Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน23 พฤษภาคม 2550
PFงัดที่ดิน2พันไร่รับรถไฟพัฒนาเบ็ดเสร็จกว่า5หมื่นล.             
 


   
www resources

โฮมเพจ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค

   
search resources

พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค, บมจ.
ชายนิด โง้วศิริมณี
Real Estate




นายชายนิด โง้วศิริมณี กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) (PF) เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ ว่า ปัจจัยลบในตลาดอสังหาฯ ยังคงกระทบต่อการชะลอตัวของตลาดโดยรวม โดยเฉพาะปัจจัยเรื่องน้ำมัน ที่มีสัญญาณการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าราคาน้ำมันจะปรับขึ้นสูงสุดประมาณ 30บาทต่อลิตร และคงที่อยู่ในระดับดังกล่าวไปอีกไม่ต่ำกว่า 1 ปี ทำให้พฤติกรรมการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคโดยรวม ยังคำนึงถึงต้นทุนในการเดินทางเมื่อคิดจะซื้อที่อยู่อาศัย ดังนั้น แนวโน้มการเติบโตของตลาดที่อยู่อาศัยในอนาคต คาดว่าจะอยู่ในพื้นที่แนวรถไฟฟ้า

นอกจากนี้ ปัจจัยด้านการเมืองที่ขณะนี้ อยู่ในช่วงร้อนแรงที่สุด เนื่องจากในปลายเดือน พ.ค.นี้ จะมีการตัดสินของศาลปกครองกรณีการยุบพรรคการเมืองใหญ่ 2 พรรค ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทางด้านการเมือง ทำให้ทุกฝ่ายให้ความสำคัญและจับตามองอย่างมาก ทั้งนี้ หากมีการประกาศผลการตัดสินในเรื่องดังกล่าวแล้ว คาดว่าสถานการณ์ด้านการเมือง และเศรษฐกิจน่าจะกลับมาชัดเจน และมีทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากรัฐบาลยืนยันจะเร่งกำหนดวันเลือกตั้งขึ้นภายในปี 2550

อย่างไรก็ดี แม้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะมีปัจจัยลบเข้ามากระทบ แต่ปัจจัยบวกในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง5เดือนที่ผ่านมา มีการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร (อาร์/พี)ไปแล้ว 1% และหากมีการปรับลดดอกเบี้ยอาร์/พีอีก 0.50% จะทำให้อัตราดอกเบี้ยกลับไปอยู่ในระดับเดียวกับช่วงที่ตลาดอสังหาฯ มีการขยายตัวสูงสุด หลังจากที่เกิดภาวะวิกฤติเศรษฐกิจปี2540 คือ ในปี2545-2546 ซึ่งการลดลงของอัตราดอกเบี้ยจะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้าในตลาดได่ในระดับหนึ่ง อนึ่ง ในวันนี้ (23 พ.ค.) คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง) จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาร์/พี

ทั้งนี้ ในภาวะน้ำมันมีการปรับราคาสูงขึ้น ส่งผลต่อภาวะเงินเฟ้อทำให้ผู้บริโภคมีภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้น และส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค ดังนั้น เพื่อรองรับสถานการณ์ในตลาดอสังหาฯที่ยังอยู่ในช่วงชะลอตัวดังกล่าว บริษัทจึงได้ปรับกลยุทธ์และการทำตลาดใหม่ โดยการปรับสินค้าและราคาขายให้เหมาะสมกับกำลังซื้อของลูกค้า ปรับลดราคาขายและขนาดของสินค้าลง ซึ่งและเน้นพัฒนาสินค้าที่มีราคาเฉลี่ย 3.2 ล้านบาทออกมารองรับกำลังซื้อที่ลดลง และเน้นการพัฒนาโครงการในทำเลแนวรถไฟฟ้า ทั้งในแนวราบและแนวสูง เพื่อรองรับพฤติกรรมการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยที่สะดวกและลดภาระการเดินทางของลูกค้า

