ลูกสาวเสี่ย" เจริญ " รุกอสังหาฯผุดโปรเจ็กต์ยักษ์ 18 โครงการ มูลค่ากว่าแสนล้านบาท ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด ระบุทุนต่างชาติสนใจร่วมทุนอื้อ เตรียมนำเสนอบอร์ดพิจารณาปลายเดือนนี้ พร้อมควงทุนสิงคโปร์ "แคปปิตอลแลนด์" บุกลงทุนต่อเวียดนาม ด้านที.ซี.ซี.แคปปิตอล ฯ ปรับโครงสร้างองค์กร รองรับการขยายตัวของบริษัทรับโปรเจ็กต์ใหญ่ ดึง"ลอว์เรนช์ เปย์" จากเคปเปล แลนด์นั่งบริหาร พร้อมเปิดแผนกพร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ บริการลูกค้า เล็งรุกขยายโครงการใหม่อีก 2 โครงการรวมมูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท พร้อมมั่นใจรายได้สิ้นปีตามเป้า 4,000 ล้านบาทโตจากปีก่อน 100%
นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.ซี.ซี. แลนด์ จำกัด ซึ่งเป็นทายาทนาย เจริญ สิริวัฒนภักดี เปิดเผยว่า ในสิ้นเดือนนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัท เพื่อสรุปแผนการดำเนินงาน ในส่วนของการนำเอาทรัพย์สินประเภทที่ดิน และอาคารเก่าที่จะนำมาปรับปรุงออกมาดำเนินการพัฒนา เบื้องต้นได้ข้อสรุปว่า จะนำเอาออกมาพัฒนาอย่างเร่งด่วนถึง 18 โครงการ รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท ตามแผนธุรกิจของบริษัทในระยะ 5 ปี ครอบคลุมหลายพื้นที่ ทั้งในกรุงเทพมหานคร ,เชียงใหม่ และภาคใต้ คือ จังหวัดภูเก็ต ,สมุย และกระบี่ ตามแผนจะพัฒนาทั้งเพื่อการอยู่อาศัยและเพื่อรองรับกับการท่องเที่ยว
สำหรับ 18 โครงการนั้น เบื้องต้นทางบริษัทได้แนวคิด(คอนเซ็ปต์)ที่นำมาพัฒนาได้อย่างน้อย 4-5 โครงการ อาทิ ที่ดินที่อำเภอบางไทร จ.อยุธยา ขนาด 300 ไร่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดวางแผนแม่บท เบื้องต้นจะพัฒนาเป็นโรงถ่ายภาพยนตร์ โดยจะทำการศึกษาจากโรงถ่ายที่ประเทศอินเดีย ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะพัฒนาให้มีขนาดใหญ่เป็นระดับภูมิภาคหรือ ระดับประเทศ และปัจจุบันมีบริษัทภาพยนตร์จากต่างชาติเข้ามาเจรจาอยู่หลายรายแล้ว
ส่วนที่ดินที่ชะอำ กว่า 10,000 ไร่ ที่ดินหน้าหาดยาว 4 กิโลเมตร (เลยแหลมผักเบี้ย) จะพัฒนาเป็นเมืองท่องเที่ยวแบบครบวงจรและทำให้โครงการอยู่อย่างยั่งยืน ทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อมและพลังงาน โดยแนวทางของการพัฒนาจะประกอบไปด้วยที่อยู่อาศัยเกือบทุกประเภท โรงแรม,มหาวิทยาลัย, สวนสนุกระดับโลก และอื่นๆ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างว่าจ้างบริษัทรับออกแบบ และศึกษาสิ่งแวดล้อม คาดว่าจะใช้เวลาออกแบบ 1-2 ปี เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ เบื้องต้นจะเป็นการร่วมทุนกับต่างประเทศ เช่น เนเธอร์แลนด์ และออสเตรเลีย ซึ่งขณะนี้กลุ่มทุนเหล่านั้นได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาร่วมศึกษาร่วมกับบริษัทอีกด้วย นอกจากนี้ กลุ่มทุนจากประเทศดูไบให้สนใจสนใจอย่างมาก ที่จะซื้อพื้นที่
สำหรับแนวทางการลงทุนนั้น จะแบ่งเป็นหลายส่วนทั้งให้เช่าที่ระยะยาว หรือแบ่งขายที่ดินบางส่วน หรือทำการประมูลในแต่ละเฟสขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้ร่วมทุนนั้นๆ ซึ่งจะเริ่มพัฒนาในเฟสแรกก่อนประมาณ 2,000 ไร่
" การพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ๆ เกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นโครงการที่กระจายความเจริญไปยังภูมิภาคนั้น นอกจากจะดำเนินการเองแล้ว ในบางโครงการหากมีความชัดเจนในการลงทุนแล้ว มีความเป็นไปได้สูง จะประสานงานกับรัฐบาลกลางและหน่วยงานในท้องถิ่น เพื่อเข้ามาสนับสนุนโครงการของบริษัท เนื่องจากเป็นโครงการที่สร้างรายได้ และสร้างงาน ซึ่งไม่ว่ารัฐบาลไหนก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุน โดยเฉพาะโครงการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว "นางวัลลภา กล่าวให้เห็นถึงอาณาจักรของธุรกิจอสังหาฯของบริษัทในอนาคต
