|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
นายขจรเดช แสงสุพรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจจัดจำหน่าย เครือซิเมนต์ไทย ( SCG Distribution) เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาว่า มีอัตราการขยายตัวลดลงต่ำกว่าที่มีการประมาณการไว้ในปีที่แล้ว เนื่องจากภาวะการณ์เมืองและเศรษฐกิจส่งผลต่อความเชื่อมั่น ขณะเดียวกันการชะลอซื้อที่อยู่อาศัย การก่อสร้างที่อยู่อาศัย รวมถึงโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะตลาดที่อยู่อาศัยในภาคเหนือ, อีสาน และภาคตะวันตกของประเทศ มีอัตราการเติบโตลดลงเฉลี่ย 10% ในขณะที่ตลาดในภาคใต้ ,ตะวันออก และกรุงเทพฯปริมณฑล มีอัตราการเติบโตลดลงประมาณ 5%
ทั้งนี้ การขยายตัวของธุรกิจในภาคเหนือ ,ภาคอีสาน และภาคตะวันตกที่ลดลง ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกลุ่มธุรกิจวัสดุก่อสร้าง แต่เกิดขึ้นกับทุกๆธุรกิจ อาทิ รถยนต์ และจักยานยนต์ ส่วนในธุรกิจวัสดุก่อสร้าง ที่ได้มีการประมาณการว่าจะมีอัตราการขยายตัวลดลง 5-10% นั้น บริษัทได้ประมารการจากจำนวนตัวเลขการขออนุญาตก่อสร้าง ซึ่งในช่วงไตรมาสแรกมีปริมาณการขออนุญาตก่อสร้างที่ลดลง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในภาคเหนือ ,อีสาน และตะวันตก จะมีปริมาณการขออนุญาตก่อสร้างและอัตราการขยายตัวของธุรกิจวัสดุก่อสร้างที่ลดลงถึง10% แต่ในตลาดกทม.และปริมณฑล รวมถึงภาคตะวันออก กลับขยายตัวลดลงเพียง5% เนื่องจากตลาดอสังหาริมฯยังมีการขยายตัว ส่วนในภาคใต้น่าจะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวจากตลาดอสังหาฯและประสบกับฤดูมรสุม แต่พบว่า ตลาดกลับมีอัตราการขยายตัวในทิศทางที่ตรงกันข้าม เนื่องจากตลาดในจังหวัดท่องเที่ยวขนาดใหญ่ยังมีการก่อสร้างโครงการอยู่ต่อเนื่อง ประกอบกับเป็นฤดูการก่อสร้างของภาคใต้ด้วย
“ ตลาดอสังหาฯในภาคใต้ แตกต่างจากภาคอื่นๆ แม้ว่าจะเป็นช่วงฤดูมรสุม แต่ผู้ประกอบการก็ยังเร่งการก่อสร้าง เพื่อรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูการท่องเที่ยวที่จะมาถึง ดังนั้นแม้จะเป็นช่วงฤดูฝนแต่การก่อสร้างยังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตลาดรวมของการก่อสร้างในภาคใต้ชะลอเล็กน้อย ”
นายขจรเดช กล่าวว่า สำหรับรายได้จากการดำเนินงานของ SCG Distribution ในช่วง4 เดือนที่ผ่านมา ยังถือว่าต่ำกว่าประมาณการที่วางไว้ โดยมีรายได้รวม 30,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็นรายได้จากการขายและการดำเนินงานในประเทศ 60% รายได้จากการขายในต่างประเทศ 30% ส่วนที่เหลืออีก 10% มาจากการดำเนินงานด้านระบบการขนส่งสินค้า หรือระบบรอจิสติก โดยการดำเนินงานในระบบลอจิสติกนี้ เป็นการจัดส่งสินค้าให้ภายในองค์กรเอง 60% ส่วนที่เหลืออีก 40% เป็นการจัดส่งสินค้าให้ให้แก่ลูกค้าของบริษัท ซึ่งมีทั้งการนำเข้าสินค้า และการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ
สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาการชะลอตัวของธุรกิจของบริษัทในปัจจุบันว่า จะพยายามรักษายอดขายไว้ในระดับเดิมที่เป็นอยู่ ด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มในตัวสินค้า เพิ่มคุณภาพด้านการบริการเพื่อรักษากลุ่มลูกค้าไว้ พยายามขยายสัดส่วนการส่งออกไปตลาดต่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากยังมีอัตราการขยายตัวที่ดีอยู่ โดยในปีนี้ตั้งเป้าจะส่งออกปูนซีเมนต์เพิ่มขึ้นจากเดิม 7 ล้านตันต่อปี เป็น 7.5 ล้านตันต่อปี
นอกจากนี้ SCG ยังได้ยายศูนย์จำหน่ายสินค้าเพิ่ม ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ตั้งชื่ออย่างเป็นทางการ โดยจะใช้งบประมาณในการลงทุนก่อสร้างศูนย์จำหน่ายสินค้าใหม่นี้ประมาณ 400 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัท เค.อี. แลนด์ จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ศูนย์การค้าวัสดุก่อสร้างCDC ในย่านเลียบถนนเกษตรนวมินทร์-รามอินทรา ล่าสุด SCG ได้เปิดตัว “สถาบันนายช่างดี” ซึ่งเป็นศูนย์ฝึกอบรมช่างฝีมือ และผู้รับเหมาก่อสร้าง เพื่อพัฒนาช่างฝีมือผู้รับเหมาขนาดกลาง และขนาดย่อม ให้ช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการของ SCG Distribution ด้วย โดยบริษัทจะใช้งบประมาณปีละ 30 ล้านบาทในการพัฒนาช่างฝีมือและขึ้นทะเบียนโดยจะออกใบรับรองคุณภาพ การันตีคุณภาพงานจากช่างฝีมือที่ผ่านการอบรมจากสถาบันที่ตั้งขึ้น ซึ่งบริษัทตั้งเป้าว่าจะสามารถผลิตช่างฝีมือได้ปีละ300ทีม หรือประมาณ 1,000 รายต่อปี
|
|
|
|
|