นายชายนิดกล่าวว่า ปัจจุบัน บริษัทมีที่ดินสะสมในแนวรถไฟฟ้าอยู่ในมือ 2,000 กว่าไร่ ซึ่งกระจายอยู่ตามแนวรถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้าใต้ดิน สามารถรองรับการพัฒนาโครงการในอนาคตได้ในระยะยาว โดยหากมีการพัฒนาและขายแล้ว คาดว่าจะมีมูลค่าในการขายรวมประมาณ 50,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ตามนโยบายการพัฒนาระบบโครงข่ายรถไฟฟ้าของรัฐบาลนั้น รัฐบาลชุดนี้จะมีการอนุมัติการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าเพิ่มอีก 2 สายประกอบด้วยสายสีแดง บางซื่อ-ตลิ่งชั้น และสายสีม่วง บางซื่อ-บางใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะมีการประมูลการก่อสร้างภายในปีนี้ และการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในปี2554 ซึ่งจะทำให้ระบบรถไฟฟ้าเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น มีผลช่วยให้มีการขยายตัวของตลาดอสังหาฯในแนวรถไฟฟ้าในอนาคตอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ในการพัฒนาโครงการนั้น บริษัทจะเน้นในเรื่องของสิ่งแวดล้อมภายในโครงการ คาดว่าจะได้รับความนิยมในระยะยาว เนื่องจากในภาวะโลกร้อนที่เพิ่มขึ้นและความร่มรื่นในเมืองเริ่มลดลง ทำให้ผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับที่อยู่อาศัย ที่มีบรรยายกาศร่มรื่นและแวดล้อมด้วยต้นไม้ ที่ช่วยสร้างความร่มรื่นให้แก่ผู้อยู่อาศัย

ด้านนายวิชัย สิงห์วิชา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการกล่าวว่า ล่าสุด บริษัทได้ทำการศึกษาและวิจัยด้านการออกแบบการก่อสร้างของต่างประเทศ ทั้ง KB Home บริษัทพัฒนาอสังหาฯในอเมริการ และ SEKISUI ประเทศญี่ปุ่น ในเรื่อง Customization โดยให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการเลือกรายละเอียดของบ้าน โดยได้นำมาพัฒนาบ้านใน 9 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการบ้านขนาดกลาง ภายใต้แนวคิด Prefect Customization ซึ่งลูกค้าจะสามารถเลือกรายละเอียดในการแต่งบ้านได้ถึง 100 สไตล์ โดยสามารถดทสอบเลือกแบบบ้านได้ตามความต้องการผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ทั้งเรื่องการเลือกสีบ้าน แบบบ้าน การเลือกออกแบบพื้นที่ภายในตัวบ้าน วัสดุตกแต่ง และการจัดสวน ฯลฯ โดยราคาบ้านสั่งสร้างรุ่นใหม่เริ่มต้นที่ 3ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทยังได้การจัดแคมเปญใหม่ My Perfect และจัดทำภาพยนตร์โฆษณา 9 เรื่อง โดยใช้งบประมาณ 40 ล้านบาท เพื่อตอกย้ำจุดเด่นโครงการของบริษัทด้วย

นายชายนิด กล่าวว่า สำหรับการนำแนวคิด Prefect Customization เข้ามาทำตลาดในครั้งนี้ คาดว่าจะช่วยให้บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้น 20% เนื่องจากจะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น ในขณะที่การเลือกแบบบ้านอาจะมีระยะเวลานานขึ้น

สำหรับในปี 2550 บริษัทตั้งเป้าว่าจะมียอดขายและรับรู้รายได้รวมที่ 8,000 ล้านบาทตามเป้า แม้ว่าในช่วงไตรมาสแรกบริษัทจะมียอดขายที่ต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ก็ตาม เนื่องจากในช่วงไตรมาส2-4 ของปีนี้บริษัทจะมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ โดยมีบ้านสั่งสร้างเป็นหัวหอกสำคัญในการสร้างยอดขาย โดยรายได้ดังกล่าวจะมาจากสต็อกยอดขายในปี2549 ซึ่งจะโอนมารับรู้รายได้ในปี50นี้ ประมาณ 3,000 ล้านบาทจาก2โครงการคือ โครงการเมโทรพาร์ คอนโดมิเนียม และยอดขายจากโครงการวิลล่าทาวน์เฮาส์ ซึ่งจะทำให้ในปีนี้ บริษัทมีสัดส่วนรายได้มาจากโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ 70% ส่วนอีก30% จะมาจากโครงการคอนโดมิเนียม   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us