|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
มิสทิน รุกขยายฐานลูกค้ากระเป๋าหนัก จ่อคิวนำเข้าแบรนด์ดังจากแดนปลาดิบบุกตลาดไทย ปูพรมส่งเครื่องสำอางลุยต้นปีหน้า วางราคา 400-500 บาท หวังเสริมเน็ตเวิร์กธุรกิจขายตรงแข็งแกร่ง ตั้งเป้า 1-2 ปีผลิตสินค้าเอง ปีหน้าคาดกวาดยอดขายคิดเป็น 10% จากรายได้รวม
นายดนัย ดีโรจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายเครื่องสำอางขายตรงมิสทิน ฟรายเดย์ และเอ็มพาวเวอร์ เปิดเผยว่า นโยบายการตลาดของบริษัทฯวางแผนที่จะขยายฐานกลุ่มเป้าหมายระดับเอเพิ่มมากขึ้น จากที่ผ่านมาสินค้าในพอร์ตโฟลิโอของบริษัทฯ ประกอบด้วย มิสทิน เมลาเคลียร์ เป็นต้น เจาะกลุ่มเป้าหมายระดับบีและซีเป็นหลัก ทั้งนี้การขยายฐานกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวเพื่อสร้างความสมดุลย์โครงสร้างการดำเนินธุรกิจให้กับบริษัทฯ
โดยล่าสุดได้จับมือร่วมกับผู้ดำเนินธุรกิจขายตรงในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพันธมิตรทางการผลิตได้เตรียมนำเข้าแบรนด์ที่ติดอันดับ 1 ใน 5 ของญี่ปุ่นเข้ามาทำตลาดในลักษณะเอ็กซ์คลูซีฟดิสทริบิวเตอร์ นำร่องด้วยการเปิดตัวกลุ่มเครื่องสำอางเป็นหลัก เนื่องจากภาพลักษณ์ของมิสทิน มีความโดดเด่นกลุ่มสินค้าเครื่องสำอางเป็นหลักอยู่แล้ว
สำหรับกลุ่มเครื่องสำอางที่จะนำเข้ามานี้เจาะกลุ่มเป้าหมายระดับเอเป็นหลัก ซึ่งราคาสินค้าวางไว้ระหว่าง 400-500 บาท เมื่อเทียบกับกลุ่มสินค้าระดับซีถึงบีตั้งแต่ 60 บาทถึง 400 บาทขึ้นไป ในช่วง 1-2 ปีนี้จะนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นมาก่อน หากได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี บริษัทฯวางแผนจะผลิตเองภายในประเทศ โดยปัจจุบันบริษัทฯที่จะเข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจมีสินค้าอยู่ในพอร์ตโฟลิโอมากมาย อาทิ กลุ่มน้ำหอม
“ในฐานะที่บริษัทฯดำเนินธุรกิจขายตรงชั้นเดียว เราต้องใช้เน็ตเวิร์กที่วางรากฐานไว้อย่างแข็งแกร่งให้คุ้มค่า เพื่อขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มใหม่ ภายใต้อาศัยความเชี่ยวชาญทั้งช่องทางการจำหน่ายให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด”
ทั้งนี้ภายหลังจากที่บริษัทฯได้นำแบรนด์ใหม่ เจาะกลุ่มเป้าหมายระดับเอเข้ามาทำตลาด คาดว่าในปีหน้ารายได้ของบริษัทฯจะมีอัตราการเติบโต 20% จากในปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 8,000 ล้านบาท โดยกลุ่มสินค้าเจาะกลุ่มเป้าหมายระดับเอ คิดเป็นสัดส่วน 10% ของรายได้รวม ส่วนกลุ่มสินค้าระดับซีและบีมีสัดส่วนรายได้ 90%
ผลประกอบการปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 7% นับว่าเป็นการเติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียวในรอบหลายปี โดยคาดว่ารายได้เพิ่มจาก 7,000 ล้านบาท เป็น 8,000 ล้านบาท ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา บริษัทฯมีอัตราการเติบโต 30% และไตรมาสที่สองโตเพียง 10%
“ผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ส่งผลให้ผู้บริโภคระดับกลางจากเดิมใช้เครื่องสำอางเคาน์เตอร์แบรนด์มาใช้เครื่องสำอางมิสทินเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันมิสทิน ยังคงเป็นสินค้าเรือธงที่สร้างรายได้หลักให้กับบริษัทฯในสัดส่วนถึง 60-70% ที่เหลืออีก 5% เป็น เมลาเคลียร์ สินค้ากลุ่มสกินแคร์ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆนี้ ส่วนอีก 2% เป็นสินค้าจากเอ็มพาวเวอร์” นายดนัย กล่าว
|
|
|
|
|