Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน6 มิถุนายน 2550
ความเชื่อมั่นอุตฯ-การค้า-ก่อสร้างดิ่งผู้ประกอบการหันลดสินเชื่อให้ลูกค้า             
 


   
search resources

Economics




ธปท.เผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในเดือนเม.ย.2550 ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจในภาคอุตสาหกรรม การค้า และการก่อสร้าง ด้านราคาสินค้า คาดแนวโน้มการผลิตสินค้าลดลง เหตุปริมาณสินค้าคงคลังค้างสต๊อกมากขึ้นผลจากยอดขายและคำสั่งซื้อทั้งในประเทศและต่างประเทศลดลง ฝั่งผู้ประกอบการเร่งปรับตัวหันมาซื้อสินค้าด้วยเครดิตที่เคยให้กับลูกค้าลดลง หลังแบงก์ชะลอการให้สินเชื่อ

รายงานจากสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แจ้งว่า ธปท.ได้รายงานผลสำรวจความคิดเห็นของภาคธุรกิจในการจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจล่าสุดประจำเดือนเมษายน 2550 ที่ผ่านมาพบว่า ความเชื่อมั่นของนักธุรกิจในเดือนเม.ย.ยังคงลดลงต่อเนื่อง โดยนักธุรกิจในภาคอุตสาหกรรม ภาคการค้าและภาคก่อสร้างมีความเชื่อทางธุรกิจลดลงมาก ส่วนนักธุรกิจภาคขนส่งและคลังสินค้ามีความเชื่อมั่นทางธุรกิจทรงตัว แต่ธุรกิจที่เกี่ยวกับการสาธารณูปโภค การเงิน และภาคการบริการเริ่มมีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ เป็นผลมาจากธุรกรรมทางเศรษฐกิจชะลอลง ความไม่แน่นอนทางการเมืองยังมีสูง ส่งผลให้ผู้บริโภคยังขาดความเชื่อมั่นจนทำให้อุปสงค์ในประเทศชะลอตัวลง นอกจากนี้ ผลของเงินบาทแข็งค่าส่งผลกระทบต่อการส่งออกในแง่ของการแข่งขันในตลาดต่างประเทศ รวมทั้งแนวโน้มราคาน้ำมันที่สูงขึ้นส่งผลมายังต้นทุนพลังงานปรับเพิ่มขึ้นด้วย และทำให้ยอดจำหน่ายสินค้า และคำสั่งซื้อทั้งจากในประเทศและต่างประเทศปรับลดลงต่อเนื่อง ทำให้ระดับสินค้าคงคลังยังเหลือจำนวนมากส่งผลให้การผลิตสินค้ามีแนวโน้มลดลง

ส่วนราคาสินค้าโดยรวมลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้ แม้ว่านักธุรกิจส่วนใหญ่แสดงความต้องการจะขึ้นราคาสินค้าตามต้นทุนที่ปรับเพิ่มขึ้น แต่ไม่สามารถปรับขึ้นราคาสินค้าได้สะท้อนการแข่งขันที่ยังรุนแรง ยกเว้น ผู้ประกอบการในภาคการค้าปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น หลังจากมีการยกเลิกประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) เรื่องการควบคุมราคาสินค้า อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าราคาสินค้าในอีก 3 เดือนข้างหน้ายังไม่สามารถปรับขึ้นได้อยู่

นอกจากนี้ จากการสำรวจนักธุรกิจส่วนใหญ่ ยังพบว่า สภาพคล่องทางการเงินของผู้ประกอบการลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าจากสาเหตุ 2 ประการ คือ 1.ยอดจำหน่ายและปริมาณการค้าที่ลดลง และ 2.สินเชื่อที่ผู้ประกอบการได้รับจากสถาบันการเงินเริ่มลดลง ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจากธนาคารพาณิชย์มีความระวัดระวังในการปล่อยสินเชื่อและติดตามหนี้มากขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวด้วยการลดสินเชื่อการค้าหรือการซื้อสินค้าด้วยเครดิตที่เคยให้กับลูกค้าลดลงโดยเริ่มมีผู้ประกอบการที่ให้ข้อมูลว่ามีปัญหาทางการเงินเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า

ในส่วนของภาคการส่งออก ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นยังคงมีผลกระทบต่อภาคการส่งออกอย่างต่อเนื่อง เพิ่มเติมจากคำสั่งซื้อที่เริ่มปรับตัวลดลง โดยดัชนีค่าเงินบาทที่แท้จริง(REER) เดือนเม.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 91.03 จาก 90.47 ในเดือนก่อนหน้า สะท้อนความสามารถในการแข่งขันทางการค้าจากอัตราแลกเปลี่ยนของผู้ประกอบการไทยที่ลดลง   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us