หากดูจากตัวเลขธุรกรรมทางการเงินที่เกิดขึ้นภายในงาน Money Expo 2007 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-13 พฤษภาคมที่ผ่านมา อาจเรียกได้ว่างานนี้เป็นมหกรรมการกู้เงินอย่างแท้จริง เพราะตัวเลขที่สันติ วิริยะรังสฤษฏ์ ประธานจัดงานเปิดเผยออกมาหลังจากรวบรวมข้อมูลจากสถาบันการเงินทุกแห่งที่มาร่วมออกงานในครั้งนี้พบว่า ยอดธุรกรรมการเงินที่เกิดขึ้นภายในเวลาเพียง 4 วัน มีมูลค่าสูงถึงกว่า 88,000 ล้านบาท สูงที่สุดนับตั้งแต่ที่เริ่มจัดงาน Money Expo มาเลยทีเดียว

เมื่อจำแนกตัวเลขดังกล่าวออกเป็นประเภทต่างๆ จะพบว่า ยอดสินเชื่อเคหะนำมาเป็นอันดับหนึ่งด้วยมูลค่าสูงถึงกว่า 63,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนเกินกว่า 70% ซึ่งตัวเลขนี้อาจจะทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายรายใจชื้นขึ้นได้บ้าง เพราะถึงแม้ว่าภาวะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะชะลอตัวไปบ้างแต่กำลังซื้อก็ยังพอมีให้เห็นอยู่

ยอดสินเชื่อรองลงมาเป็นสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก 20,000 ล้านบาท และที่ขาดไม่ได้ ถึงแม้ว่าภาครัฐจะพยายามโปรโมตแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงขนาดไหนก็ตาม สินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อบัตรเครดิตก็ยังได้รับความนิยมสูงอยู่ดี โดยยอดสินเชื่อส่วนบุคคลในงานนี้มีจำนวน 1,300 ล้านบาทและบัตรเครดิตอีก 1,000 ล้านบาท

นอกจากในด้านสินเชื่อแล้ว ในฝั่งของการออมเงินก็ยังมีประชาชนให้ความสนใจเช่นกัน ถึงแม้ว่าตัวเลขธุรกรรมที่เกิดขึ้นจะมีสัดส่วนน้อยมากเมื่อเทียบกับการกู้เงิน โดยภายในงานครั้งนี้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมมียอดขายกองทุนรวมกันได้ราว 800 ล้านบาท ตามมาด้วยยอดขายกรมธรรม์ประกันชีวิตอีก 600 ล้านบาท และที่เป็นเงินฝากอีก 250 ล้านบาท

เป็นธรรมเนียมที่รับรู้กันไปแล้วว่าการมาร่วมงาน Money Expo ของสถาบันการเงินแต่ละแห่งนั้น นอกจากการแข่งขันในด้านการตกแต่งบูธให้ดูสวยสะดุดตาเพื่อดึงดูดผู้มาร่วมงานแล้ว โปรโมชั่นพิเศษ ภายในงานก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ผู้มาร่วมงานจำนวนมากชะลอการขอสินเชื่อหรือซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเงินในช่วงก่อนงานเพื่อรอมาดูโปรโมชั่นพิเศษภายในงานก่อนตัดสินใจ ในปีนี้ก็เช่นกัน

โปรโมชั่นประเภทลด แลก แจก แถม มีให้เห็นแทบทุกบูธ ของแจกมีให้เห็นตั้งแต่กระเป๋า ร่ม ตุ๊กตา กระปุกออมสิน เครื่องใช้ไฟฟ้า ไปจนถึงคูปองเติมน้ำมันสำหรับแคมเปญดอกเบี้ยต่ำที่สถาบันการเงินบางแห่งเตรียมมากลับดูด้อย ค่าไปถนัดใจ เมื่อมาเจอกลยุทธ์ดอกเบี้ย 0% ที่บางเจ้ายอมทุ่มเพื่อหวังยอดในงานนี้โดยเฉพาะ

กลยุทธ์อีกประการหนึ่งที่เพิ่งนำมาใช้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาและแพร่หลายอย่างมากในปีนี้คือ การนำเอาดารา นักร้องหรือแม้แต่นางงามมาปรากฏตัว เพื่อหวังดึงผู้มาร่วมงานให้เข้าไปที่บูธ คนที่มาเดินในงานปีนี้จึงมีโอกาสได้พบดาราอย่างแพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์ กบ สุวนันท์ คงยิ่ง ไปจนถึงมินิคอนเสิร์ตของนักร้องอย่างบี้ เดอะสตาร์ เจ เจตริน และกลุ่มนักร้อง AF ตั้งแต่ชุดแรกจนถึงชุดล่าสุด

และเพื่อให้เข้ากับธีมของงานที่กำหนดไว้ว่า การเงินพอเพียง ชีวิตพอเพียง (Sufficient Money Sufficient Life) ในปีนี้จึงมีโซนสำหรับผู้ประกอบการ SME และกลุ่มลูกค้าที่ทำการเกษตรของธนาคาร หลายแห่งนำเอาสินค้าและบริการมาจำหน่ายภายในงาน ถึงแม้ผู้ประกอบการที่เป็นลูกค้าธนาคารแต่ละเจ้าจะคล้ายๆ กันไปบ้าง แต่อย่างน้อยก็พอจะเป็นสัญญาณที่ดีว่าภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่ยังอึมครึมเช่นนี้ธนาคารหลายแห่งยังให้ความช่วยเหลือกับผู้ประกอบการ SME กันอยู่บ้าง