|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ไบเออร์ฯทุ่ม 60 ล้านบาท ส่ง "นีเวีย วิซาจ" ท้าทาย "สมูท อี" ชิงเบอร์ 2 ตลาดโฟมล้างหน้า ล่าสุด ลอนช์แคมเปญแจกเงินสด 1 ล้านบาท กระตุ้นลูกค้าสาวร่วมพิสูจน์นวัตกรรม พร้อมเอ็ดดูเคตผู้บริโภคใช้โฟมคู่กับสครับเพิ่มขึ้นอีก 5% หลังสำรวจพบมีผู้ใช้เพียง 10% หมากเกมนี้ นีเวีย หวังนั่งเบอร์สองแทนสมูท อี ด้วยแชร์ 16% ภายในสิ้นปีนี้
การเปิดฉากถล่มตลาดโฟมล้างหน้าของนีเวีย ด้วยแคมเปญ "จับตาย เมนลานิน" ที่แจกเงินสดมูลค่า 1 ล้านบาท แม้จะไม่ใช่จำนวนที่มากนัก แต่ถือเป็นรางวัลมากสุดที่ค่ายนี้เคยจัดเพื่อมอบเป็นรางวัลให้กับผู้โชคดีเพียง 1 คน โดยมีเหตุผลอยู่ที่ต้องการสร้างและดึงดูดความสนใจจากบรรดาสาวๆให้เข้าร่วมกิจกรรม รวมทั้งสร้างยอดขายให้เห็นผลอย่างทันตาเห็น เนื่องจากผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว จะต้องซื้อสินค้า "นีเวีย วิซาจ บ๊าย บาย เมนลานิน ไวท์เทนนิ่ง เฟเชียล โฟม" มาแสดงเพื่อลงทะเบียนบริเวณหน้างานด้วย
ทั้งนี้ แคมเปญของนีเวียที่จัดขึ้นวันที่ 2 มิถุนายนนี้ ถือเป็นหมัดที่หนักพอสมควรเมื่อปล่อยออกมาชกคู่ต่อสู่ในตลาดโฟมล้างหน้า เนื่องจากกลยุทธ์ที่ผู้เล่นรายใหญ่ๆในตลาดนี้ใช้กัน มักจะหนีไม่พ้นเรื่องการผลักดันนวัตกรรมใหม่ออกสู่ตลาด การจัดกิจกรรมให้ความรู้และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค เช่น พอนด์ส ของค่ายยูนิลีเวอร์ ส่งกิจกรรม "ป๊อปปูล่าร์ หน้าใสกับโฟมพอนด์ส" ประกวดสาวหน้าใสหาผู้โชคดี 2006 คน โชว์หน้าบนบิลบอร์ดที่ห้างสรรพสินค้ามาบุญครองเมื่อปีก่อน หรือการใช้พรีเซนเตอร์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการทดลองสินค้า เช่น แบรนด์บิโอเร ของค่ายคาโอฯ ที่ชู นาเดีย นิมิตรวาณิช เป็นพรีเซนเตอร์เมื่อครั้งเปิดตัวโฟมล้างหน้ากลุ่มไว์เทนนิ่ง ไม่เพียงเท่านี้ กลยุทธ์ไซส์ซิ่งก็ยังเป็นที่นิยมเพื่อเจาะตลาดจังหวัด โดยเฉพาะผู้นำตลาดอย่างแบรนด์พอนด์สที่หวังกระตุ้นอัตราการใช้ของกลุ่มผู้บริโภคต่างจังหวัดให้เพิ่มขึ้น จากที่ปัจจุบันใช้โฟมล้างหน้าเพียง 30 - 40%
สำหรับ แคมเปญดังกล่าวที่มีแรงจูงใจด้วยรางวัลเงินสดสูงถึง 1 ล้านบาท เชื่อว่าจะเป็นแม่เหล็กที่ช่วยดึงดูดความสนใจจากสาวๆได้เป็นอย่างดี เพราะหากพิจารณาพฤติกรรมของผู้บริโภคแล้ว พบว่า ความภักดีต่อแบรนด์ยังมีน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ดังนั้น การสวิตช์แบรนด์จากผู้เล่นรายอื่นมาสู่แบรนด์ที่ออกสินค้าใหม่หรือมีแคมเปญเด็ดก็ไม่ใช่เรื่องยากนัก ส่งผลให้ปีนี้ ไบเออร์ฯจึงทุ่มงบกว่า 60 ล้านบาท สำหรับการทำตลาดนีเวีย วิซาจโดยเฉพาะ
"หลังจากที่บริษัทออกนีเวีย วิซาจ บ๊าย บาย เมนลานินเมื่อเดือนมีนาคม และเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดขายสูงถึง 7 แสนชิ้น และทำให้แชร์ 8% ในเดือนกุมภาพันธ์ ขยับเพิ่มเป็น 12.3% ในเดือนเมษายน ซึ่งส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้นมาจากการสวิตช์แบรนด์ของผู้บริโภค โดยเชื่อว่าสิ้นปีแชร์จะเพิ่มเป็น 16% ขึ้นเบอร์ 2 แทนที่สมูท อี" เป็นคำกล่าวของ เภสัชกรหญิง สุวรรณี ศรีธัญญะโชติ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไบเออร์สด๊อรฟ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลผิวนีเวีย
