Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน18 พฤษภาคม 2550
ยูนิ-ชาร์มลุ้นทั้งปีกวาด7พันล.งัดเกมส่งมามี่โพโคยึดตลาด68%             
 


   
search resources

ยูนิ-ชาร์ม (ประเทศไทย), บจก.
Baby Products




ยูนิชาร์ม ยันตลาดผ้าอ้อมสำเร็จรูปยังโตได้อยู่ แม้เศรษฐกิจแย่ เผยปีนี้อัดงบทำตลาดเพิ่มอีก 20% กระตุ้นตลาดต่อ หวังดันยอดรวมทั้งบริษัทสิ้นปีโตขึ้นอีก 30% กวาด 7 พันล้านเข้ากระเป๋า

นายทาดาชิ นาคาอิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิ – ชาร์ม (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึง แผนการทำตลาดว่า จะให้น้ำหนักเรื่องโปรดักซ์ภายใต้แบรนด์ มามี่โพโค มากขึ้น ทั้งการวิจัยและพัฒนาสินค้า อยู่เสมอพร้อมทั้งการใช้สื่อให้กับกลุ่มลูกค้าได้รับทราบถึงตัวผลิตภัณฑ์มากที่สุด สาเหตุที่ทำตลาดรูปแบบนี้

เนื่องจากบริษัทฯได้มองเห็นถึงการแข่งขันในสภาพตลาดที่รุนแรง ส่งต่อให้การทำตลาดผู้ประกอบการหลายราย งัดกลยุทธ์ออกมาใช้ เช่นเดียวกันจุดนี้เตรียมพัฒนาสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งสื่อทางการตลาดสำหรับพ่อและแม่มากที่สุดเพื่อรองรับการแข่งขันในตลาดปัจจุบันที่มีความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดมีความคึกคักตามไปด้วย

ในปัจจุบันตลาดผ้าอ้อมสำเร็จรูปมูลค่า 6,000 ล้านบาทซึ่งยูนิ-ชาร์มเป็นผู้นำตลาดผ้าอ้อมสำเร็จรูป ด้วยสินค้าแบรนด์ มามี่โพโค ครองสัดส่วนตลาดผ้าอ้อมสำเร็จรูปเป็นอันดับหนึ่ง และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ด้วยส่วนแบ่งในตลาดอยู่ 68%

ทั้งนี้การเติบโตรวมทั้งส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัทฯยังมีการเติบโตที่ดีอยู่ ถึงแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวการเมืองยังไม่มีความแน่นอน แต่การเลือกซื้อสินค้าของผู้ที่เป็นพ่อและแม่จะมีการจับจ่ายใช้สอยสินค้าโดยเฉพาะผ้าอ้อมสำเร็จรูปมากอยู่ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคเพียงพอกับความต้องการ ทั้งนี้ยังจะใช้กลยุทธ์ลดราคา ปรับลดราคามัมมี่โพโค แพนท์ 3-5% ต่อเนื่องจากปี 2549 ซึ่งได้ใช้ไปแล้ว ผลตอบรับกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี การลดราคาเป็นส่วนหนึ่ง ที่จะใช้ในปีนี้ด้วย

นายทาดาชิ กล่าวว่า สำหรับยอดการเติบโตช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาพบว่า การใช้กลยุทธ์ราคาเข้ามาใช้ทำให้การโตมีถึง 3% โตกว่าเป้าที่วางไว้ ซึ่งต่อจากนี้ไปบริษัทฯจะรุกทำตลาดต่อเนื่อง รวมทั้งปีนี้จะใช้งบเพิ่มขึ้นอีก 20% ทั้งนี้สิ้นปีบริษัทฯตั้งเป้าการเติบโตขึ้นอีก 30% คิดเป็นมูลค่ากว่า 7 พันล้านบาท ซึ่งจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้วางไว้

ล่าสุด บริษัทฯยังได้ร่วมกับ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด สานต่อโครงการเพื่อสังคม โดยการเปิดโครงการที่ 8 “Better Smile Better Life” ร่วมเติมเต็มรอยยิ้มให้กับเด็กปากแหว่งเพดานโหว่ โดยมีผู้สนับสนุนคือ มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ( พอ.สว.) มอบสมทบทุนช่วยเหลือเด็กปากแหว่งเพดานโหว่ โดยการหักรายได้จากการขายผ้าอ้อมสำเร็จรูป มามี่โพโค 2% และรายได้จากการตั้งกล่องบริจาค เพื่อนำรายได้ดังกล่าวมอบเป็นทุนการใช้จ่ายสำหรับนักเรียนของมูลนิธิ ฯ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us