Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน16 พฤษภาคม 2550
เมเจอร์ฯมุ่งสแตนด์อโลนไตรมาสแรกรายได้โต40%             
 


   
www resources

โฮมเพจ เมเจอร์ซินีเพล็กซ์

   
search resources

เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป, บมจ.
วิชา พูลวรลักษณ์
Theatre




เมเจอร์ฯเล็งโฟกัสการลงทุนรูปแบบสแตนด์อโลน เหตุตอบโจทย์ดีกว่า คาดปีหน้าเห็นเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่ทิ้งในศูนย์ถ้าทำเลดีก็ลงทุน ปีนี้ลงทุนอีกกว่า 700 ล้าบาท ขยายทุกธุรกิจ มุ่งหน้าภูธร เผยรายได้ไตรมาสแรกโต 40% ส่วนกำไรเติบโต 35%

นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวทางการขยายธุรกิจและสาขาโรงหนังของเครือเมเจอร์ฯจากนี้ไป จะให้ความสำคัญกับการเปิดสาขาในรูปแบบของสแตนด์อโลนมากขึ้น และจะเห็นได้ในปีหน้า เหมือนเช่นในอดีตที่เคยเติบโตมา ซึ่งจากการเปิดตัวเอสพละนาดล่าสุดเมื่อ 4-5 เดือนที่ผ่านมาพบว่า สามารถตอบโจทย์ตลาดได้สามารถทำรายได้อย่างดี ได้ลูกค้าใหม่เข้ามาถึง 30%

อย่างไรก็ตามรูปแบบการเปิดในศูนย์การค้าก็ยังคงมีขึ้นอยู่กับทำเลและการเปิดศูนย์การค้าใหม่ๆด้วย ซึ่งปัจจุบันสาขาที่ทำรายได้สูงสุดของเมเจอร์ฯก็ล้วนแต่เป็นสแตนด์อโลนเช่น รัชโยธิน รังสิต ปิ่นเกล้า เอสพละนาด เป็นต้น นอกนั้นก็มีสาขาสยามพารากอน

โดยปีนี้ตั้งงบลงทุนรวมที่ 600-700 ล้านบาท ในการขยายธุรกิจเปิดโรงหนังใหม่กว่า 30-40 โรง และรีโนเวทสาขาเดิมเช่นรัชโยธิน ปีนี้มุ่งต่างจังหวัดเป็นแบรนด์เมเจอร์ฯคือ ชลบุรี พัทยา อยุธยา รวมทั้งขยายธุรกิจอื่นด้วยเช่น โบว์ลิ่งอีก 6 สาขา คือ สำโรง ลาดพร้าว พิษณุโลก ชลบุรี พัทยา อยุธยา แคลิฟอร์เนียว้าวฟิตเนส ล่าสุดคือ การปรับสาขาอีจีวีสำโรงเป็นเมเจอร์ มี 12 โรง จากเดิม 5โรง

โครงการใหญ่ปีนี้คือ ที่รัชโยธินที่ซื้อที่ดินเพิ่มและจะรีโนเวทโรงหนังเดิมและโบว์ลิ่งด้วย โดยคาดว่าใช้งบลงทุนรวมกว่า 1,100 ล้านบาท มีพื้นที่กว่า 40,000 ตารางเมตร มากกว่าเจอะเวนิวที่ทองหล่อที่มีเพียง 15,000 ตารางเมตรเท่านั้น

ปีนี้ตลาดหนังจะดีมาก โดยเฉพาะในไตรมาสที่สองนี้ เพราะว่ามีหนังฟอร์มใหญ่มากและเป็นช่วงฤดูทำรายได้ด้วย โดยปีนี้คาดว่าหนังไทยจะมีแชร์มากกว่า 40% ซึ่งมากเป็นครั้งแรก ไตรมาสแรกเห็นชัดเพราะหนังไทยมาก ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่หนังท้องถิ่นมีแชร์มาก จะทำให้ธุรกิจแข็งแกร่ง

สำหรับผลประกอบการของเมเจอร์ฯไตรมาสแรกปี 2550 พบว่ามีรายได้รวม 1,598 ล้านบาท เติบโต 40% จากช่วงเดียวกันปีที่แล้วที่มี 1,131 ล้านบาท ส่วนกำไรไตรมาสแรกปี 2550 เท่ากับ 197 ล้านบาท เติบโต 35% จากช่วงเดียวกันที่ทำได้ปีที่แล้ว 146 ล้านบาท และยังพบว่าตั๋วหนังขายเพิ่มขึ้นถึง 65% ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าหมายรวมรายได้เติบโต 30% เฉพาะกลุ่มหนัง จากรายได้ปีที่แล้วที่มากกว่า 5,000 ล้านบาท

โดยผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นนี้มาจากทั้งส่วนโรงหนังและโฆษณา การจำหน่ายป๊อปคอร์นและเตรื่องดื่ม เพิ่มขึ้น โดยรายได้จากหนังนั้นค่อนข้างสูงมีหนังเข้าฉาย 56 เรื่อง เป็นหนังต่างประเทศ 47 เรื่อง หนังไทย 9 เรื่อง มีหนังไทยที่ทำรายได้เกิน 100 ล้านบาท 3 เรื่อง คือ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 1 และภาค 2, บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม 2   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us