|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ยูนิชาร์ม ยันตลาดผ้าอ้อมสำเร็จรูปยังโตได้อยู่ แม้เศรษฐกิจแย่ เผยปีนี้อัดงบทำตลาดเพิ่มอีก 20% กระตุ้นตลาดต่อ หวังดันยอดรวมทั้งบริษัทสิ้นปีโตขึ้นอีก 30% กวาด 7 พันล้านเข้ากระเป๋า
นายทาดาชิ นาคาอิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิ – ชาร์ม (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึง แผนการทำตลาดว่า จะให้น้ำหนักเรื่องโปรดักซ์ภายใต้แบรนด์ มามี่โพโค มากขึ้น ทั้งการวิจัยและพัฒนาสินค้า อยู่เสมอพร้อมทั้งการใช้สื่อให้กับกลุ่มลูกค้าได้รับทราบถึงตัวผลิตภัณฑ์มากที่สุด สาเหตุที่ทำตลาดรูปแบบนี้
เนื่องจากบริษัทฯได้มองเห็นถึงการแข่งขันในสภาพตลาดที่รุนแรง ส่งต่อให้การทำตลาดผู้ประกอบการหลายราย งัดกลยุทธ์ออกมาใช้ เช่นเดียวกันจุดนี้เตรียมพัฒนาสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งสื่อทางการตลาดสำหรับพ่อและแม่มากที่สุดเพื่อรองรับการแข่งขันในตลาดปัจจุบันที่มีความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดมีความคึกคักตามไปด้วย
ในปัจจุบันตลาดผ้าอ้อมสำเร็จรูปมูลค่า 6,000 ล้านบาทซึ่งยูนิ-ชาร์มเป็นผู้นำตลาดผ้าอ้อมสำเร็จรูป ด้วยสินค้าแบรนด์ มามี่โพโค ครองสัดส่วนตลาดผ้าอ้อมสำเร็จรูปเป็นอันดับหนึ่ง และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ด้วยส่วนแบ่งในตลาดอยู่ 68%
ทั้งนี้การเติบโตรวมทั้งส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัทฯยังมีการเติบโตที่ดีอยู่ ถึงแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวการเมืองยังไม่มีความแน่นอน แต่การเลือกซื้อสินค้าของผู้ที่เป็นพ่อและแม่จะมีการจับจ่ายใช้สอยสินค้าโดยเฉพาะผ้าอ้อมสำเร็จรูปมากอยู่ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคเพียงพอกับความต้องการ ทั้งนี้ยังจะใช้กลยุทธ์ลดราคา ปรับลดราคามัมมี่โพโค แพนท์ 3-5% ต่อเนื่องจากปี 2549 ซึ่งได้ใช้ไปแล้ว ผลตอบรับกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี การลดราคาเป็นส่วนหนึ่ง ที่จะใช้ในปีนี้ด้วย
นายทาดาชิ กล่าวว่า สำหรับยอดการเติบโตช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาพบว่า การใช้กลยุทธ์ราคาเข้ามาใช้ทำให้การโตมีถึง 3% โตกว่าเป้าที่วางไว้ ซึ่งต่อจากนี้ไปบริษัทฯจะรุกทำตลาดต่อเนื่อง รวมทั้งปีนี้จะใช้งบเพิ่มขึ้นอีก 20% ทั้งนี้สิ้นปีบริษัทฯตั้งเป้าการเติบโตขึ้นอีก 30% คิดเป็นมูลค่ากว่า 7 พันล้านบาท ซึ่งจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้วางไว้
ล่าสุด บริษัทฯยังได้ร่วมกับ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด สานต่อโครงการเพื่อสังคม โดยการเปิดโครงการที่ 8 “Better Smile Better Life” ร่วมเติมเต็มรอยยิ้มให้กับเด็กปากแหว่งเพดานโหว่ โดยมีผู้สนับสนุนคือ มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ( พอ.สว.) มอบสมทบทุนช่วยเหลือเด็กปากแหว่งเพดานโหว่ โดยการหักรายได้จากการขายผ้าอ้อมสำเร็จรูป มามี่โพโค 2% และรายได้จากการตั้งกล่องบริจาค เพื่อนำรายได้ดังกล่าวมอบเป็นทุนการใช้จ่ายสำหรับนักเรียนของมูลนิธิ ฯ
|
|
|
|
|