Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน10 พฤษภาคม 2550
เอกชนระเบิดสงครามราคาดึงยอดขาย             
 


   
search resources

Real Estate
Loan




นักการตลาดเห็นพ้องอสังหาฯใกล้จุดวิกฤต ผู้ประกอบการลดราคาดึงยอดขายเก็บเงินหมุนเวียน นายแบงก์ระบุสงครามราคาอยู่ได้ไม่เกินไตรมาส 2 เหตุกำไรหาย

วานนี้ (9พ.ค.) สมาคมการขายและการตลาดอสังหาริมทรัพย์ ได้จัดงานสัมมนาใหญ่ประจำปี ภายใต้หัวข้อ “สงครามการขายและการตลาดอสังหาริมทรัพย์ 2” โดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 1,200 คน

โดยนายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เป็นประธานเปิดงานพร้อมเปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปีตลาดอสังหาริมทรัพย์มีการชะลอตัวลงพอสมควร เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมือง ความผันผวนของราคาน้ำมัน และชะลอการตัดสินใจของผู้ซื้อ ซึ่งในส่วนของธอส. มีจำนวนสินเชื่อปล่อยใหม่ในแต่ละเดือนของปีนี้ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

โดยในเดือนมกราคมสามารถปล่อยสินเชื่อได้ 6,700 ล้านบาท เทียบกับปีที่แล้วที่ปล่อยได้ 8,000 ล้านบาท ส่วนเดือนกุมภาพันธ์ปล่อยได้ 8,000 ล้านบาท ปีที่แล้วปล่อยได้ 9,000 ล้านบาท เดือนมีนาคมปล่อยได้ 7,700 ล้านบาท ปีที่แล้วปล่อยได้12,000 ล้านบาท เดือนเมษายน ปล่อยได้ 6,600 ล้านบาท เทียบปีที่แล้วปล่อยได้ 7,700 ล้านบาท เฉลี่ยปล่อยกู้วันละ 300 ล้านบาท จากช่วงที่ปล่อยได้ดีๆ วันละ 500 ล้านบาท

“ คงจะต้องรอดูว่าจะผ่านวันที่ 30 พ.ค.นี้จะมีอะไรหรือไม่ ร่างรัฐธรรมนูญจะรับหรือไม่รับ และมีการเลือกตั้งตามกำหนดหรือไม่ ปัจจัยหลายๆ ปัจจัยได้กระทบต่อยอดขายโครงการ แต่ผู้ประกอบการก็ได้ปรับตัวเองให้สอดรับกับสถานการณ์ ส่วนธนาคารพยายามช่วยเหลือภาคอสังหาฯมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ลดดอกเบี้ยลูกค้าที่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท คงที่ 3 ปี และอีกไม่นาน คณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย (กนง.) จะประชุมกันอีก แนวโน้มดอกเบี้ยจะลงไปอีกการแข่งขันทางการตลาดน่าจะดีขึ้น เพราะดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลง แต่ตอนนี้ยังรอมาตรการการคลังอยู่ ซึ่งไม่น่าจะเกิน 2 สัปดาห์” นายขรรค์กล่าว

นายไพโรจน์ สุขจั่น นายกสมาคมการขายและการตลาดกว่าว่า ปีนี้โครงการเปิดตัวใหม่ไม่มาก เพราะมีผลกระทบต่อเนื่องมากจากปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่เริ่มขยับขึ้น วัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น รายได้ของผู้บริโภคลดลง เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี มีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง คนมีเงินไม่ยอมใช้จ่าย ทั้งนี้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องทำโปรโมชั่นครั้งมโหฬารเพื่อเร่งยอดขายโดยเฉพาะรายใหญ่ ซึ่งรายย่อยเองแถบจะไม่สามารถแข่งขันได้ ดังนั้นรายย่อยจึงควร พัฒนาโครงการอย่างพอเพียง ทำโครงการขนาดเล็ก การดำเนินงานภายในบริษัทควรสามัคคีกัน หากลุกค้าต่อรองราคาควรต้องยอมลดลงบ้างเพื่อให้ขายได้

สงครามราคาใกล้จบ

ด้านนายธวัชไชย สุทธิกิจพิศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันธนาคารมีโครงการที่ปล่อยสินเชื่ออยู่ 150โครงการ ส่วนสินเชื่อโครงการปล่อยใหม่ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาเพียง 8 โครงการ มูลค่ารวม 2,000-3,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าต่ำกว่าเป้าหมาย 20% แต่อย่างไรก็ดีธนาคารไม่ได้มีนโยบายเร่งปล่อยสินเชื่อ เพราะต้องการให้เป็นไปตามสภาวะตลาด

ส่วนลูกค้าที่เริ่มมีปัญหามากๆ มีประมาณ 10% หรือ 1,500 ล้านบาท จากพอร์ตทั้งหมด 15,000 ล้านบาท โดยธนาคารได้เข้าไปช่วยเหลือลูกค้าด้วยการให้คำแนะนำด้านต่างๆ ให้ลูกค้าสามารถขายสินค้าได้

“วันนี้เป็นอีกแบบหนึ่งไม่เหมือนช่วงวิกฤติ ส่วนแบ่งการตลาดของผู้ประกอบการรายใหญ่สูงขึ้น ช่องว่างตลาดของผู้ประกอบการรายกลาง-เล็กแคบลง แต่ต้องพยายามหาทางออก เมื่อตลาดไม่ดีทุกอย่างจะบีบรัดขึ้นต้องหันกลับมาดูโครงการว่าจะขายในราคาเท่าไหร่ที่เป็นไปได้ ต้องยอมรับผลกำไรลดลง วันนี้เป็นจุดสุดท้ายที่ลูกค้าต้องการคือราคา จึงต้องยอมรับราคาที่ลูกค้าต่อรอง เพื่อให้มีสภาพคล่อง แต่เชื่อว่าสงครามราคาจะมีอีกไม่เกินไตรมาส 2 เพราะสินค้าค้างสต๊อกเริ่มหมด และผู้ประกอบการเริ่มยอมรับความจริงว่าทำให้กำไรลดลง”

นอกจากนี้หลายโครงการต้องอัดฉีดในเรื่องของการตลาด และทำสภาพโครงการให้ดีกว่าที่เคยขายได้ในช่วงภาวะตลาดดีๆ สิ่งเล็กๆน้อยๆ ที่เป็นความเรียบร้อยของโครงการไม่ควรละเลย เพื่อพยายามดึงลูกค้าเข้าโครงการ อย่าพยายามปล่อยให้มีการก่อสร้างค้างคาอยู่ต้องพยายามกัดฟันสร้างบ้านเหล่านั้นให้เสร็จ สิ่งเหล่านี้ต้องใช้เงิน ซึ่งต้องคุยกับธนาคารเพื่อปรับโครงการให้อยู่ในภาพที่ดีจึงจะสามารถปิดการขายได้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us