Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤษภาคม 2536








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤษภาคม 2536
"ตำนานยูนิคอร์ด"             
 

   
related stories

"จุดตายยูนิคอร์ด คิดว่าตัวเองใหญ่"

   
search resources

ยูนิคอร์ด, บมจ.
ดำริห์ ก่อนันทเกียรติ
Investment




ยูนิคอร์ดในยุคแรก ๆ นั้นไม่ได้เริ่มต้นด้วยปลาทูน่ากระป๋อง แต่เป็นโรงงานทำสับปะรดกระป๋อง ตามความถนัดของกมลและเกียรติ เอี่ยมสกุลรัตน์ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง โดยทั้งสองคนนี้มีโรงงานผลิตสับปะรดกระป๋องอยู่ก่อนแล้วที่บ้านบึง ชลบุรี

กิจจา ก่อนันทเกียรติ พ่อของดำริห์ ก่อนันทเกียรติ เป็นเพื่อนเก่าของตระกูลเอี่ยมสกุลรัตน์ เคยเป็นหุ้นส่วนในการทำธุรกิจเหล้าและค้าข้าวมาก่อน ต่อมากิจจาขายหุ้นในธุรกิจเหล้าทิ้งไป คงเหลือแต่การค้าข้าวในนามบริษัทนิกรข้าวไทย

หกเดือนหลังจากกมลและเกียรติก่อตั้งยูนิคอร์ด ซึ่งตอนนั้นใช้ชื่อว่า ยูนิคอร์ด อินเวสท์เม้นท์ กิจจาก็เข้าร่วมลงทุนด้วย ทุนจดทะเบียนของยูนิคอร์ดเพิ่มขึ้นจาก 10 ล้านบาทเป็น 20 ล้านบาท โดยก่อนันทเกียรติถือหุ้นอยู่ครึ่งหนึ่ง

ก่อนที่จะมาร่วมกับเอี่ยมสกุลรัตน์ในยูนิคอร์ด กิจจาได้ร่วมทุนกับตระกูลแต้ไพสิษฐพงษ์ ตั้งบริษัทเบทาโกรขึ้นมาในปี 2510 เพื่อผลิตอาหารสัตว์ ตอนนั้นดำริห์กำลังศึกษาอยู่ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ดำริห์เริ่มต้นก้าวแรกของชีวิตทางธุรกิจในตำแหน่งผู้จัดการโรงงานของเบทาโกรเมื่อปี 2514 และต่อมาก็ควบตำแหน่งบริหารด้านโรงงานและการตลาดของยูนิคอร์ดด้วย โดยทางเอี่ยมสกุลรัตน์ดูแลการจัดซื้อและการเงิน

โรงงานสับปะรดที่ตั้งอยู่ที่มหาชัย เปิดดำเนินการไม่กี่เดือน ยูนิคอร์ดก็ต้องเปลี่ยนแผนใหม่ เพราะอยู่ไกลจากแหล่งวัตถุดิบมาก ทำให้ต้นทุนค่าขนส่งสูง ประกอบกับตลาดสับปะรดกระป๋องในช่วงนั้นไม่สู้จะสดใสนัก

มหาชัยเป็นแหล่งใหญ่ของอาหารทะเล ยูนิคอร์ดจึงปรับตัวให้เข้ากับความเอื้ออำนวยของแหล่งวัตถุดิบ โดยการปรับระบบการผลิตหันมาเป็นโรงงานบรรจุอาหารทะเลกระป๋อง ใช้ปลาซาร์ดีนเป็นวัตถุดิบหลัก รวมทั้งผักและผลไม้กระป๋องด้วย พร้อมกับเพิ่มทุนจาก 20 ล้านบาทเป็น 60 ล้านบาท ในปี 2523 เพื่อลงทุนเพิ่มในเครื่องจักร

สิ่งที่ยูนิคอร์ดทำในขณะนั้นเรียกว่า ORDER PROCESSING คือทำอาหารสำเร็จรูปบรรจุกระป๋องหลาย ๆ ชนิด ทั้งปลา ผัก ผลไม้ ตามแต่ลูกค้าจะต้องการ ซึ่งทำให้มีปัญหามาก เพราะต้องมีวัตถุดิบหลายชนิด และยากลำบากในการบริหารวัตถุดิบให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด กล่าวคือ ยามใดที่ลูกค้าต้องการสินค้า ก็อาจจะไม่มีวัตถุดิบ ยามใดที่วัตถุดิบเหลือเฟือ อาจจะไม่มีออเดอร์ก็ได้

ยูนิคอร์ดจึงอยู่ในฐานะที่ไม่สามารถยึดตลาดใดตลาดหนึ่งเป็นหลักได้ ทั้งยังไม่สามารถบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะไม่อาจจะคาดคะเน หาความลงตัวระหว่างปัญหาทางด้านวัตถุดิบกับความต้องการของลูกค้าได้ ไม่สามารถควบคุมต้นทุนวัตถุดิบที่ขึ้นลงตามฤดูกาล และปริมาณในขณะที่ราคาขายนั้นถูกกำหนดจากตลาดเพียงฝ่ายเดียว

ปี 2525 ยูนิคอร์ดเริ่มทบทวนตำแหน่งของตัวเองใหม่ว่าจะอยู่ตรงไหนของธุรกิจอาหารกระป๋อง ที่มีสินค้าหลากหลายประเภท "ดำริห์บอกว่า เราจะเป็นโรงงานทำปลาทูน่าที่ใหญ่ที่สุดในโลก" อดีตพนักงานรุ่นบุกเบิกของยูนิคอร์ดคนหนึ่งเล่าให้ฟัง

