"ศุภชัย เจียรวนนท์" นายใหญ่ทีเอแจงเหตุดึง "ทรงธรรม
เพียรพัฒนาวิทย์" เป็นจิ๊กซอว์จุดเชื่อมโยงธุรกิจไอที เทเลคอมสมบูรณ์แบบวางตำแหน่ง
กรรมการผู้จัดการคอร์ปอเรทโซลูชั่นให้ดูแลเกาะติดบริการลูกค้ากลุ่ม บิสซิเนสเอ็นเตอร์ไพร์สและเดต้าเซอร์วิสเผยเป็น
1 ใน 6 กลุ่มธุรกิจ ในโครงสร้างการบริหารธุรกิจใหม่ของทีเอ ด้านไอบีเอ็มเชื่อต้องมีการ
ปรับโครงสร้างภายในบริษัทรับการ โยกย้ายภายในอีก แต่เชื่อมั่นมีตัวตายตัวแทนลุยงานไม่สะดุด
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่และกรรมการผู้จัด การใหญ่ บริษัท เทเลคอมเอเซีย
คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือทีเอ เปิดเผยถึงการดึงตัวนายทรงธรรม เพียรพัฒนาวิทย์
กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็ม (ประเทศไทย) จำกัดมาร่วมงานใน ทีเอ ว่าต้องการให้นายทรงธรรมเข้ามาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการกลุ่มคอร์ปอเรทโซลูชั่น
ดูแลงานครอบคลุมทั้งทางด้านบิสซิเนส เอ็นเตอร์ไพร์สและเดต้าเซอร์วิส ซึ่งเป็นหนึ่งในหกกลุ่มงานตามโครง
สร้างใหม่ของทีเอ
สำหรับกลุ่มงานอีก 5 กลุ่ม ได้ มีการจัดผู้บริหารเข้าไปดูแลเรียบ ร้อยแล้ว ประกอบด้วย
นายวิเชาว์ รักษ์วานิชพงษ์ เป็นซีโอโอดูแลในฝ่ายปฏิบัตการขององค์กร นายชัชวาลย์
เจียรวนนท์ เป็นกรรมการผู้จัดการกลุ่มเทเลคอมโฮลดิ้ง นายอติรุตม์ โตทวีแสนสุข เป็นกรรมการผู้จัดการกลุ่มไวร์เลสคอมมิวนิเคชั่น
และพีซีที นายบิล แฮร์ริ่ง เป็นซีเอฟโอ ส่วนกลุ่ม คอนซูเมอร์และโฮมโซลูชั่น นายศุภชัยจะเป็นผู้ดูแลเอง
ทั้งนี้งานทุกกลุ่มในโครงสร้างใหม่ของทีเอจะทำงานขึ้นตรงต่อนายศุภชัย
โครงสร้างใหม่ของทีเอสอดคล้องกับแผนธุรกิจที่ต้องการมุ่งขยายบริการในรูปแบบที่หลาก
หลาย หลังจากเตรียมใช้เงินลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท ในธุรกิจหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นอินเทอร์-เน็ตความเร็วสูงหรือบรอดแบนด์
ธุรกิจด้านการสื่อสารข้อมูล ธุรกิจด้านดาต้าเซ็นเตอร์ ส่วนโทรศัพท์พื้นฐานจะลงทุนในด้านบริการเสริมคือการแสดงเบอร์โทร.เรียกเข้า
ซึ่งในธุรกิจที่หลากหลายเพิ่มขึ้นจะต้องมีผู้บริหารที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาดูแล
แบ่งแยกความรับผิดชอบ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพการทำงานมากที่สุด
"เราติดต่อกับคุณทรงธรรมมานานหลายเดือนแล้ว เพราะเล็งเห็นความสามารถจากการทำ
งานและประสบการณ์ในสายธุรกิจไอทีมายาวนาน ประกอบกับมีความเชี่ยวชาญด้านงานบริหารด้วย
ตรงตามความต้องการของทีเอที่ต้องการผู้บริหารในลักษณะเช่นนี้มาร่วมงานกัน"
