Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน29 พฤษภาคม 2550
PTL ทุ่มงบ 351 ล.ผลิต Metallised Film พร้อมจ่ายปันผลอัตราหุ้นละ 17 สตางค์             
 


   
www resources

โฮมเพจ โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย)

   
search resources

Chemicals and Plastics
โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย), บมจ.




PTL ทุ่มงบ 351 ล้านบาท เพิ่มสายการผลิต Metallised Film ในไทยและตุรกี พร้อมจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นอัตราหุ้นละ 17 สตางค์ กำหนดจ่าย 17 สิงหาคมนี้ พร้อมเรียกประชุมผู้ถือหุ้น 27 กรกฎาคมนี้

นายมานิตย์ กุปต้าร์ กรรมการ บริษัท โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (PTL) แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 2/2550 ของบริษัท ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2550 โดยที่ประชุมมีมติอนุมัติเพิ่มสายการผลิต Metallised Film ของบริษัท คิดเป็นเงินลงทุนของโครงการโดยประมาณ 6,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ(หรือคิดเป็นเงิน 210 ล้านบาท คำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยน 35.00 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ) จากการใช่อัตราแลกเปลี่ยนสูงสุดคำนวณ(นั่นคือ มูลค่ารวมของสิ่งที่จ่ายไปหารสินทรัพย์รวม) ซึ่งมีขนาดของการดำเนินการน้อยกว่า 15%

พร้อมกับเพิ่มสายการผลิต Metallised Film ที่ Polyplex Europa Polyester Film Sanayi ve Ticaret Anonim Sirketi (PE) ในตุรกี คิดเป็นเงินลงทุนของโครงการทั้งสิ้นจำนวน 3,000,000 เหรียญยูโร (หรือคิดเป็นเงิน 141 ล้านบาทคำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยน 47 บาทต่อ 1 เหรียญยูโร) จากการใช้อัตราแลกเปลี่ยนสูงสุดคำนวณ (นั่นคือ มูลค่ารวมของสิ่งที่จ่ายไปหารสินทรัพย์รวม) ซึ่งมีขนาดของการดำเนินการน้อยกว่า 15%

นอกจากนี้ บอร์ดยังอนุมัติจัดสรรเงินกำไรที่เหลือจากการกันเป็นทุนสำรองตามกฎหมายให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทที่มีรายชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 6 สิงหาคม 2550 ณ เวลา 12.00 น. ในอัตราหุ้นละ 0.17 บาท และกำหนดจ่าย เงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นภายในวันที่ 17 สิงหาคม 2550

ทั้งนี้ เป็นผลจากการดำเนินงานไตรมาสแรกปีนี้ของบริษัท สิ้นสุด 31 มีนาคม 50 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 341.84 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 560.97 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิต่อหุ้นลดลงจาก 70 สตางค์เหลือ 43 สตางค์ หรือกำไรสุทธิลดลงคิดเป็น 39.0%

แม้ว่าไตรมาสนี้บริษัทและบริษัทย่อยมียอดรายได้รวม 4,808.83 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อน เป็นเงิน 1,381.38 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็น 40.3% และรายได้ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากรายได้จากการขายของบริษัทย่อยในประเทศตุรกีและอเมริกา ค่าใช้จ่ายรวมของบริษัท(ต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร) 4,380.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,543.07 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็น 54.39%

เนื่องมาจากราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น (สาเหตุมา จากราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น) ค่าไฟฟ้าและเชื้อเพลิง ที่เพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายขายและบริหารที่สูงขึ้นของบริษัทย่อย ค่าใช้จ่ายทางการเงินระหว่างปี 80.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.23 ล้านบาท เนื่องมาจากดอกเบี้ยของเงินกู้ยืมระยะยาวในบริษัทและบริษัทย่อยในตุรกี ผลของการลดลงของราคาขายกับสภาพตลาดในช่วงครึ่งปีแรก และการเพิ่มขึ้นของ ต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายทางการเงิน ทำให้ยอดกำไร สุทธิรวมของบริษัทลดลง 219.13 ล้านบาท

พร้อมกับแต่งตั้ง นายมนู เลียวไพโรจน์ และนายประพัฒน์ โพธิวรคุณ ซึ่งเป็นกรรมการที่ต้องออกจากตำแหน่งตามวาระ กลับเข้าดำรงตำแหน่งกรรมการของบริษัทอีกวาระหนึ่ง และแต่งตั้ง นายณรงค์ พันตาวงษ์ (ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เลขที่ 3315)และ/หรือ นายศุภชัย ปัญญาวัฒโน (ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 3930) และ/หรือนางสาวศิราภรณ์ เอื้ออนันต์กุล (ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 3844) แห่งบริษัท สำนักงาน เอินส์ท แอนด์ ยัง จำกัด เป็นผู้สอบบัญชีของบริษัท

กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม 2550 เวลา 12.00 น. จนกว่าการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นจะแล้วเสร็จ เพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือหุ้นในการเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2550 และกำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2550 ในวันที่ 27 กรกฎาคม 2550 เวลา 10.30 น. ณ ห้องประชุม โรงแรมแรม แบรนดท์ ซอยสุขุมวิท 18 ถนนสุขุมวิท กรุงเทพมหานคร เพื่อพิจารณาเรื่องต่างๆ ตามระเบียบวาระการประชุม   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us