ผู้ผลิตปลาทูน่ากระป๋องรายใหญ่ในตอนนั้นคือ สหรัฐ แคนาดาและญี่ปุ่น แต่เป็นการผลิตเพื่อบริโภคเองภายในประเทศซึ่งก็ยังไม่เพียงพอ ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ คือ ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซียและเม็กซิโก ส่วนประเทศไทยช่วงนั้น เพิ่งจะเริ่มส่งออก โดยมีซาฟโคลและไทยรวมสินเป็นผู้บุกเบิกในตอนแรกๆ

อุตสาหกรรมปลาทูน่ากระป๋องเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานมาก จึงเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขันของไทยเพราะยังมีต้นทุนค่าแรงในระดับต่ำอยู่

ข้อได้เปรียบอีกประการหนึ่งคือ สภาพทางภูมิศาสตร์ที่อยู่ใกล้แหล่งวัตถุดิบ คือ มหาสมุทรแปซิฟิคตอนใต้ กับ ตะวันตก ทำให้ไม่มีปัญหาในเรื่องการขนส่ง

สหรัฐฯ เป็นผู้สั่งซื้อปลาทูน่าจากไทยมากที่สุดเพราะเป็นอาหารราคาถูกที่ประชาชนนิยมบริโภคมาก ยุทธวิธีของยูนิคอร์ดในการเจาะตลาดก็คือ ใช้กลยุทธ์ด้านราคา สู้กันด้วยราคาที่ถูกที่สุด ยึดครองตลาดไว้ก่อน กำไรขาดทุนว่ากันทีหลัง

ยูนิคอร์ดจึงอยู่ในภาวะขาดทุนมาโดยตลอดระหว่างปี 2526-2529 ขณะเดียวกันก็มีการเพิ่มทุนอยู่ตลอดเวลาจนถึง 200 ล้านบาทในปี 2527 เพื่อซื้อเครื่องจักรใหม่ ๆ มาเพิ่มกำลังการผลิต เพราะอุตสาหกรรมนี้มีมาร์จินต่ำ ต้องผลิตในปริมาณที่สูงมากจึงจะมีกำไรเป็นกอบเป็นกำ

"ธุรกิจนี้เล็กไม่ได้ ต้องใหญ่ เมื่อจะใหญ่ก็ต้องมีเงินทุนเพียงพอ ถ้ามีทุนจดทะเบียนสูงก็ขยายกำลังการผลิตได้ สร้างกำไรได้" ดำริห์พูดถึงหลักในการลงทุนของตัวเองที่มองไปในระยะยาว

การเพิ่มทุนอย่างต่อเนื่องในขณะที่ยังขาดทุนอยู่ ทำให้ทางเอี่ยมสกุลรัตน์ ซึ่งมีพื้นฐานมาจากการค้าเหล้า และค้าข้าวที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุนมากก็ได้กำไร ย่อมไม่คุ้นเคยกับสไตล์ของดำริห์ที่ต้องควักกระเป๋าเพิ่มทุนอยู่ตลอดเวลา โดยที่ไม่มีผลกำไรกลับคืนมาเลย ไม่เห็นด้วย จนในที่สุดก็ขายหุ้นทั้งหมดให้กับดำริห์เมื่อต้นปี 2530 ยูนิคอร์ดตกเป็นสมบัติของก่อนันทเกียรติแต่เพียงผู้เดียวนับแต่นั้นเป็นต้นมา และมีการเพิ่มทุนจาก 200 ล้านบาทเป็น 400 ล้านบาท แต่ก็ยังมีผลขาดทุนสูงถึง 600 ล้านบาท

การขายทุนนี้ก็เป็นผลมาจากการบุกขยายตลาดให้ได้มากที่สุด ถึงแม้ว่าจะต้องยอมขาดทุน ก็ยอม ตามสไตล์ของดำริห์ นอกจากนั้น ยังเป็นเพราะระบบการบริหารงานภายในที่แบ่งหน้าที่กันอย่างเด็ดขาดระหว่างเอี่ยมสกุลรัตน์และก่อนันทเกียรติ ต่างฝ่ายต่างก็เลยปกป้องแสวงหาผลประโยชน์ใส่ตัวอย่างเต็มที่ โดยไม่สนใจผลการดำเนินงานรวมของบริษัทว่าจะออกมาอย่างไร

นับจากปี 2527 เป็นต้นมา อุตสาหกรรมอาหารทะเลของไทยกลายเป็นผู้ผลิตรายใหญ่รายหนึ่งของโลก ซึ่งสินค้าหลักในกลุ่มนี้ คือ ปลาทูน่ากระป๋อง

การบริโภคปลาทูน่าขยายตัวขึ้นมาอย่างสม่ำเสมอตามการเพิ่มของประชากรในอเมริกา แต่ผู้ผลิตกลับลดน้อยลงไป ทั้งในสหรัฐฯ ญี่ปุ่นและไต้หวัน เพราะไม่สามารถสู้ผู้ผลิตจากประเทศที่มีค่าแรงต่ำอย่างไทยหรืออินโดนีเซียได้ จึงทำให้ไทยกลายเป็นแหล่งผลิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียูนิคอร์ดเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดด้วย

แต่จะใหญ่อย่างไร ก็ยังเป็นแค่ผู้ส่งออกที่ไม่มีสินค้าและตลาดของตนเองอย่างแท้จริง ปัญหาข้อนี้ ทำให้ดำริห์คิดการใหญ่เข้าซื้อกิจการบัมเบิ้ลบีมาเป็นของยูนิคอร์ดได้สำเร็จเมื่อปี 2532

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us