Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน31 พฤษภาคม 2550
ซันเทคกรุ๊ปรุกอสังหาฯผุดบิ๊กโปรเจกต์ที่พัทยา             
 


   
search resources

Real Estate
ซันเทคกรุ๊ป, บมจ.




ซันเทคกรุ๊ปฯลุกคืบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทุ่มเงินเกือบ 900 ล้านบาท ซื้อที่ดินผืนใหญ่ติดชาดหาดจอมเทียน จากบริษัท ไทยเสรี พร็อพเพอร์ตี้ฯ ระบุจะนำมาพัฒนาเป็นโปรเจกต์ขนาดใหญ่ ทั้งโรงแรม 300 ห้อง คอนโดมิเนียม และร้านค้า พร้อมหยิบรายงานซีบี ริชาร์ดฯ ระบุพัทยาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากลูกค้า และโอกาสให้ผลตอบแทนจากการลงทุนถึงระดับ 23.8% สามารถคืนทุนประมาณ 3 ปี

นายสวัสดิ์ หอรุ่งเรือง กรรมการผู้อำนวยการ (รักษาการ) บริษัท ซันเทคกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SUNTEC เปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบให้ทำการซื้อที่ดินโดยเป็นการซื้อสิทธิในสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน ซึ่งติดชายหาดจอมเทียน บนถนนสุขุมวิท กม.ที่ 156 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เนื้อที่จำนวน 56 ไร่ 1 งาน 50 ตารางวา จาก บริษัท ไทยเสรี พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด โดยที่ดินแปลงดังกล่าว ทางบริษัทจะนำมาเพื่อจัดทำโครงการคอนโดมิเนียม โรงแรมและร้านค้า ในบริเวณแถบชายหาดพัทยา ซึ่งมีพื้นที่จำหน่ายรวมประมาณ 70,000 ตร.ม. และโรงแรมจำนวน 300 ห้อง ในราคาซื้อขายที่ดินไม่เกิน 889 ล้านบาท โดยมีมูลค่าที่ดินทั้งหมดตามสัญญาจะขายดังกล่าวเท่ากับ 845.625 ล้านบาท และในการซื้อสิทธิที่ดินดังกล่ว บริษัทต้องชำระเงินในวันจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิที่ดิน แยกเป็น

การจ่ายคืนเงินมัดจำค่าที่ดิน ที่บริษัท ไทยเสรีฯได้ชำระไปก่อนแล้วจำนวน 280 ล้านบาท จ่ายคืนดอกเบี้ยของเงินมัดจำค่าที่ดินที่บริษัทฯ ได้ชำระไปก่อนจำนวนประมาณ 13 ล้านบาท จ่ายคืนค่าปรับปรุงที่ดินและค่าก่อสร้างห้องชุดตัวอย่างที่บริษัทฯ ได้ชำระไปก่อนจำนวนประมาณ 20 ล้านบาท ชำระค่าที่ดินส่วนที่เหลือให้แก่เจ้าของที่ดินเป็นจำนวน 565.625 ล้านบาท และชำระส่วนแบ่งค่าโอนอีกไม่เกินจำนวนประมาณ 10 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม นายสวัสดิ์ กล่าวว่า รายการดังกล่าว ถือเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกันประเภทรายการเกี่ยวกับสินทรัพย์และบริการ ตามประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่องการเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในรายการเกี่ยวโยงกัน พ.ศ.2546 โดยมีขนาดของรายการมากกว่า 20 ล้านบาทหรือ มากกว่า 3 % ของมูลค่าสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิ แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า และคาดว่ารายการดังกล่าวจะดำเนินการแล้วเสร็จประมาณ 3 เดือนหลังจากวันที่ผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติให้เข้าทำรายการ

ในส่วนของแหล่งเงินทุนนั้น ทางบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนและการขายเงินลงทุนในบริษัทย่อยม มาทำการซื้อที่ดินกับบริษัทไทยเสรี พร็อพเพอร์ตี้ฯ ทั้งนี้ การเพิ่มทุนดังกล่าว อาจจะมีผู้บริหารบางรายของบริษัท ไทยเสรี พร็อพเพอร์ตี้ฯเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายหนึ่งในบริษัทซันเทคกรุ๊ปฯ หลังการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนแล้ว เนื่องจากผู้บริหารเหล่านั้น มีความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจอสังหา ซึ่งในขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อผู้ถือหุ้นดังกล่าวได้ เนื่องจากจำเป็นต้องรักษาความลับทางธุรกิจ ประกอบกับยังอยู่ในระหว่างการเจรจาและการเพิ่มทุน และการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนซึ่งจำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือหุ้นก่อน

นายสวัสดิ์กล่าวว่า สาเหตุที่มูลค่าตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินเท่ากับ 845.625 ล้านบาท ขณะที่ราคาประเมินเท่ากับ 810 ล้านบาท ซึ่งประเมินโดยบริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส (ประเทศไทย) จำกัด เนื่องจากการจัดหาที่ดินชั้นดีขนาดใหญ่ บนทำเลดีและติดชายหาดมีความยากมาก ดังนั้น ราคาตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินจะสูงกว่าราคาประเมินประมาณ 4.3%

" เหตุหลักที่มีการเปลี่ยนแปลงประเภทการประกอบธุรกิจมาเป็นการพัฒนาอสังหาฯ เนื่องจากบริษัทพิจารณาเห็นว่า ธุรกิจอสังหาฯมีศักยภาพในการเจริญเติบโต และสามารถสร้างอัตราผลตอบแทนให้แก่บริษัทสูงกว่าธุรกิจการผลิตและจำหน่ายเศษเหล็กแปรสภาพที่บริษัทดำเนินธุรกิจอยู่ "นายสวัสดิ์กล่าวและว่า

นอกจากนี้ บริษัทได้พิจารณารายงานจากการศึกษาของ บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส (ประเทศไทย) จำกัด จัดทำเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 นั้น ระบุว่า พัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยว ซึ่งในขณะนี้ได้รับความสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อมีการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิ ประกอบกับอสังหาฯชั้นดีมีจำนวนน้อย ทำเลที่ตั้งของที่ดินผืนดังกล่าวดีมาก เนื่องจากมีขนาดใหญ่ติดชายหาดที่สวยงามและถนนสุขุมวิทเดินทางสะดวก และผลตอบแทนจากการลงทุนน่าดึงดูดใจ โดยมี IRR เท่ากับ 23.8 % และระยะเวลาคืนทุนประมาณ 3 ปี   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us