ที่สำคัญภารกิจที่นายทรงธรรมได้รับในครั้งนี้ ถือเป็นงานใหญ่ที่ต้องดูแลลูกค้าในกลุ่ม
คอร์ปอเรท ซึ่งเน้นธุรกิจเอ็นเตอร์ไพร์สขนาดใหญ่ ที่ต้องการโซลูชั่นสำหรับองค์กรเพื่อใช้ในการอำนวยความสะดวกต่อธุรกิจ
ในจุดนี้นายทรงธรรม มีประสบการณ์เป็นอย่างดีทั้งการติดต่อกับธุรกิจขนาดใหญ่และการพัฒนาโซลูชั่นภายในทีเอให้เกิดเป็นบริการที่สอดคล้องกับความต้องของลูกค้าได้เป็นอย่างดี
"การมาของนายทรงธรรมเสมือนจุดเชื่อมต่อธุรกิจของทีเอระหว่างไอทีและเทเลคอมให้สมบูรณ์แบบครบวงจร
โดยเฉพาะในฝั่งคอร์ปอเรทคือจุดเติมเต็มให้ครบถ้วน"
ทั้งนี้นายทรงธรรมจะเริ่มเข้าทำงานอย่างเป็นทางการในบริษัททีเอในวันที่ 1 เมษายน
2546
ด้านนางเจษฎา ไกรสิงขร ผู้จัดการฝ่ายการ ตลาดซอฟต์แวร์ บริษัท ไอบีเอ็ม (ประเทศไทย)
จำกัด กล่าวว่าไอบีเอ็มจะต้องมีการปรับโครงสร้าง ภายในใหม่ หลังจากนายทรงธรรม เพียรพัฒนาวิทย์
ลาออก เนื่องจากนางศุภจี สุวธรรมพันธ์ เลื่อนขึ้นมานั่งในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่
แทน ก็ต้องหาผู้ที่เหมาะสมมานั่งในตำแหน่งเดิม ของนางศุภจี นอกจากนี้อาจจะมีการปรับเปลี่ยน
เกิดขึ้นภายในไอบีเอ็มเองด้วย
"พวกเรารู้สึกเสียดายคุณทรงธรรมมาก แต่เมื่อรู้ว่าการไปครั้งนี้ถือว่าได้งานที่ดีกว่าและมีความท้าทายใหม่ในการทำงาน
จึงรู้สึกยินดีที่คน ที่เคยร่วมงานกันมายาวนานสามารถเจริญก้าว หน้าต่อไปในชีวิตการทำงานได้"
สำหรับการเข้ามาของนางศุภจี ถือได้ว่าเป็น คนที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์
รวมทั้งผลงานมากมาย มีประสบการณ์ด้านบริหารสายธุรกิจที่หลากหลาย ดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของไอบีเอ็มทั้งในประเทศและภูมิภาคหลายตำแหน่ง
เช่น ผู้จัดการฝ่ายการเงิน วางแผน และธุรการ ไอบีเอ็ม ประเทศไทย ผู้จัดการฝ่ายผู้แทนจำหน่ายและพัฒนาคู่ค้าไอบีเอ็มภูมิภาคอาเซียนและเอเชียใต้
ตำแหน่งล่าสุด คือ กรรมการรองกรรมการผู้จัดการธุรกิจบริการ
"คนในไอบีเอ็มยอมรับนางศุภจี เพราะที่ผ่านมานางศุภจีเคยผ่านงาน และลงมาใกล้ชิดกับ
แทบทุกส่วนงานในไอบีเอ็ม คอยให้การช่วยเหลือ ให้คำปรึกษาตลอด จึงไม่น่ามีปัญหาในการทำ
งานร่วมกัน"
สำหรับการแต่งตั้งกรรมการผู้จัดการใหญ่ที่ออกมาอย่างรวดเร็วหลังจากที่นายทรงธรรมได้ลาออกอย่างเป็นทางการ
เนื่องจากภายในองค์ กรของไอบีเอ็มจะมีการเติบโตในตำแหน่งหน้าที่การงานอยู่แล้ว
โดยจะมีการประเมินผลงานในทุกปี รวมทั้งมีการวางตัวบุคคลที่สามารถขึ้นมาทดแทนเมื่อผู้บริหารคนใดคนหนึ่งในทุกฝ่ายมีการขยับ
คนในอันดับรองๆ ลงไปพร้อมที่จะขึ้นไปทดแทนเพื่อไม่ให้งานสะดุด