Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน29 พฤษภาคม 2550
SCC ลุยธุรกิจกระดาษที่สิงคโปร์-มาเลเซีย อัดงบ320ล.ดันผลิตเพิ่มอีกปีละ5หมื่นตัน             
 


   
www resources

โฮมเพจ เครือซิเมนต์ไทย

   
search resources

ปูนซิเมนต์ไทย, บมจ.
กานต์ ตระกูลฮุน
Pulp and Paper




SCC ลงทุนในธุรกิจบรรจุภัณฑ์ในประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย ซึ่งเป็นกิจการร่วมทุนของ Sime Darby Berhad 1 และ Rengo 2 โดยมีมูลค่าการลงทุนรวมทั้งสิ้น 320 ล้านบาท จะส่งผลให้ SCG Paper มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 50,000 ตันต่อปี สอดคล้องกับกลยุทธ์ของ SCC ที่จะขยายการลงทุนของธุรกิจหลักในภูมิภาคอาเซียน และเสริมฐานการตลาดที่แข็งแกร่งและเพิ่มความสามารถการแข่งขัน รองรับกลุ่มลูกค้าหลากหลาย

นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรม-การผู้จัดการใหญ่ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC) แจ้งว่าบริษัทกลุ่มสยามบรรจุภัณฑ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัทเอสซีจี เปเปอร์ จำกัด (มหาชน) (SCG Paper) และ Rengo Company Limited (Japan)(Rengo) ในสัดส่วนการถือหุ้น 70% และ 30% ตามลำดับ ได้บรรลุข้อตกลงในการเข้า ซื้อกิจการบรรจุภัณฑ์ในประเทศสิงคโปร์และรัฐ Selangor ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นกิจการร่วมทุนของ Sime Darby Berhad 1 และ Rengo 2 โดยมีมูลค่าการลงทุนรวมทั้งสิ้นประมาณ 320 ล้านบาท ทำให้ SCG Paper มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 50,000 ตันต่อปี

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ใน ประเทศสิงคโปร์และมาเลเซียนั้นมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตามการขยาย ตัวทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ โดยปัจจุบันทั้งสองประเทศนี้ยังเป็นเป้าหมายในการเข้าลงทุนของบริษัทข้ามชาติต่างๆ ที่จะตั้งฐานโรงงานผลิต สินค้าโดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอ-นิกส์และอุปกรณ์ไฟฟ้า กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม และสินค้าอุปโภคบริโภค จึงทำให้ความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์เพิ่มขึ้นมากจนถึงประมาณ 1 ล้านตันต่อปี

ปัจจุบัน บริษัทกลุ่มสยามบรรจุภัณฑ์ จำกัด เป็นผู้นำตลาดในประเทศไทย โดยมีโรงงานอยู่ 8 แห่งทั่วประเทศ มีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 500,000 ตันต่อปี และยังมีแผนที่จะขยายกำลังการผลิตทั้งในและนอกประเทศเพื่อที่จะตอบสนองความต้องการใช้กระดาษบรรจุภัณฑ์ที่สูงขึ้นมาก

โดยการลงทุนในครั้งนี้สอด-คล้องกับกลยุทธ์ของ SCC ที่จะขยายการลงทุนของธุรกิจหลักในภูมิภาคอาเซียน โดยในปัจจุบัน SCG Paper ได้ส่งออกกระดาษบรรจุภัณฑ์ ไปยังสองประเทศนี้รวมทั้งสิ้นประมาณ 90,000 ตันต่อปี ดังนั้นการลงทุนนี้ จะทำให้ SCG Paper มีฐานการตลาด ที่แข็งแกร่งและมีขีดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายซึ่งรวมถึงกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการใช้สินค้าที่มีมูลค่าสูงเพิ่มขึ้นด้วย

นายเชาวลิต เอกบุตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสซีจี เปเปอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเข้าไปซื้อกิจการบรรจุภัณฑ์ดังกล่าว เนื่องจาก เจ้าของเดิมคือ Sime Darby ต้องการเลิกธุรกิจดังกล่าว และสอดคล้องนโยบายของเครือซิเมนต์ไทยที่ ต้องการเป็นผู้นำตลาดในภูมิภาคนี้ ซึ่งเอสซีจี เปเปอร์มีศักยภาพในการ ขยายธุรกิจไปได้ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯได้มีการเจรจาขอซื้อกิจการมาระยะหนึ่งแล้ว

หลังจากบริษัทฯเข้าไปบริหารจัดการในบริษัทดังกล่าวแล้ว ก็จะเน้นการทำสินค้าคุณภาพสูง(high value) เพิ่มขึ้น รวมทั้งนำจุดแข็งของ เอสซีจี เปเปอร์เข้ามาช่วย เช่น ทีมออกแบบบรรจุภัณฑ์ ขณะเดียวกันก็จะมองลู่ทางการขยายธุรกิจต่อไป โดยไม่ให้เกิดความเสี่ยง ซึ่งอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ในตลาดสิงคโปร์และมาเลเซีย มีการขยายตัวตามเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งมองในแง่ปริมาณอาจไม่มาก แต่คุณภาพกล่องบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตส่วนใหญ่เป็นสินค้าคุณภาพสูง และมีแนวโน้มพัฒนาไปได้อีกมาก

นอกจากนี้ บริษัทฯมีการส่งออก กระดาษไปจำหน่ายยัง 2 ประเทศ ดังกล่าวอยู่แล้วในแต่ละปี ซึ่งการมีโรงงานทำบรรจุภัณฑ์ที่นั่นจะช่วยเกื้อหนุนระหว่างกัน อย่างไรก็ตาม ปริมาณการส่งออกกระดาษของเอสซีจี เปเปอร์คงไม่มีการเปลี่ยนแปลง

"เอสซีจี เปเปอร์ถือว่าเป็นผู้นำใน ธุรกิจผลิตกล่องลูกฟูกรายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้อยู่แล้ว ส่วนกระดาษพิมพ์เขียนยังเล็กอยู่ และธุรกิจแพกเกจจิ้งก็มีการขยายทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องนโยบายของเครือฯที่จะเป็นผู้นำในภูมิภาคนี้"

หมายเหตุ (1)Sime Darby Berhad เป็นเครือบริษัทชั้นนำในประเทศมาเลเซียซึ่งมีธุรกิจหลักคือ การปลูกพืชเศรษฐกิจอสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรมหนัก มอเตอร์ พลังงาน และสาธารณูปโภค โดยเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่มียอด-ขายต่อปีประมาณ 200,000 ล้านบาท

(2)Rengo Company Li-mited เป็นบริษัทชั้นนำด้านบรรจุภัณฑ์ในประเทศญี่ปุ่นและในภูมิภาคต่างๆ ซึ่งมียอดขายต่อปีรวมทั้งสิ้นประมาณ 120,000 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us