|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"ดีแทค" กำหนดช่วงราคาขายไอพีโอ 35-42 บาทต่อหุ้น พีอีเรโช 14 เท่า เปิดจอง 12-13 มิ.ย. ขั้นต่ำ 500 หุ้นต่อราย พร้อมเทรด 22 มิ.ย.นี้ "ซิคเว่" คาดได้เงินระดมทุน 7.8-9.3 พันล้านบาท ระบุเพิ่มมาร์เกตแคปให้ ตลท. 1 แสนล้านบาท เปรยข่าวประกาศจ่ายปันผลในรอบกว่า 10 ปี ด้านที่ปรึกษามั่นใจได้รับการตอบรับนักลงทุนเยอะ
นายซิคเว่ เบรคเก้ ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC เปิดเผยว่า บริษัทได้กำหนดช่วงราคาเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) หุ้นละ 35-42 บาท โดยมีค่า P/E ที่ 14 เท่า เมื่อเทียบ กับหุ้นกลุ่มสื่อสารอยู่ในภูมิภาค 17 เท่า โดยราคาหุ้นที่ระดับสูงสุดนั้นต่ำกว่าราคา หุ้นของบริษัทที่ซื้อขายในตลาดหลัก- ทรัพย์สิงคโปร์ที่ 44 บาท ซึ่งคาดว่าจะสรุปราคาเสนอขายหุ้นในวันที่ 13 มิถุนายนนี้หลังก่อนหน้านี้บริษัทได้มีการนำเสนอข้อมูลแก่นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศเสร็จแล้ว
ทั้งนี้ บริษัทจะเปิดให้มีการจองซื้อหุ้นในวันที่ 12-13 มิถุนายน ผ่านสาขาของธนาคารไทยพาณิชย์และธนาคารกสิกรไทย และผ่านบริษัทหลักทรัพย์(บล.) ที่เป็นตัวแทนการจัดจำหน่ายหุ้น โดยนักลงทุนทุกคนจะจองหุ้นได้ขั้นต่ำคนละ 500 หุ้น ซึ่งหากนักลงทุนต้องการมากกว่านี้ก็ต้อง รอผลการแรนดอม ซึ่งจะมีการประกาศ รายชื่อในวันที่ 18 มิถุนายน และจะเข้า จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ในวันที่ 22 มิถุนายนนี้
สำหรับการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ 222 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 2 บาท บริษัทจะมีการเน้นกระจายหุ้นให้แก่นักลงทุนรายย่อยใน สัดส่วน 65% ส่วนอีก 35% เสนอขายแก่นักลงทุนสถาบัน เนื่องจากต้องการ ให้นักลงทุนรายย่อยในประเทศมีส่วน เป็นเจ้าของหุ้นของบริษัท ซึ่งนักลงทุน ต่างประเทศสนใจที่จะซื้อหุ้นของบริษัท จะซื้อได้โดยผ่านไทยเอ็นวีดีอาร์ เพราะ บริษัทมีข้อจำกัดด้านสัดส่วนการถือหุ้น ของนักลงทุนต่างประเทศเต็มเพดานแล้ว
นายซิคเว่ กล่าวว่า เงินที่ได้รับจากการระดมทุนในครั้งนี้ประมาณ 7,800-9,300 ล้านบาท บริษัทจะนำไปลงทุนในการขยายเครือข่ายในต่าง จังหวัดมากขึ้น โดยจะเน้นที่ภาคเหนือและใต้ เพื่อให้บริการของบริษัทครอบคลุมมากขึ้นในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯครั้งนี้ของบริษัทถือว่าเป็นจังหวะที่เหมาะสมจากปัจจัยทางการเมืองมีความชัดเจนมากขึ้น
ด้านผลประกอบการของบริษัทดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การเข้าจดทะเบียนในครั้งนี้จะส่งผลดีทางด้านเศรษฐกิจไทย โดยหลังจากการเข้าเทรดแล้วบริษัทจะมีการทำคำเสนอซื้อหุ้นและการเพิกถอนหุ้นของบริษัทยูไนเต็ดคอมมูนิเกชั่น อินดัสตรี จำกัด (มหาชน)หรือ UCOM ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ คาดใช้เวลา 2 เดือน หรือเสร็จประมาณกันยายนนี้
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้บริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่า 30% ของ กำไรสุทธิ ของผลประกอบการปี 2550 จากที่บริษัทไม่ได้มีการจ่ายเงินปันผลมานานกว่า 10 ปี เพราะบริษัทต้องนำเงินไปชำระหนี้และขยายธุรกิจ โดยการที่บริษัทจ่ายเงินปันผลได้จากการที่บริษัทมีหนี้เหลือเพียง 3.6 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นหนี้สินต่อทุน (D/E) 0.8 เท่า
นายรพี สุจริตกุล ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์(บล.)กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทาง การเงิน กล่าวว่า บริษัทมั่นใจว่าหุ้นของ ดีแทคจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากดีแทคมีฐานะการเงินที่แข็งแรง และมีผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยการระดมทุน ของดีแทคถือว่าเป็นหุ้นที่มีมูลค่าตลาด รวม (มาร์เกตแคป) ที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 4 ปี มูลค่ามาร์เกตแคปประมาณ 1 แสนล้านบาท และจะติดอันดับ 1 ใน 15 หุ้นแรกในดัชนี SET 50
ม.ล.ชโยทิต กฤดากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ไทยพาณิชย์ ในฐานะตัวแทนการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ กล่าวว่า จากที่บริษัทได้มีการไปโรดโชว์ ในประเทศอังกฤษ สิงคโปร์ ฮ่องกง ซึ่งได้เข้าพบกับผู้บริหารกองทุน (ฟันด์ แมเนเจอร์) จำนวน 100 กองทุน นักลงทุนค่อนข้างตื่นเต้นกับการที่หุ้นของ ดีแทคจะเข้ามาเทรดในประเทศไทย และ นักลงทุนดังกล่าวได้มีการติงว่าหุ้นที่จัดสรรให้แก่นักลงทุนต่างประเทศน้อยไป
|
|
|
|
|