Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน30 พฤษภาคม 2550
ชี้สัญญาณบวกส่งออกภาค SMEs ถึงสิ้นปีมีสิทธิ์ฟันเงิน 1.623 ลล.บ.             
 


   
search resources

SMEs




SAW เผยทิศทางส่งออกภาค SMEs คาดไตรมาส 2 เจอปัจจัยลบยังเป็นเรื่องเดิมๆ โดยมีสัญญาณบวกเพราะการนำเข้าชะลอตัว ขณะที่พื้นฐานส่งออกไทยยังแกร่ง ระบุในปี 2550 มูลค่าส่งออกโดยรวมอาจถึง 5.659 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วน SMEs ถึง 1.623 ล้านล้านบาท

โครงการวิเคราะห์และเตือนภัย SMEs รายสาขา (SAW) สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เผยผลสำรวจแนวโน้มการส่งออกของ SMEs ไทย ประจำไตรมาส 2 /2550 ว่า จากสถานการณ์ในช่วงไตรมาสที่ 1-2550 พบว่า ค่าเงินบาทยังมีทิศทางแข็งค่าต่อเนื่อง ส่วนแนวโน้มไตรมาส 2/2550 คาดว่า ค่าเงินบาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ (USD) จะยังคงผันผวนอยู่ จากปัจจัยเสี่ยงทั้งภายในและภายนอกประเทศ

ทั้งนี้ ค่าเงินบาทยังมีโอกาสที่จะเคลื่อนไหวในทิศทางที่แข็งค่าขึ้นหรืออ่อนค่าลงได้ในอัตราส่วนที่ใกล้เคียงกัน โดยปัจจัยที่จะทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอาจจะมาจากอัตราการขยายตัวด้านการนำเข้าสินค้าและการลงทุน ที่มีอัตราชะลอตัวหรือทรงตัว เนื่องจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุนภายในประเทศ ประกอบกับการส่งออกโดยรวมของประเทศยังมีอัตราการขยายตัวมากกว่า 10% ทำให้ดุลการค้าไทยยังมีโอกาสเกินดุลได้ต่อไป รวมถึง แนวโน้มของค่าเงิน USD ที่ยังคงต้องอ่อนค่าลงในระยะยาวเพื่อแก้ปัญหาความไม่สมดุลในโลก อัตราดอกเบี้ยภายในประเทศที่มีแนวโน้มปรับลดลงต่อเนื่องจะช่วยลดแรงดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ

จากสถานการณ์ต่างๆ ของประเทศไทย และการสำรวจจากผู้ประกอบการ SMEs ประมาณ 800 ราย พบว่า ปัจจัยเสี่ยงสำหรับ SMEs ในการประกอบธุรกิจสำหรับปี 2550 ยังเป็นปัจจัยเดิมๆ อาทิ การแข็งค่าของค่าเงินบาทอย่างต่อเนื่อง ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น สถานการณ์ความไม่สงบต่างๆ อาจจะส่งผลต่อความเชื่อมั่น และบรรยากาศในการลงทุน และสุดท้ายส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ชะลอตัวลง ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม แม้ SMEs จะมีความกังวลกับความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกในช่วงไตรมาสที่ 1/2550 ที่ผ่านมา แต่โดยพื้นฐานแล้วเมื่อมาพิจารณาในอีกมิติ พบว่าปัจจัยภายนอกประเทศโดยเฉพาะเรื่องทิศทางค่าเงิน USD ที่อ่อนค่าลงในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับปัจจัยภายในประเทศของไทย ยังได้สนับสนุนให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง น่าจะเป็นสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีนัก แต่การค้าระหว่างประเทศของไทยกลับปรับตัวดีขึ้นมาก โดยดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไตรมาส 1/2550 และทำสถิติเกินดุลสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 2.2-2.26 พันล้าน USD ในช่วงสุดท้ายของไตรมาส 1/2550

ทั้งนี้ สาเหตุดังกล่าวเป็นผลมาจากการนำเข้าที่ขยายตัวในระดับที่ลดลงต่อเนื่องตามทิศทางการบริโภคและการลงทุนที่ชะลอตัวลง ขณะที่การส่งออกยังคงเติบโตในระดับที่แข็งแกร่ง และเป็นสัญญาณที่ดีว่าการส่งออกของไทย อาจจะทำรายได้มากถึง 5.659 ล้านล้านบาท ในปี 2550 จากที่เคยทำได้ 4.946 ล้านล้านบาท หรือจะมีอัตราการขยายตัวกว่าร้อยละ 14 โดยเป็นสัดส่วนของ SMEs ถึง 1.623 ล้านล้านบาท (ประมาณ 30%) ซึ่งมีอัตราการขยายตัวประมาณร้อยละ 13 โดยรวม และมากกว่าร้อยละ 14 สำหรับอุตสาหกรรมการผลิต และจะส่งผลต่ออัตราการขยายตัวด้านมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ SMEs (Economic Value Added) จาก 3.29 แสนล้านบาทเป็น 3.99 แสนล้านบาท ตามลำดับ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us