|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ มิถุนายน 2550
|
|
วันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา ธนาคารเอชเอสบีซีเปิดตัวศูนย์บริการเอชเอสบีซี พรีเมียร์รูปโฉมใหม่พร้อมกัน 250 แห่งใน 35 ประเทศและเขตปกครอง โดยเอชเอสบีซี ประเทศไทยได้มีการเปิดตัวพร้อมกันในครั้งนี้ด้วย
เอชเอสบีซี พรีเมียร์ เป็นบริการทาง การเงินส่วนบุคคลสำหรับกลุ่มลูกค้าระดับบน ที่เอชเอสบีซีเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2543 เนื่องจากเล็งเห็นถึงพฤติกรรมของลูกค้ากลุ่มนี้ที่มีเวลาจำกัด มีการเดินทางต่างประเทศเป็นประจำและยังมีความต้องการธุรกรรมทางการเงินข้ามประเทศ การที่เอชเอสบีซีมีเครือข่ายสาขาที่สามารถให้บริการครอบคลุม ทั่วโลกจึงเป็นจุดเด่นสำคัญในการให้บริการลูกค้ากลุ่มนี้
การจะเป็นลูกค้าเอชเอสบีซี พรีเมียร์ ก็เพียงแค่ฝากเงินหรือลงทุนกับเอชเอสบีซีตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งวิชิต พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการบริหาร ฝ่ายบุคคลธนกิจ ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย ประเมินว่า ผู้ที่อยู่ในข่ายสามารถใช้บริการนี้ในประเทศไทยมีจำนวนถึง 160,000 คนเลยทีเดียว
เมื่อเป็นลูกค้าที่เงินถึง บริการก็ถึงพร้อมตามไปด้วย โดยใช้การ บริการที่เป็นส่วนตัวมาสร้างความรู้สึกว่าลูกค้าเป็นคนพิเศษ เพราะลูกค้าแต่ละรายจะมีผู้จัดการการเงินส่วนบุคคล (Relationship Manager หรือ RM) คอยดูแลเพื่อนำเสนอและให้คำแนะนำผลิตภัณฑ์ และบริการทางการเงินที่มีอยู่ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด
เอชเอสบีซี ประเทศไทย เริ่มให้บริการเอชเอสบีซี พรีเมียร์ตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว ขณะนี้มี RM คอยให้บริการลูกค้าอยู่ราว 50 คนด้วยกันและแต่ละคนต้องผ่านหลักสูตรฝึกอบรมที่เป็นมาตรฐานเดียวกันของ เอชเอสบีซีทั่วโลก แถมยังต้องสอบใบอนุญาตจากทางการไทยอีกด้วย
สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าเอชเอสบีซี พรีเมียร์ นอกจากจะสามารถใช้บริการเอชเอสบีซีได้ในทุกสาขาทั่วโลก พร้อมทั้งได้ข้อเสนอ พิเศษและการยกเว้นค่าธรรมเนียมในบางบริการแล้ว ยังมีบริการ Wealth Management เพื่อช่วยเพิ่มพูนความมั่งคั่งให้กับลูกค้าแต่ละรายด้วย โดยจะมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกทั้งที่เป็นเงินฝากหรือการลงทุนในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกองทุนรวม ตราสารหนี้ ตั๋วแลกเงิน ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ที่มีความซับซ้อนอย่างผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structured note) อีกด้วย
พันธมิตรด้านกองทุนรวมของเอชเอสบีซี ประเทศไทย ในขณะนี้มี 4 รายด้วยกัน ได้แก่ บลจ.อเบอร์ดีน (ประเทศไทย) บลจ. ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) บลจ.อยุธยา และ บลจ.ทหารไทย และถึงแม้ว่าเอชเอสบีซีจะมีจุดเด่นในด้านเครือข่ายที่มีครอบคลุมทั่วโลก แต่น่าเสียดายที่ลูกค้าเอชเอสบีซี พรีเมียร์ในประเทศไทย ขณะนี้ยังไม่สามารถทำการลงทุนโดยตรงไปยังต่างประเทศได้ เนื่องจากติดข้อจำกัดของทางการ ต่างจากลูกค้าบริการนี้ในต่างประเทศที่สามารถ เลือกการลงทุนไปในประเทศอื่นได้โดยใช้เครือข่ายของเอชเอสบีซีที่มีอยู่ เป็นการเพิ่มโอกาสในการลงทุนได้อีกทางหนึ่ง
|
|
|
|
|