายรายได้ต่อบริษัทฯได้เป็นอย่างดี”
นายศุภชัย กล่าวต่อด้วยว่า อย่างไรก็ตามตามแผนแล้ว ทางบริษัทฯยังได้มีการเจรจากับทางสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวีอีกทางหนึ่งในการที่จะให้มีการร่วมถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกร่วมกัน ซึ่งในตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของรายละเอียดต่างๆอยู่ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นสถานีโทรทัศน์ช่องใด
|
|
|
|
|