เครดิตบูโรเดินหน้าปลดเอกลูกหนี้ในบริษัทบริหารสินทรัพย์อีก 4 แห่ง หวังปล่อยคืนลูกหนี้แบล็คลิสกลับคืนสู่ระบบ ระบุนับจากดำเนินการมีลูกหนี้คืนสู่ระบบแค่ 100 กว่าราย

นายนิวัฒน์ กาญจนภูมินทร์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ริเริ่มโครงการความร่วมมือกับบริษัทบริหารสินทรัพย์ สุขุมวิท จำกัด และ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด เมื่อปีที่ผ่านมาเพื่อให้ลูกค้าของบริษัทบริหารสินทรัพย์(AMC) สามารถยื่นขอปรับปรุงสถานะข้อมูลเครดิตในเครดิตบูไรได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการ ทำธุรกรรมทางการเงินในอนาคต ที่ผ่านมาโครงการดังกล่าวได้รับความสนใจและการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โดยมีลูกหนี้กลับคืนสู่บัญชีปกติหรือได้มีการชำระหนี้เรียบร้อย แล้วประมาณ 100 กว่าราย

และเพื่อให้โครงการดังกล่าวครอบคลุมมากยิ่งชึ้น บริษัทจึงได้ขยายโครงการความร่วมมือนี้เพิ่มเติมกับAMCในกลุ่มของธนาคารพาณิชย์อีก 4 บริษัท ได้แก่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา จำกัด, บริษัทบริหารสินทรัพย์ สาทร จำกัด, บริษัทบริหารสินทรัพย์ พญาไท จำกัด และบริษัทบริหารสินทรัพย์ เพทาย จำกัด

ทั้งนี้ เมื่อลูกค้าชำระหนี้เสร็จสิ้น ทั้ง 4 บริษัทบริหารสินทรัพย์จะแจ้งให้ลูกค้าทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลทราบถึงสิทธิที่ลูกค้าสามารถขอปรับปรุงข้อมูลเครดิตผ่านทั้ง 4 บริษัทได้ โดยหากลูกค้าประสงค์จะขอยื่นขอปรับปรุงข้อมูลของตนให้กรอกแบบคำขอและทั้ง 4 บริษัทจะทำหน้าที่ออกหนังสือรับรองการชำระหนี้เสร็จสิ้นให้แก่ลูกค้าไว้เป็นหลักฐานประกอบ พร้อมทั้งรวบรวมเอกสารทั้งหมดดังกล่าวจากลูกค้าให้กับบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด เพื่อบันทึกข้อมูลว่า“ ได้มีการชำระหนี้ที่บริษัทบริหารสินทรัพย์เรียบร้อยแล้ว ” ซึ่งการบันทึกข้อมูลการชำระดังกล่าวไว้นั้นจะทำให้สถาบันการเงินอื่นที่ใช้ข้อมูลนี้ ในการวิเคราะห์สินเชื่อในอนาคตทราบได้ว่าลูกค้ามีความตั้งใจในการแก้ไขหนี้และได้ชำระหนี้จนหมดสิ้นแล้ว

“ เชื่อว่าสถาบันการเงินทุกแห่งต้องการปล่อยสินเชื่อ เพื่อหารายได้เข้าธนาคาร แต่การปล่อยสินเชื่อจำเป็นต้องมีความรัดกุม เพื่อป้องกันหนี้เสียในภายหลังทำให้อัตราการปฏิเสธสินเชื่อเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจากสถิติการปฏิเสธสินเชื่อ 100% พบว่า สถาบันการเงินปฏิเสธตั้งแต่เริ่มรับข้อมูล 10%, ไม่ผ่านเครดิตบูโร 30%, รายได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด 33%, อาชีพมีความเสี่ยง 15% และไม่พบข้อมูลอีก 12% “ นายนิวัฒน์กล่าว

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเครดิตเป็นปัจจัยหนึ่งในการพิจารณาให้สินเชื่อของสถาบันการเงินร่วมกับข้อมูลที่สำคัญอื่นๆ คือมูลค่าของหลักประกัน และ ความสามารถในการชำระหนี้ ผู้บริโภคที่มีประวัติการชำระสินเชื่อแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนและตรวจสอบได้ย่อมมีโอกาสได้รับสินเชื่อสูงกว่าผู้บริโภคที่ไม่มีประวัติการชำระสินเชื่ อหรือประวัติการชำระสินเชื่อไม่ชัดเจน เครดิตบูโรจึงพยายามรณรงค์ให้ผู้บริโภคชำระสินเชื่อตามเวลาและตรวจสอบข้อมูลเครดิตของตนให้ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน

ด้านนายวีระ จันทะแจ้ง กรรมการผู้จัดการ บริษัทบริหารสินทรัพย์ พญาไท จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีฐานลูกค้าประมาณ 6,201 ราย คิดเป็นมูลค่าเงินต้น 33,032 ล้านบาท แบ่งเป็นประเภทหนี้ที่มีหลักประกัน 1,963 ราย หนี้ไม่มีหลักประกันประมาณ 4,238 ราย โดยสินทรัพย์ทั้งหมดที่บริษัทบริหารเป็นสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่รับซื้อจากธนาคารทหารไทยตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2543 -30 ธันวาคม 2549 ซึ่งข้อมูลล่าสุดมีลูกหนี้ที่ชำระหนี้หมดตามสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้และปิดบัญชีแล้ว 968 รายและลูกหนี้ที่ทำการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้ว โดยอยู่ระหว่างการผ่อนชำระ จำนวน 174 ราย ลูกหนี้ที่มีหลักประกันยังไม่ได้ปรับโครงสร้างหนี้ 821 ราย ลูกหนี้ไม่มีหลักประกันจำนวน 4,238 ราย

นายทรงวุฒิ บัวเข็ม กรรมการ บริษัทบริหารสินทรัพย์ สาทร จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีจำนวนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่บริหารจัดการอยู่ราว 5,150 ราย คิดเป็นมูลค่า 49,000 ล้านบาท โดยทั้งหมดเป็นสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่บริษัทรับโอนมาจากธนาคาร ไทยธนาคาร ซึ่ง 40% ของลูกหนี้เป็นลูกหนี้สินเชื่อเคหะ โดยบริษัทมีนโยบายที่จะปรับโครงสร้างหนี้หรือปิดบัญชี หากลูกค้าต้องการผ่อนชำระหนี้จะทำการพิจารณาเป็นรายๆ ตามความสามารถในการชำระหนี้

ส่วนบริษัทบริหารสินทรัพย์ เพทาย จำกัด ปัจจุบันมีลูกหนี้ประมาณ 7,000 กว่าราย มุ,หนี้ 14,000 ล้านบาท แบ่งเป็นเอ็นพีเอล 10,000 ล้านบาท และเอ็นพีเอ 4,000 ล้านบาท บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงศรี จำกัด มีลูกหนี้ 20,000 ราย