ปูนใหญ่อาศัยจังหวะตลาดซบ รุกให้ความรู้ตลาดทุกช่องทาง ปั้น “สถาบันนายช่างดี” ให้ความรู้ด้านวัสดุ-บริหารจัดการกับผู้รับเหมารายย่อย หวังสร้างเครือข่ายช่างคุณภาพให้ลูกค้ามั่นใจ เตรียมเปิด Lifestyle Center ให้ความรู้คนใช้สินค้า รักษาแบรนด์ให้เป็นผู้นำตลาด

ชื่อของเครือซิเมนต์ไทย ใครๆ ต่างก็การันตีถึงความเป็นผู้นำตลาดวัสดุก่อสร้างมาอย่างยาวนานหลายสิบปี เมื่อภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวอย่างหนัก ทุกคนต่างจับตามองว่าเครือซิเมนต์ไทยจะปรับตัวต่อสถานการณ์นี้อย่างไร

“การสร้างคน” และ “การบริการ” คือ หนทางที่เครือซิเมนต์ไทยเลือกที่จะเน้นอย่างหนักในปีนี้ หลังจากที่เศรษฐกิจชะลอตัว ตลาดบ้านใหม่และตลาดซ่อมแซม (รีโนเวท) มีการเติบโตลดลง ทำให้ตลาดรวมวัสดุก่อสร้างปีนี้อยู่ในภาวะติดลบ ซึ่ง ขจรเดช แสงสุพรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจจัดจำหน่าย เครือซิเมนต์ไทย กล่าวถึงภาพรวมยอดขายในไตรมาสแรกว่า ตลาดซบเซามากจนถึงขั้นติดลบ โดยภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคตะวันตก ยอดขายติดลบ 10%

ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ยอดขายติดลบ 5% โดยยอดขายของธุรกิจจัดจำหน่ายใน 4 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 30,000 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดในประเทศ 60% ตลาดส่งออก 30% และธุรกิจซิเมนต์ไทยโลจิสติกส์ 10% ซึ่งปีนี้ธุรกิจจัดจำหน่ายได้ปรับตัวด้วยการขยายไปสู่ตลาดส่งออกมากขึ้น เช่น เวียดนาม กัมพูชา ส่วนในแง่ของสินค้าจะเน้นการรักษายอดขายให้ได้เท่าเดิม การสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้ามีคุณภาพที่ดีขึ้น เพื่อเป็นจุดต่างในการขาย

ยอดขายที่ซบเซาลงอย่างมาก เครือซิเมนต์ไทยก็ไม่ฝืนตลาด แต่กลับอาศัยเวลานี้ในการสร้างคนกลุ่มหนึ่ง ให้มีโอกาสได้เรียนรู้เกี่ยวกับสินค้าของเครือฯ ซึ่งแฝงความหมายโดยนัย คือ การซึมซับแบรนด์ของเครือซิเมนต์ไทยอย่างลึกซึ้ง นั่นคือ การจัดตั้งโครงการอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพของช่างรับเหมาและผู้รับเหมาก่อสร้างขนาดกลางและย่อม ภายใต้ชื่อ “สถาบันนายช่างดี” ซึ่งเครือฯ เห็นว่า ปัจจุบันวัสดุก่อสร้างแต่ละประเภทเริ่มมีความซับซ้อนในการใช้งานมากขึ้น และอนาคตทิศการทำตลาดของเครือฯ จะปรับจากการขายสินค้าเป็นชิ้นๆ สู่การขายแบบยกระบบ หากไม่มีการปูพื้นความรู้ให้ช่างรับเหมาในด้านตัวสินค้าและวิธีการติดตั้ง อาจจะทำให้ลูกค้าไม่เกิดความประทับใจในตัวสินค้า ทั้งที่ความผิดพลาดเกิดจากขั้นตอนของการติดตั้งมากกว่าคุณภาพของสินค้า

ขจรเดช กล่าวว่า สถาบันนายช่างดี เป็นหลักสูตรการเรียนครอบคลุมทั้งทฤษฏีและปฏิบัติที่เครือฯ พัฒนาขึ้นเอง ใช้เวลาเรียนประมาณ 6 เดือน เปิดโอกาสให้ช่างรับเหมาเข้ามาอบรมฟรี แบ่งเป็น 6 ศูนย์ให้เลือกเรียน ได้แก่ ศูนย์เทคโนโลยีการฉาบปูน, ศูนย์ฝึกอบรม ฝ้า ผนัง ตราช้าง, ศูนย์ฝึกอบรมหลังคา, ศูนย์ฝึกยิปซั่ม, ศูนย์บริการห้องน้ำครบวงจร และศูนย์ความรู้และนวัตกรรมการติดตั้ง เพื่อให้ความรู้ด้านการติดตั้งกระเบื้องเซรามิค ทั้งนี้จะมีการสอดแทรกทักษะด้านการบริการ เป็นการยกระดับให้ช่างรับเหมาของสถาบันเกิดความแตกต่างจากช่างทั่วไป เพื่อให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ

นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรการบริหารจัดการธุรกิจ เพื่อเจาะกลุ่มเจ้าของกิจการรับเหมารายย่อย เพื่อให้มีความรู้ด้านการบริหารจัดการองค์การด้วย โดยจับมือกับคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้เป็นผู้พัฒนาหลักสูตร คาดว่า สถาบันนายช่างดี จะสามารถอบรมช่างรับเหมาได้ 1,000 คนต่อปี และเจ้าของกิจการรับเหมา 300 คนต่อปี ภายใต้งบประมาณปีละ 30 ล้านบาท เพื่อสร้างตลาดให้แข็งแกร่ง เครือซิเมนต์ไทยยังเตรียมจะรวบรวมข้อมูลของช่างรับเหมาที่ผ่านการอบรมของสถาบัน ในลักษณะ SCG Contractor Member เพื่อสร้างเครือข่ายผู้รับเหมาของเครือฯ ที่มีการรับประกันคุณภาพและฝีมือ มีการป้อนงานให้ผ่านทางร้านผู้แทนจำหน่าย

รวมทั้งศูนย์บริการต่างๆ ของเครือฯ เพื่อให้ตอบโจทย์การทำตลาดอย่างครบวงจร และจะมีการจัดทำระบบประเมินและติดตามผล เพื่อรับประกันคุณภาพของช่างให้มีฝีมือที่เป็นมาตรฐาน ในอนาคตจะจัดทำซิมโทรศัพท์มือถือ ให้ช่างในเครือข่ายสามารถโทรหากันได้ฟรี และเป็นช่องทางที่เครือฯ จะสามารถติดต่อ ส่งข่าวสารต่างๆ ให้ได้โดยตรง เป็นการเสริมเครือข่ายช่างให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น รวมทั้งการจัดทำ Loyalty Program หรือการสะสมแต้มจากการซื้อสินค้าในเครือ เพื่อแลกของสมนาคุณ ซึ่งจะเป็นการผูกให้ช่างรับเหมาเกิดความผูกพันกับแบรนด์ในระยะยาว

ในแง่ของผู้บริโภค เครือฯ มีแผนที่จะลงทุนก่อสร้าง Lifestyle Center ขนาด 10,000 ตร.ม. ในพื้นที่ของ Crystal Design Center (CDC) ของ เค.อี. แลนด์ บน ถ.เกษตร-นวมินทร์ โดยจะเป็นช่องทางในการให้ความรู้ด้านวัสดุก่อสร้างแก่เจ้าของบ้าน วิศวกร สถาปนิก เน้นรูปแบบนำเสนอที่น่าสนใจ จะใช้งบลงทุน 400 ล้านบาท