ซีพีเอฟ ร่วมทุนโยเนะคิว จากญี่ปุ่น ทุ่มงบประมาณ 530 ล้านบาท ก่อสร้างโรงงานแปรรูปเนื้อสุกรปรุงสุก หวังใช้เป็นฐานส่งออกมากกว่า 80% จากกำลังผลิตทั้งหมด คาดยอดขายรวมปีแรก 250 ล้านบาท
นายวีรชัย รัตนบานชื่น รองกรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ทำสัญญาร่วมทุนกับโยเนะคิว คอร์ปอเรชั่น จำกัด ประเทศญี่ปุ่น เพื่อจัดตั้งโรงงานบริษัท ซีพี-โยเนะคิว จำกัด ในประเทศไทยเมื่อปี 2547 บนพื้นที่ 19 ไร่ ของถนนสุวินทวงศ์ ตำบลคลองนครเนื่องเขต อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นโรงงานแปรรูปเนื้อสุกรปรุงสุกเพื่อการส่งออก ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการก่อสร้างโรงงานจนแล้วเสร็จ และพร้อมดำเนินการผลิตสินค้าด้วยกำลังการผลิตปีละ 4,800 ตัน โดยใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 530 ล้านบาท ซึ่งคาดว่ายอดขายในปีแรกนี้จะมีมูลค่ารวม 250 ล้านบาท
นายคัทสึฮิโกะ อิชิโน ประธานกรรมการ โยเนะคิว คอร์ปอเรชั่น จำกัด ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า การที่ โยเนะคิว คอร์ปอเรชั่น มาร่วมทุนกับซีพีเอฟครั้งนี้ เนื่องจากว่า ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม สามารถรักษาทั้งด้านคุณภาพ และฟู้ดเซฟตี้ ขณะเดียวกัน ซีพีเอฟก็ทำธุรกิจด้านอาหาร ทั้งของสด และแปรรูปเป็นอาหารสำเร็จรูป ทำให้ทางญี่ปุ่นมีความไว้วางใจในกระบวนการผลิต และที่สำคัญ ประเทศไทยและบริษัทซีพีเอฟมีทรัพยากรบุคคลที่มีศักยภาพ นับเป็นปัจจัยที่ทำให้มีความได้เปรียบ ซึ่งตรงกับแนวทางของบริษัท นอกจากนี้ ยังเป็นที่ยอมรับด้วยว่าประเทศไทยมีศักยภาพที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การร่วมทุนกันนี้ จึงทำให้ทางโยเนะคิว คอร์ปอเรชั่น สามารถผลิตอาหารได้ตามความต้องการทั้งปริมาณ และคุณภาพ
ซีพี-โยเนะคิว ได้ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงของโยเนะคิว คอร์ปอเรชั่น ในการผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารประเภทเนื้อสุกร ในรูปแบบของแฮม ไส้กรอก คาคูนิ และอื่นๆ ภายใต้แบรนด์ “ซีพี-โยเนะคิว” โดยเริ่มกระบวนการผลิตตั้งแต่การเลือกสรรวัตถุดิบเนื้อสุกรจากฟาร์มมาตรฐาน นำมาผ่านระบบการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงตามหลักมาตรฐานสากล ได้แก่ ISO 9001:2000 GMP และ HACCP รวมถึง Traceability หรือการตรวจสอบย้อนกลับถึงที่มาของผลิตภัณฑ์ “ซีพี-โยเนะคิว” ทุกชิ้น
ด้านการตลาด ซีพี-โยเนะคิว จะเน้นตลาดส่งออกเนื้อสุกรแปรรูปไปยังประเทศญี่ปุ่น จีน และสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นฐานลูกค้าของ โยเนะคิว คอร์ปอเรชั่น โดยวางสัดส่วนการส่งออกเนื้อสุกรแปรรูปไว้ที่ 80% “การส่งออกเนื้อสุกรแปรรูปจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมการเลี้ยงและแปรรูปเนื้อสุกรของประเทศไทยในระยะยาว ที่นอกจากจะเพิ่มรายได้ให้แก่ประเทศแล้ว ยังจะส่งผลถึงการรักษาเสถียรภาพราคาสุกรในประเทศด้วย” นายวีรชัยกล่าว
สำหรับตลาดในประเทศ ผลิตภัณฑ์ไส้กรอกตำรับญี่ปุ่นแท้ๆ และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ ซีพี-โยเนะคิว ได้วางตลาดแล้วตามซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ อาทิ กรูเม่ท์มาร์เก็ต พารากอน ดิ เอ็มโพเรี่ยม ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต และซีพีเฟรชมาร์ท
อนึ่ง โยเนะคิว คอร์ปอเรชั่น เป็นบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่น ที่มีเทคโนโลยีชั้นสูงในการผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารประเภทเนื้อสัตว์ ทั้งยังมีตลาดขายส่งผลิตภัณฑ์อาหารประเภทเนื้อสัตว์ แฮม ไส้กรอก และผลิตภัณฑ์อาหารอื่นๆ ในประเทศญี่ปุ่น จีน และสหรัฐอเมริกา โดยเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์โตเกียวที่มีทุนจดทะเบียนถึง 3,340 ล้านบาท
ในขณะที่ซีพีเอฟถือเป็นบริษัทชั้นนำด้านการแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารจากเนื้อสัตว์ของประเทศไทย ที่ได้รับมาตรฐานระดับโลกมากมาย อาทิ GMP, HACCP, ISO 9002, ISO 14001, TIS 18001, ISO/IEC 17025 และ Animal Welfare รวมทั้งยังเป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญกับการค้นคว้าวิจัยและเสาะหาเทคโนโลยีใหม่ๆเพื่อนำมาประยุกต์ให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์อยู่เสมอ
|