แสนสิริฯ ยันรายได้หลักปี50ยังมาจากบ้านเดี่ยวตั้งเป้าทั้งปียอดขายเฉพาะบ้านเดี่ยว 8,000 ล้านบาท แจงไตรมาสแรกยอดขายบ้านเดี่ยว 1,700ล้านบาท โวยปัญหาการเมือง เศรษฐกิเติบโตลดลง มาตรการรัฐฯคลอดช้า ส่งผลลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อ เตรียมลุยเปิดตัวโครงการสราญสิริ ประชาอุทิศ ในไตรมาส2นี้ พร้อมเปิดขายเศรษฐสิริ เฟส2 วันที่ 9-10 มิ.ย.นี้
นายสมัชชา พรหมศิริ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯมีแผนจะเปิดตัวโครงการสราญสิริ ประชาอุทิศ รูปแบบบ้านเดี่ยว เจาะกลุ่มลูกค้าตลาดกลาง ราคาขาย3 -6 ล้านบาทภายในไตรมาสที่ 2 นี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำแผนและออกแบบบ้านอยู่ อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้บริษัทได้เปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยว เศรษฐสิริ ประชาชื่นเฟส 2 อยู่ติดกับทะเลสาบ เนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ จำนวน 72 ยูนิต ขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 60-100 ตารางวา ราคาขายเริ่มต้น 7.2 ล้านบาท รวมมูลค่าขายเฟส 2 ประมาณ 600 ล้านบาท โดยจะเปิดขายอย่างเป็นทางการในวันเสาร์ที่ 9 และอาทิตย์ที่ 10 มิ.ย.นี้
สำหรับโครงการเศรษฐสิริ มีพื้นที่ในการพัฒนาโครงการรวม200 กว่าไร่ มูลค่าขายรวม 6,000 ล้านบาท ขณะนี้มีการพัฒนาไปแล้ว90 ไร่ หรือประมาณ 30% ของพื้นที่รวม โดยมีจุดขายสำคัญคือ ทะเลสาบที่มีเนื้อที่ถึง 20ไร่ และคลับเฮ้าส์ที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ถึง3,000 ตร.ม. มูลค่าการก่อสร้าง 300ล้านบาท ในส่วนของเฟสแรก สามารถสร้างยอดขายไปแล้ว 230 แปลง จากจำนวนทั้งหมดที่เปิดขาย 250 แปลง มูลค่าขายรวม 2,000 ล้านบาท
นายสมัชชา กล่าวถึงภาพรวมตลาดบ้านเดี่ยวในปี 2550 ว่า ยังมีโอกาสขยายตัวต่อเนื่องจากปี 2549 แม้ว่าจะขยายตัวต่ำกว่าในช่วง2-3 ปีที่ผ่าน เนื่องจากสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจที่มีผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้า โดยในช่วงไตรมาสแรกบริษัท มียอดขายบ้านเดี่ยวรวม 1,700 ล้านบาท จากเป้าขายเฉพาะบ้านเดี่ยวทั้งปี 8,000 ล้านบาท
" สาเหตุหลัก เกิดจากลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อ เพื่อรอมาตรการสนับสนุนจากรัฐบาล ทำให้การตัดสินใจซื้อบ้านในตลาดชะลอออกไป ขณะที่การแข่งขันในตลาดบ้านเดี่ยว มีความรุนแรงไม่ต่างจากปีที่ผ่านมา โดยพบเห็นผู้ประกอบการ 2 ค่ายที่ยืนหยัด ที่จะออกมาเล่นบ้านเดี่ยวอย่างชัดเจน คือ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค และบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ฯ ที่พยายามประชาสัมพันธ์และตอกย้ำแบรนด์ของแต่ละบริษัท ในส่วนของแสนสิริ มีการสร้างแบรนด์และสื่อสารถึงลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าปีนี้จะไม่มีสื่อมีเดียหนักเท่ากับ2แบรนด์แรก แต่ได้เตรียมงบโฆษณาประชาสัมพันธ์และการตลาดรวม 450 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 3% ของยอดขายรวม" นายสมัชชากล่าวสะท้อนถึงผลต้นทุน
สำหรับในปีนี้ ทางบริษัทแสนสิริฯ คงเน้นนโยบายการพัฒนาบ้านเดี่ยวเป็นหลักเช่นเดี่ยวกับปี 2549 และคาดว่ารายได้หลักตลอดทั้งปี 2550 คงมาจากแหล่งการขายโครงการบ้านเดี่ยว โดยในไตรมาสแรกของปี 2550 กลุ่มแสนสิริฯมียอดขายแล้ว 4,500ล้านบาท แยกเป็นยอดขายจากบ้านเดี่ยว 1,700ล้านบาท ส่วนที่เหลือมาจากโครงการคอนโดมิเนียม ทาวน์เฮาส์ ของบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด และบ้านแฝดของบริษัท พร้อมพัฒนา จำกัด ส่วนยอดขายรวมทั้งกลุ่มในปีนี้ กำหนดเป้าไว้ที่ 15,000 ล้านบาท
|