Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน28 พฤษภาคม 2550
สิงห์ฯเท150ล.เพิ่มกำลังผลิตบีอิ้งยอดพุ่งบี้อะมิโนโอเคอัดไพรซ์วอร์             
 


   
www resources

โฮมเพจ สิงห์ คอร์ปอเรชั่น

   
search resources

Alcohol
สันต์ ภิรมย์ภักดี
สิงห์ คอร์ปอเรชั่น, บจก.




สิงห์ฯ ยิ้มรับยอด 4 เดือนแรก น้องใหม่ บี-อิ้งไปได้สวย ยอดพุ่งเกิน 2 ล้านลิตรเกินกว่าเป้าที่วางไว้ ระบุเตรียมเบรกสายการผลิตชาเขียวโมชิ ลงทุน บี- อิ้ง เพิ่มเครื่องจักรใหม่ 150 ล้านบาทปีหน้า หันเพิ่มกำลังการผลิตสินค้าเครื่องดื่มเสริมสุขภาพประจำวันแทน พร้อมลุยรุก 3 ช่องทางขายหลักเจาะตามเซกเมนต์ โวหลังสินค้าติดตลาดส่งต่อยอดขายแตะ 270ล้านบาท

นายสันต์ ภิรมย์ภักดี ผู้จัดการฝ่ายการตลาดกลุ่มไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ บริษัทสิงห์คอร์ปอเรชั่น ผู้ผลิตและทำตลาดเครื่องดื่มเบียร์สิงห์ ลีโอ เครื่องดื่มน้ำ และโซดา สิงห์ ชาเขียวพร้อมดื่มยี่ห้อ โมชิ และเครื่องดื่มเสริมสุขภาพประจำวันยี่ห้อ บี-อิ้ง เปิดเผยว่า บริษัท เตรียมใช้งบประมาณไว้กว่า 150 ล้านบาท สำหรับเพิ่มเครื่องจักรใหม่ในการผลิตสินค้า เครื่องดื่มยี่ห้อ บี-อิ้ง อีกทั้ง 3 รสชาติ ประกอบด้วย 1.บี -อิ้ง ไฟน์ 2.บี-อิ้ง บูทส์ และ 3.บีอิ้ง คอมฟอร์ท ที่ในปัจจุบันมีผลิตในต่างประเทศประกอบด้วย ประเทศญี่ปุ่น อเมริกา และฝรั่งเศส ซึ่งโรงงานดังกล่าวมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 6ล้านลิตรต่อปี ทั้งนี้ยังอยู่ระหว่างการเจรจาเดินแผนต่อไป ซึ่งคาดว่าน่าจะสรุปได้ช่วงต้นปี 2551 นี้

สำหรับการรุกทำบี -อิ้ง บริษัทจำเป็นต้องหยุดการผลิตเครื่องดื่มชาเขียวโมชิ ซึ่งในปัจจุบันมีโรงงานอยู่ที่ถ.สามเสน กรุงเทพ โดยมีแนวทางว่าจ้างการผลิตสินค้าดังกล่าวจากภายนอก หรือโออีเอ็มแทน อย่างไรก็ตามบริษัทจะยังทำตลาดสินค้าชาเขียวยี่ห้อโมชิต่อไป ซึ่งต้องยอมรับว่าสินค้าเครื่องดื่มกลุ่มนี้มีอัตราเติบโตน้อย

การมุ่งทำตลาดสายการผลิตเครื่องดื่มฯยี่ห้อ บี-อิ้ง นี้เนื่องจากพบว่าในช่วง 4 เดือนแรกหลังจากที่ได้เปิดตัวตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจ ยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์กว่า 2 ล้านลิตร ส่งผลให้บริษัทหันมาให้ความสำคัญกับสายการผลิตสินค้ากลุ่มนี้มากขึ้น พร้อมกับยอมรับว่าได้มีการปรับเป้ายอดขายสินค้าภายในสิ้นปีนี้เพิ่มเป็น 4 ล้านลิตร หรือยอดขายอยู่ที่ 270 ล้านบาท จากเดิมที่วางไว้อยู่ที่ 3 ล้านลิตรเท่านั้น

ปัจจุบันเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมีความจำเป็นอย่างเห็นได้ชัด เทรนด์สุขภาพมาแรง คนเราเริ่มหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น เครื่องดื่ม บี -อิ้ง เป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพประจำวัน ผสมผสานกับวิตามิน ความจำเป็นต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการทดแทนพลังงาน การสร้างใยอาหารอินนูลินช่วยย่อยอาหาร การสร้างวิตามินต่างๆ สร้างขึ้นมาเพื่อสอดรับกับความต้องการผู้บริโภคในตลาดที่ ไม่ค่อยมีเวลามากนักในการหาวิตามินหรือเครื่องดื่มสุขภาพที่ครบสูตรเช่นนี้ บริษัทฯเชื่อว่าบี-อิ้งจะต้องติดตลาด

สำหรับกลยุทธ์การทำตลาดเพื่อสร้างความแตกต่างให้กับ บี-อิ้ง บริษัทฯ เตรียมงบประมาณไว้กว่า 120 ล้านบาท ทั้งนี้จะให้น้ำหนักในเรื่องกิจกรรมการตลาด ณ จุดขายและโฆษณาผ่านสื่อ ผสมผสานกับการปรับกลยุทธ์การทำตลาดเจาะเข้าสู่ช่องทางขายที่เหมาะสม เพื่อให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายผลิตภัณฑ์ ยกตัวอย่างเช่น 1.บี-อิ้ง สีแดง จับกลุ่มผู้หญิง หรือ ผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ ศูนย์สุขภาพและความงาม สปา และกำลังเจรจากับสายการบินเพื่อนำเครื่องดื่มกลุ่มนี้ให้บริการบนเครื่องบิน 2.บี-อิ้ง สีฟ้า จับกลุ่มนักกีฬา ผู้ออกกำลังกาย จำหน่ายในศูนย์ออกกำลังกายและ3. บี-อิ้ง สีส้ม จะเข้าช่องทางขายกลุ่มร้านอาหารสาขา ฟาสต์ฟู้ด

ขณะในช่องทางร้านค้าปลีกสมัยใหม่ และร้านสะดวกซื้อจะวางจำหน่ายสินค้าทั้ง 3 ตัว ซึ่งบริษัทได้แยกแผนกใหม่คือ เทรด มาร์เก็ตติง เพื่อสร้างทีมขายและรถจัดจำหน่ายสินค้าเพิ่มกว่า 120 คัน เพื่อทำตลาดและกระจายสินค้ากลุ่มเครื่องดื่มไม่ผสมแอลกอฮอล์โดยเฉพาะเพื่อแยกการทำตลาดจากเครื่องดื่มกลุ่มแอลกอฮอล์อย่างชัดเจน

นายสันต์ กล่าวต่อว่า จากแผนในการทำตลาดเชื่อว่าจะแยกสินค้าแต่ละตัวมีความชัดเจน และสร้างความแตกต่างไปจากสินค้ายี่ห้ออื่นที่ใกล้เคียงในตลาด เช่น ยี่ห้ออะมิโนโอเค ที่ให้ประโยชน์ไม่เหมือนกันและล่าสุดสินค้าดังกล่าวได้ปรับราคาลดเหลือ 10 บาท จากเดิมราคา 20บาท ส่งผลกระทบต่อยอดขายเครื่องดื่มฯบี-อิ้ง ตกลง 20% เนื่องจากไม่สามารถปรับราคาลงมาได้ เนื่องจากต้นทุนที่สูงกว่าในปัจจุบันวางจำหน่ายอยู่ที่ 20 บาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us