ปัจจุบัน ตลาดผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้ามีมูลค่า 2,742 ล้านบาท แบ่งเป็น โฟมล้างหน้า 95% และโทนเนอร์ 5% และสามารถแบ่งเป็นเซกเมนต์ต่างๆ อาทิ กลุ่มไวท์เทนนิ่ง 27.1% กลุ่มสครัป 13.3% กลุ่มแอคเน่ประมาณ 7% กลุ่มควบคุมความมัน 3% ทั้งนี้พอนด์สเป็นผู้นำครองส่วนแบ่ง 39.8% รองลงมาคือ สมูท อี 15% นีเวีย 12.3% การ์นิเย่ 5.9%
เมื่อพิจารณาในแต่ละเซกเมนต์ จะเห็นว่ากลุ่มสครัปเป็นเซกเมนต์ที่มีขนาดรองจากกลุ่มไวท์เทนนิ่ง และยังเป็นตลาดที่มีศักยภาพ เนื่องจากการสำรวจพบว่า ผู้บริโภคไม่ได้ใช้สครัปทุกวัน โดยจะใช้เฉลี่ย1 - 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ดังนั้นหากมีการเอ็ดดูเคตผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าจะทำให้ตลาดมีการเติบโตมากขึ้น จากตอนนี้ที่มีการเติบโตประมาณ 10% รองจากกลุ่มไวท์เทนนิ่งที่เติบโตกว่า 29% เพราะผู้เล่นในตลาดส่วนใหญ่กำลังให้ความสำคัญ ขณะที่เซกเมนต์อื่นๆที่เหลือมีการเติบโตน้อยกว่า 10%
จากศักยภาพของเซกเมนต์สครับที่เชื่อว่าจะสามารถเติบโตได้ นีเวียจึงปูพื้นฐานให้แข็งแกร่ง ด้วยการทำตลาด "นีเวีย วิซาจ บ๊าย บาย เมนลานิน ไวท์เทนนิ่ง เฟเชียล สครับ" ควบคู่กับตัว นีเวีย วิซาจ บ๊าย บาย เมนลานิน ไวท์เทนนิ่ง เฟเชียล โฟมด้วย เพื่อสร้างพฤติกรรมผู้บริโภคให้ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าทั้งโฟมและสครับควบคู่กัน โดยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ค่ายไบเออร์ฯ กล่าวว่า หากมีการสื่อสารและให้ความรู้กับผู้บริโภคเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 กลุ่ม เชื่อว่า ในสิ้นปีนี้จะมีผู้ใช้ สครับและโฟมคู่กันเพิ่มขึ้นอีก 5% จากตอนนี้มีอยู่ 10% ไม่เพียงเท่านี้ล่าสุดแบรนด์ที่รั้งอันดับ 2 อย่างสมูท อี ก็โดดเข้ามาแจมเซกเมนต์นี้เช่นกัน ด้วยการเปิดตัว "สมูท อี เบบี้ เฟรช สครับ" พร้อมหนังโฆษณาจำนวน 7 ตอนที่ตอนนี้เริ่มทยอยออกอากาศไปแล้วประมาณ 2 - 3 ตอน
อย่างไรก็ตาม การโฟกัสบุกตลาดโฟมล้างหน้าของนีเวียในครั้งนี้ คงอยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์ 4 ข้อที่ถือเป็นนโยบายจากบริษัทแม่ ประกอบด้วย Fewer Bigger Better และ Faster หมายรวมถึง การไม่เน้นออกสินค้าจำนวนมาก ทั้งนี้เพื่อให้ได้นวัตกรรมใหม่ มีคุณภาพและเปิดตัวก่อนคู่แข่งรายอื่น สำหรับ การบุกครั้งนี้ นีเวียคาดว่าในปีแรกที่ส่งนวัตกรรมใหม่ตัวนี้เข้าสู่ตลาดจะสามารถทำส่วนแบ่งได้สูงถึง 16% จากตลาดรวมโฟมล้างหน้ามูลค่า 2,742 ล้านบาท และแซงขึ้นมาเป็นเบอร์ 2 แทนที่ สมูท อีได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
|
|
|
|
|