นอกจากนี้ โครงการที่เชียงใหม่ เป็นหนึ่งในมาสเตอร์แพลนที่ต้องดำเนินการ ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดรูปแบบของการพัฒนา เนื่องจากที่ดินค่อนข้างใหญ่ รวมถึงโครงการเสนา มาสเตอร์แพลน เนื้อที่ 300 ไร่ ที่ถนนเกษตร-นวมินทร์ ที่จะพัฒนาเป็นเมืองมูลค่าไม่ต่ำกว่า 26,000 ล้านบาท และการพัฒนาพื้นที่ 200 ไร่ บริเวณสนามกอล์ฟนอร์ธปาร์ค ที่จะพัฒนาเป็นอาคารสำนักงาน คอนโดฯ และบ้านเดี่ยวระดับบน โดยเฉพาะการก่อสร้างศูนย์ราชการแห่งใหม่ บนถนนแจ้งวัฒนะ ใกล้แล้วเสร็จ ซึ่งจะมีปริมาณของความต้องการที่อยู่อาศัยจำนวนมาก
จัดพอร์ตตั้งกองทุนอสังหาฯแสนล้าน
นางวัลลภา กล่าวว่า นอกจากการลงทุนพัฒนาที่ดินแล้วที.ซี.ซี. แลนด์ ยังมีแผนที่จะนำเอาทรัพย์สินประเภทโรงแรม และอาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า ที่เปิดดำเนินการอยู่ในปัจจุบันจัดตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างคาดเลือกที่ปรึกษาทางการเงิน คาดว่าจะใช้เวลาในการคัดเลือกทรัพย์ และจัดตั้งกองทุนประมาณ 2 ปี เนื่องจากทรัพย์มีจำนวนมาก และจะต้องนำมาแบ่งออกเป็นแต่ละประเภท โดยจะต้องใช้ที่ปรึกษาทางการเงินรายเดียวเพราะต้องเริ่มตั้งแต่การแยกกองทรัพย์สิน
"หากทำทั้งหมดแล้วมูลค่าไม่ต่ำกว่าแสนล้านบาท แต่แนวทางจะทำกองทุนทีละกองออกมาก่อน เพราะเราต้องดูแต่ละโครงการมีกระแสเงินสดที่เข้ามาสม่ำเสมอ ซึ่งประเภทโครงการที่จะนำเข้ามาสู่กองทุนอสังหาริมทรัพย์จะแยกเป็นประเภท เช่น โรงแรม อพาร์ตเมนต์ อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า "นางวัลลภา กล่าว และว่าเพื่อรองรับแผนการก้าวสู่บริษัทอสังหาฯระดับโลก ทางบริษัท มีแผนที่จะเข้าไปลงทุนในต่างประเทศเพิ่มเติม โดยเฉพาะที่เวียดนาม ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เข้าไปลงทุนโรงแรมแล้ว และการไปครั้งนี้จะเป็นการไปกับกลุ่มพันธมิตร แคปปิตอลแลนด์ สิงคโปร์ ที่ได้มีการขยายการลงทุนไปแล้วเช่นกัน และจะมีนักลงทุนท้องถิ่นในเวียดนามร่วมด้วย
ด้านนายโอ ล็อค ชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการบริษัท ที.ซี.ซี. แคปปิตอล แลนด์ จำกัด กล่าวว่า แคปปิตอล แลนด์ สิงคโปร์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ได้ส่งตนเข้ามาทำงานในบริษัท ที.ซี.ซี. แคปปิตอล แลนด์ จำกัด ซึ่งเป็นบิรษัทร่วมทุนระหว่างบริษัทที.ซี.ซี.แลนด์ ฯ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีที่ผ่านมา เพื่อช่วยงานนายเฉิน เหลียน ปัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ที่ขณะนี้ได้ขยายความรับผิดชอบในการดูแลการลงทุนในภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะที่เวียดนาม ที่ขณะนี้ แคปปิตอลแลนด์ ให้ความสนใจมากโดยการเข้ามาร่วมงานครั้งนี้ รับผิดชอบงานตั้งแต่การจัดหาซื้อที่ดิน การพัฒนาโครงการ การขายและการตลาด ทั้งแนวสูงและแนวราบ และเพื่อรองรับกับแผนการขยายงานและบริการลูกค้า ล่าสุดได้เพิ่มแผนก พร็อพเพอร์ตี้ แมนเนจเม้นท์ ขึ้นมาเนื่องจากปีนี้จะเป็นปีแรกที่เริ่ม โอนบ้านให้ลูกค้า เช่น ที่วิลล่า ราชเทวี และ พลาซ่า แอททินี นอกจากนี้ยังได้มีการรับคนระดับผู้บริหาร คือนายลอว์เรนช์ เปย์ จากบริษัทเคปเปล แลนด์ (ไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่มีนักลงทุนสิงคโปร์เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เข้ามาร่วมทำงานด้วย
นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญในการพัฒนาระบบ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดระบบ ISO 9002 เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการบริการแก่ลูกค้าเพื่อรองรับกับการขยายการลงทุนธุรกิจอสังหาฯทั้งแนวราบและแนวสูง โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม ที่ยังเชื่อว่าตลาดยังมีความต้องการต่อเนื่องได้อย่างน้อย 2-3 ปี
ล่าสุด ได้เตรียมการเปิดตัว 2 โครงการรวมมูลค่า 3,000 ล้านบาท คือ คอนโดมิเนียมย่านตากสิน ใกล้สถานีรถไฟฟ้าเจริญนคร เป็นอาคาร สูง 40 ชั้น จำนวน 600 ยูนิต ราคาเริ่ม 2 ล้านบาทเศษ/ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม ที่นอร์ธปาร์ค จำนวน 130 ยูนิต มูลค่า 1,500 ล้านบาท การลงทุนดังกล่าวจะช่วยสร้างรายได้ต่อเนื่อง ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าไว้ 4,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 100% ที่ได้ 2,000 ล้านบาท
|