|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เอ็มดีแบงก์ทหารไทยยันพร้อมเสนอแผนการเงินเพื่อให้กระทรวงการคลังพิจารณาเพิ่มทุนได้ในมิ.ย.นี้ หลังถูกตีกลับให้ทบทวนในเรื่องบริหารความเสี่ยงและการส่งเสริมธุรกิจ ฟุ้งมีกองทุน-สถาบันการเงินหลายรายสนใจเข้ามาร่ว แต่ยังไม่มีการสรุปราคาหุ้นเพิ่มทุน
นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)(TMB)เปิดเผยว่า ธนาคารคาดว่าจะสามารถเสนอแผนการเงินไปยังกระทรวงการคลังเพื่อพิจารณาได้ในเดือนมิถุนายนนี้ หลังจากที่กระทรวงการคลังได้ส่งแผนกลับมาให้ธนาคารทบทวนอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะในประเด็นของการบริหารความเสี่ยงและการส่งเสริมธุรกิจต่างๆ
"กระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่ได้มีความกังวลใดๆกับแผนการเงินธนาคาร และหากจะเข้ามาช่วยหุ้นเพิ่มทุนของธนาคารในครั้งนี้ซึ่งถือว่าเป็นครั้งที่ 3 จึงจำเป็นที่จะต้องดูรายละเอียดและรอบคอบให้มาก เนื่องจากผู้ถือหุ้นมีข้อสงสัยเข้ามาอย่างมาก แต่ขณะนี้ก็ยังไม่มีข้อสรุปใดๆออกมา”นายสุภัคกล่าว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีกองทุนและสถาบันการเงินจากต่างประเทศให้ความสนใจมายังธนาคารหลายราย เนื่องจากต้องการที่จะร่วมทุนกับธนาคาร โดยเล็งเห็นว่าหลังจากการเพิ่มทุนแล้วอนาคตของธนาคารน่าจะดีขึ้น ทั้งนี้ หลังการเพิ่มทุน พันธมิตรต่างชาติที่จะเข้ามาถือหุ้นในธนาคารอาจมีมากกว่า 1 ราย จากเดิมที่มีธนาคารดีบีเอส สิงคโปร์ถือหุ้นอยู่แล้ว โดยปัจจุบันธนาคารมีสัดส่วนของนักลงทุนต่างชาติ 38% ซึ่งนับรวมดีบีเอสสิงคโปร์ที่ 16% แล้ว ทั้งนี้ ธนาคารยังไม่มีการสรุปราคาหุ้นเพิ่มทุนแต่อย่างใด
นอกจากนี้ กรณีที่มีข่าวว่าธนาคารทหารไทยจะควบรวมกับ ธนาคารไทยธนาคารนั้น นายสุภัคกล่าวว่า ยังไม่เคยได้ยินเรื่องดังกล่าว และมองว่าไม่น่าจะมีความเป็นไปได้ เนื่องจากธนาคารทั้ง 2 แห่ง อยู่ระหว่างการเพิ่มทุน ซึ่งกรณีที่ธนาคารจะควบรวมกันได้น่าจะเกิดประโยชน์ด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย
อย่างไรก็ตาม ภายในสัปดาห์นี้ธนาคารจะประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลงอีก 0.50% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงอีก 0.25% ส่งผลให้ดอกเบี้ยเงินกู้ เอ็มแอลอาร์ มาอยู่ที่ 7.25% จากเดิมที่ 7.50% อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ เอ็มโออาร์ มาอยู่ที่ 7.75% จากเดิมที่อยู่ที่ 8.00% และ ดอกเบี้ยเงินกู้เอ็มอาร์อาร์ มาอยู่ที่ 7.75% จากเดิมที่อยู่ที่ 8.00%
และล่าสุดธนาคารได้ได้ร่วมกับบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) เปิดบริการด้านบริหารเงินสด (Cash Management) ได้แก่ บริการด้านการออกแบบเช็คอัตโนมัติ โดยธนาคารจะเปิดให้บริการการจ่ายเช็คแก่ลูกค้าของไออาร์พีซีทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร และจ.ระยอง บริการจ่ายเงินเดือนพนักงาน บริการรับชำระค่าสินค้าและบริการ และบริการออกเช็คเงินด่วนเพื่อสั่งจ่ายค่าภาษี ค่าอากร ค่าระวาง ซึ่งจะจ่ายให้แก่หน่วยงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ
ส่วนเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นั้นธนาคารไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด แต่มีลูกค้านิติบุคคลของธนาคารได้รับความเสียหาย 1 ราย ซึ่งทางธนาคารได้มีการสอบถามไปยังลูกค้ารายดังกล่าวแล้ว ซึ่งลูกค้าได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย สำหรับในวันที่ 30 พ.ค. 50 ที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ยุบพรรคการเมืองนั้น ในฐานะที่เป็นภาคเอกชนรู้สึกเป็นห่วงเรื่องดังกล่าว และหวังว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะสงบเรียบร้อย ทั้งนี้ จะต้องคอยจับตาดูเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นก่อน ซึ่งหากเหตุการณ์ไม่สงบจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจอย่างแน่นอน
|
|
|
|
|