Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน17 พฤษภาคม 543
อสมทชี้ผู้จัดทีไอทีวีซบเร่งยึดคลื่นวิทยุคืนสิ้นปี             
 


   
www resources

โฮมเพจ องค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย

   
search resources

องค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย (MCOT)
วสันต์ ภัยหลีกลี้
Radio




ผู้นำ อสมท วางโพซิชันนิ่ง โมเดิร์นไนน์ ทีวี เป็นสถานีข่าวสารสาระ มุ่งปรับผังรายการใหม่ เน้นช่วงไพร์มไทม์ โดยเฉพาะรายการข่าว ปูทางสู่ผู้นำด้านสถานีข่าวแทนไอทีวี มั่นใจกระตุ้นรายได้จากรายการข่าว ขยับอีก 25% หรือกว่า 400 ล้านบาทในปีนี้ เหตุผู้จัดรายการ เอเจนซี่จากทีไอทีวี ไหลเข้ามาแน่นอน เล็งปรับผังใหญ่ 1 มิถุนายนนี้ เร่งเครื่องยึดคืนคลื่นวิทยุทั้งหมด

นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาสหนึ่งของ อสมท ที่ลดลง ว่า อสมทมีรายได้ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ที่ 841 ล้านบาท ซึ่งตกลง 11% จากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว และมีกำไร 231 ล้านบาท ลดลง 27% แต่มั่นใจว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 2 จะมีแนวโน้มดีขึ้น

สาเหตุหลักที่ทำให้รายได้ไตรมาสแรกลดลงมาจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ 1. การปรับผังรายการช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ที่ได้ถอดรายการที่ทำรายได้สูงออกไป และเอารายการอื่นเข้ามาแทน โดยกว่าจะเริ่มเห็นว่ามีรายได้เข้ามาต้องเป็นในช่วงไตรมาส 2

2.ระยะเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่ อสมท ขาดผู้นำ ทำให้ภาคเอกชนและเอเจนซี่ไม่มั่นใจในการลงโฆษณา และ 3. ภาครัฐมีการชะลอการใช้จ่ายงบประมาณทางด้านการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ลง

ดังนั้นจึงมองว่าสิ่งที่ควรเร่งแก้ไขมากที่สุดเป็นอันดับแรกในขณะนี้ คือ สื่อโทรทัศน์ ช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ เนื่องจากเป็นสื่อหลักที่สร้างรายได้ให้ อสมท นั่นเอง โดยจะมุ่งเน้นช่วงไพรม์ไทม์ และนอนไพรม์ไทม์โดยเฉพาะรายการข่าว เนื่องจากมองเห็นโอกาสในการปรับเพื่อให้เกิดการเติบโตขึ้น ซึ่งจากเดิม อสมท มีรายได้จากรายการข่าวปีละประมาณ 300 ล้านบาท คิดเป็น 30% ของรายได้ในส่วนโทรทัศน์นั้น จากแผนการปรับรายการข่าวครั้งนี้ คาดว่าจะผลักดันรายได้เติบโตขึ้นได้อีกอย่างน้อย 25% หรือประมาณ 400 ล้านบาทได้แน่

“จากการที่ผมเป็นคนที่ทำงานในด้านข่าวมานานนั้น การเข้ามาทำงานใน อสมท ครั้งนี้ จึงมองว่า ในความเป็นจริง อสมท เป็นองค์กรที่มีศักยภาพ และมีสื่ออยู่ในมือหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น สื่อทีวี สื่อวิทยุ สำนักข่าวไทย รวมไปถึงเว็บไซต์นั้น จึงมีนโยบายที่จะทำให้ช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ มีโพซิชันนิ่ง ที่ชัดเจนขึ้น จากเดิมที่เป็นสถานีข่าว ที่ให้ความรู้และบันเทิงนั้น ต่อไปจะต้องเป็นผู้นำด้านสถานีข่าวในอนาคต เช่นเดียวกันที่ไอทีวีเคยทำไว้”

อย่างไรก็ตาม คาดว่า จากการที่ทีไอทีวีกำลังมีปัญหาอยู่ในขณะนี้นั้น ทางผู้จัดรายการและเอเจนซี่ที่เคยร่วมธุรกิจกับทางทีไอทีวีนั้นจะหันเข้ามาหาโมเดิร์นไนน์มากขึ้น เนื่องจากมีโพซิชันนิ่งของสถานีใกล้เคียงกัน ซึ่งในขณะนี้มีเข้ามาติดต่อบ้างแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้ ซึ่งอสมทเตรียมที่จะปรับผังรายการครั้งใหญ่ในวันที่ 1 มิถุนายนนี้

นอกจากนี้ในส่วนของคอนเท้นต์ที่ออกอากาศนั้น จากเดิมที่ อสมท เป็นผู้ผลิตรายการเอง 46% ร่วมผลิต 27% และเช่าเวลา 27 % นั้น ต่อไปจะมุ่งเน้นเป็นการผลิตเอง และร่วมผลิตมากขึ้น โดยสัดส่วนให้เช่าเวลาจะลดลงเรื่อยๆ

นายวสันต์ กล่าวต่อว่า สำหรับรายได้ในช่วงไตรมาสสองไปจนถึงสิ้นปีนั้น คาดว่าจะเพิ่มมากยิ่งขึ้น เนื่องจากทิศทางที่ชัดเจนของ อสมท ที่มีผู้นำแล้ว และการปรับผังรายการใหม่ รวมไปถึงปัจจัยภายนอก อย่างภาครัฐที่กำลังใช้งบด้านการสื่อมากขึ้น โดยในขณะที่มีเข้ามาแล้วกว่า 150 ล้านบาทรวมไปถึงซีซันนอลโปรแกรมที่คาดว่าจะช่วยเสริมให้มีรายได้เพิ่มขึ้น เช่น การประกวด เอเอฟ อาคาเดมี แฟนเทเซีย, ละคร ตามรอยพ่อ และ รายการพิเศษ คาราบาว 25 ปี จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้เอเจนซี่ลงโฆษณามากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ในส่วนของสื่อวิทยุนั้น จากเดิมที่มีคลื่นวิทยุในต่างจังหวัดประมาณ 53 คลื่น ทางอสมท มีนโยบายที่จะผลิตเองทั้งหมด โดยในขณะนี้สามารถนำกลับมาบริหารเองแล้วกว่า 14 คลื่น คาดว่าสิ้นปีจะสามารถนำคลื่นวิทยุที่เหลือมาบริหารได้ทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้ตามแผนงานที่วางไว้ แต่ในความเป็นจริงคาดว่าต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 ปี

“เชื่อมั่นว่านับจากที่ผมเข้ามาทำงาน รายได้ของอสมท จะดีขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในครึ่งปีหลังนี้ สถานการณ์ต่างๆจะดีกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เกิดจากการที่เร่งทำงานและแก้ไขจุดต่างๆให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเอเจนซี่ที่ให้ความเชื่อมั่นต่อ อสมท มากขึ้นนั่นเอง“ นายวสันต์กล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us