เมเจอร์ฯเล็งโฟกัสการลงทุนรูปแบบสแตนด์อโลน เหตุตอบโจทย์ดีกว่า คาดปีหน้าเห็นเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่ทิ้งในศูนย์ถ้าทำเลดีก็ลงทุน ปีนี้ลงทุนอีกกว่า 700 ล้าบาท ขยายทุกธุรกิจ มุ่งหน้าภูธร เผยรายได้ไตรมาสแรกโต 40% ส่วนกำไรเติบโต 35%
นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวทางการขยายธุรกิจและสาขาโรงหนังของเครือเมเจอร์ฯจากนี้ไป จะให้ความสำคัญกับการเปิดสาขาในรูปแบบของสแตนด์อโลนมากขึ้น และจะเห็นได้ในปีหน้า เหมือนเช่นในอดีตที่เคยเติบโตมา ซึ่งจากการเปิดตัวเอสพละนาดล่าสุดเมื่อ 4-5 เดือนที่ผ่านมาพบว่า สามารถตอบโจทย์ตลาดได้สามารถทำรายได้อย่างดี ได้ลูกค้าใหม่เข้ามาถึง 30%
อย่างไรก็ตามรูปแบบการเปิดในศูนย์การค้าก็ยังคงมีขึ้นอยู่กับทำเลและการเปิดศูนย์การค้าใหม่ๆด้วย ซึ่งปัจจุบันสาขาที่ทำรายได้สูงสุดของเมเจอร์ฯก็ล้วนแต่เป็นสแตนด์อโลนเช่น รัชโยธิน รังสิต ปิ่นเกล้า เอสพละนาด เป็นต้น นอกนั้นก็มีสาขาสยามพารากอน
โดยปีนี้ตั้งงบลงทุนรวมที่ 600-700 ล้านบาท ในการขยายธุรกิจเปิดโรงหนังใหม่กว่า 30-40 โรง และรีโนเวทสาขาเดิมเช่นรัชโยธิน ปีนี้มุ่งต่างจังหวัดเป็นแบรนด์เมเจอร์ฯคือ ชลบุรี พัทยา อยุธยา รวมทั้งขยายธุรกิจอื่นด้วยเช่น โบว์ลิ่งอีก 6 สาขา คือ สำโรง ลาดพร้าว พิษณุโลก ชลบุรี พัทยา อยุธยา แคลิฟอร์เนียว้าวฟิตเนส ล่าสุดคือ การปรับสาขาอีจีวีสำโรงเป็นเมเจอร์ มี 12 โรง จากเดิม 5โรง
โครงการใหญ่ปีนี้คือ ที่รัชโยธินที่ซื้อที่ดินเพิ่มและจะรีโนเวทโรงหนังเดิมและโบว์ลิ่งด้วย โดยคาดว่าใช้งบลงทุนรวมกว่า 1,100 ล้านบาท มีพื้นที่กว่า 40,000 ตารางเมตร มากกว่าเจอะเวนิวที่ทองหล่อที่มีเพียง 15,000 ตารางเมตรเท่านั้น
ปีนี้ตลาดหนังจะดีมาก โดยเฉพาะในไตรมาสที่สองนี้ เพราะว่ามีหนังฟอร์มใหญ่มากและเป็นช่วงฤดูทำรายได้ด้วย โดยปีนี้คาดว่าหนังไทยจะมีแชร์มากกว่า 40% ซึ่งมากเป็นครั้งแรก ไตรมาสแรกเห็นชัดเพราะหนังไทยมาก ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่หนังท้องถิ่นมีแชร์มาก จะทำให้ธุรกิจแข็งแกร่ง
สำหรับผลประกอบการของเมเจอร์ฯไตรมาสแรกปี 2550 พบว่ามีรายได้รวม 1,598 ล้านบาท เติบโต 40% จากช่วงเดียวกันปีที่แล้วที่มี 1,131 ล้านบาท ส่วนกำไรไตรมาสแรกปี 2550 เท่ากับ 197 ล้านบาท เติบโต 35% จากช่วงเดียวกันที่ทำได้ปีที่แล้ว 146 ล้านบาท และยังพบว่าตั๋วหนังขายเพิ่มขึ้นถึง 65% ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าหมายรวมรายได้เติบโต 30% เฉพาะกลุ่มหนัง จากรายได้ปีที่แล้วที่มากกว่า 5,000 ล้านบาท
โดยผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นนี้มาจากทั้งส่วนโรงหนังและโฆษณา การจำหน่ายป๊อปคอร์นและเตรื่องดื่ม เพิ่มขึ้น โดยรายได้จากหนังนั้นค่อนข้างสูงมีหนังเข้าฉาย 56 เรื่อง เป็นหนังต่างประเทศ 47 เรื่อง หนังไทย 9 เรื่อง มีหนังไทยที่ทำรายได้เกิน 100 ล้านบาท 3 เรื่อง คือ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 1 และภาค 2, บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม 2
|