เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ หุ้นใหญ่ชิน คอร์ป ดูดปันผลหนัก จ่ายเกินกำไรที่ทำได้ ขุดเอากำไรสะสมมาจ่าย น่าจับตาใน SHIN เหลืออีก 2.4 หมื่นล้าน ADVANC เหลือ 5.2 หมื่นล้าน ขณะที่ SC ของตระกูลชินวัตรจ่ายตามปกติ

ช่วงปลายเดือนเมษายน 2550 นับว่าเป็นช่วงที่หลายบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2549 เพื่อรับรองผลการดำเนินการของบริษัทในปีที่ผ่านมา บริษัทที่มีกำไรก็จะมีการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น

สำหรับบริษัทในกลุ่มชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ SHIN ได้มีการประกาศจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นเช่นกัน โดยมี 3 บริษัทที่จ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นประกอบด้วยบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC และบริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ จำกัด (มหาชน) หรือ CSL ส่วนบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) หรือ ITV และบริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SATTEL มีผลการดำเนินงานขาดทุนจึงงดจ่ายเงินปันผล

SHIN ในฐานะโฮลดิ้งส์คอมปานี มีกำไรสุทธิในปี 2549 จำนวน 3,409.95 ล้านบาท มีมติจ่ายปันผล 7,350.41 ล้านบาท ADVANC กำไรสุทธิ 16,256.02 ล้านบาท จ่ายปันผล 18,592 ล้านบาทและ CSL กำไรสุทธิ 212.56 ล้านบาท จ่ายปันผล 462.5 ล้านบาท

ทั้ง 3 บริษัทที่ประกาศจ่ายเงินปันผล ล้วนแล้วแต่จ่ายมากกว่ากำไรที่ดำเนินการได้ นั่นคือการนำกำไรที่ทำได้ในปี 2549 ทั้งหมดมาจ่าย แถมยังนำเอากำไรสะสมที่มีอยู่ในแต่ละบริษัทมาจ่ายเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้น นับว่าเป็นทิศทางที่ไม่ดีนักสำหรับกลุ่มชิน คอร์ป ที่มีเทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในปัจจุบัน

แม้ว่าบริษัททั้ง 3 จะมีกำไรสะสมอยู่ไม่น้อย โดย SHIN เหลือกำไรสะสมอยู่ 2.4 หมื่นล้านบาท ADVANC เหลือกำไรสะสม 5.2 หมื่นล้านบาท ส่วน CSL เหลือ 107.3 ล้านบาท แต่หากผู้บริหารจ่ายปันผลอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ไม่นานกำไรสะสมเหล่านี้ก็จะหมดลง

ที่ผ่านมามีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์บางรายที่จ่ายเงินปันผลสูงกว่ากำไรที่ทำได้ ด้วยการดึงเอากำไรสะสมมาจ่าย แต่บริษัทเหล่านั้นมักมีสถานะแย่ลงทุกขณะ ถือเป็นการสะท้อนถึงทิศทางของผู้บริหารได้ระดับหนึ่งว่าต้องการลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น จึงดึงเอากำไรของบริษัทที่มีอยู่ออกมาให้มากที่สุด

อย่างไรก็ตามบริษัทในกลุ่มชิน คอร์ป อีก 2 แห่งที่มีภาระขาดทุนไม่สามารถจ่ายปันผลได้อย่าง ITV และ SATTEL ในส่วนของ ITV มียอดขาดทุนสะสม 5.3 พันล้านบาทและถูกสำนักปลัดนายกรัฐมนตรีได้ยึดคลื่นคืนกลับไปแล้วเมื่อ 7 มีนาคมที่ผ่านมา แต่ SATTEL แม้จะมีภาระขาดทุน แต่ยังมีกำไรสะสมอยู่ 3.5 พันล้านบาท หากพลิกสถานะมามีกำไรก็สามารถถึงเอากำไรสะสมก้อนนี้มาจ่ายปันผลได้อีก

ส่วนบริษัทเอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ที่ตระกูลชินวัตรถือหุ้นอยู่มีลักษณะการจ่ายเงินปันผลที่แตกต่างกับกลุ่มชิน คอร์ป โดยจ่ายปันผลเพียง 43.3% ของกำไรสุทธิ ไม่มีการนำเอากำไรสะสมที่เหลืออยู่ 1.07 พันล้านบาทมาจ่าย

อย่างไรก็ตามในส่วนของคดีบริษัทกุหลาบแก้วหนึ่งในปมที่เป็นปัญหาในการเข้าซื้อหุ้นชิน คอร์ปของเทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ ยังไม่มีความคืบหน้าในทางคดี และร่างพระราชบัญญัติประกอบธุรกิจคนต่างด้าวค่อนข้างเอื้อต่อการปรับโครงสร้างของกุหลาบแก้ว แต่คงต้องรอผลอย่างเป็นทางการกันอีกครั้ง

แต่ที่อาจจะเกี่ยวพันกับอดีตนายกรัฐมนตรีนั่นคือ SC ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษกำลังดำเนินการสอบสวนในเรื่องการปกปิดข้อมูลโครงสร้างการถือหุ้นในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ รวมถึงขยายผลในประเด็นทั้งกรณีการถือหุ้นแทน (นอมินี) และการฟอกเงิน เท่าที่หลักฐานจะเชื่อมโยงไปถึง ตรงนี้อาจกระทบต่อหุ้น SC