Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน10 พฤษภาคม 2550
เอ็น.ซี.ฯลดขนาด-ราคาขายบ้าน ผุด2โครงการรุกตลาดกลาง-ล่าง             
 


   
www resources

โฮมเพจ เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง

   
search resources

เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง, บมจ.
สมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม
Real Estate




ระบุกำลังซื้อหด ตลาดชะลอตัว เอ็น ซี.ฯ ปรับลดขนาดบ้าน-ราคา รับความต้องลูกค้าลูกค้าตลาดกลาง-ล่าง เร่งยอดขายโตตามเป้า พร้อมเปิดตัว2 โครงการใหม่ บ้านฟ้ารังสิต-บ้านฟ้าปิยรมย์ ดูดกำลังซื้อตลาดโซนรังสิต ชี้มาตรการกระตุ้นอสังหาฯยังจำเป็นสำหรับตลาดอสังหาฯ-เศรษฐกิจปี50 วอนรัฐบาลเร่งสร้างความเชื่อมั่น ฟื้นเศรษฐกิจก่อนทุรดหนักหวั่นกู้คืนยาก

นายสมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ตั้งแต่ปลายปี49 จนถึงขณะนี้ยังชะลอตัวต่อเนื่องจากผลกระทบด้านลบหลายปัจจัย การเมือง เศรษฐกิจ กำลังซื้อลูกค้า และความเชื่อมั่น ส่งผลให้มีผลในเชิงจิตวิทยา ให้การตัดสินใจซื้อบ้านชะลอตัว ทำให้คาดว่าในปี50 ตลาดรวมอสังหาริมทรัพย์ จะเติบโตในระดับ5% ทั้งนี้ ภาครัฐควรให้ความสำคัญเรื่องมาตรการในระยะยาวเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจด้านเศรษฐกิจ ผ่านธุรกิจอสังหาฯ ซึ่งถือว่าเป็นธุรกิจที่เชื่อมต่อการเติบโตให้กับธุรกิจต่อเนื่อง

สำหรับแผนงานของบริษัท มีการปรับโครงสร้างรายได้ โดยเพิ่มสัดส่วนของฐานรายได้ในกลุ่มบ้านเดี่ยวระดับกลาง เป็น 75% จากเดิม 71% บ้านแฝด10% และทาวน์เฮ้าส์ 15% ซึ่งเอ็น.ซีฯ ได้ขยาย Product Line ในสินค้าบ้านเดี่ยว โดยการการปรับฐานราคาเริ่มต้นที่ระดับราคา 2-3 ล้านบาท ตามแผนบริษัทที่ยังให้ความสำคัญการขยายโครงการในทำเลโซนเหนือ เพื่อทดแทนสินค้าที่หมดไป

ทั้งนี้ในไตรมาส 2 นี้เอ็น.ซีฯ จะเปิดขายโครงการใหม่ 2 โครงการ มูลค่ารวม 900 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการบ้านฟ้ารังสิต และโครงการบ้านฟ้าปิยรมย์ในเฟสต่อเนื่อง โดยโครงการบ้านฟ้ารังสิต เป็นโครงการที่มีการ Mix Product ประกอบด้วย บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่แปลงขนาด 51-60 ตารางวา จำนวน 19 ยูนิต ราคา 1.9 ล้านบาท บ้านแฝด 2 ชั้น พื้นที่แปลงขนาด 38 ตารางวา จำนวน 48 ยูนิต ราคา 1.4 ล้านบาท ทาวน์เฮ้าส์ 108 ยูนิต หน้ากว้าง 6 เมตร ราคา 8 แสนกว่าบาท และอาคารพาณิชย์ 12 ยูนิต รวมจำนวน 187 ยูนิต โดยมีพื้นที่โครงการรวม 18 ไร่ มูลค่าโครงการ 227 ล้านบาท ส่วนโครงการ บ้านฟ้าปิยรมย์ จะเป็น บ้านเดี่ยว จำนวน 180 ยูนิต และ บ้านแฝด จำนวน 118 ยูนิต บนพื้นที่โครงการ 57 ไร่มูลค่าโครงการรวม 680 ล้านบาท มีแบบบ้าน4 รูปแบบ มีพื่นที่ใช้สอยเริ่มต้น 140-172 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.6 ล้านบาท ส่วนบ้านแฝด ราคา 1.8 ล้านบาท

“ สำหรับทั้ง 2โครงการดังกล่าว จะมีการเปิดพรีเชลล์ที่สำนักงานขายโครงการบ้านฟ้าปิยรมย์ และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในกลางเดือนนี้ งานมหกรรมบ้านคอนโด ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ 17-20 พ.ค นื้ โดยในงานดังกล่าวจะมีการจัดโปรโมชัน “ไม่ต้องจ่ายสักบาท ก็เป็นเจ้าของบ้านเอ็น.ซี ได้ง่ายๆ”

นายสมนึก ตันฑเทิดธรรม รองกรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า ไตรมาสแรกที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาโดยมียอดขาย 480 กว่าล้านบาท อย่างไรก็ตามในช่วง ไตรมาส2จากนี้ไปคาดว่าตลาดจะยังคงทรงๆ ระดับเดียวกับช่วงต้นปีที่ผ่านมา เนื่องจากความเชื่อมั่นและกำลังซื้อลูกค้ายังไม่ฟื้นตัว จากสถานการณ์ด้านการเมืองและเศรษฐกิจ แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะมีการปรับลดลงแล้วก็ตาม ทั้งนี้ หากในช่วงปลายปีรัฐบาลสร้างความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้งและมีการจัดการเลือกตั้งได้ตามที่ประกาศไว้ ก็จะช่วยให้ตลาดมีทิศทางที่ดีขึ้น

โดยเฉพาะช่วงปลายปีนี้คาดว่าแนวโน้มดอกเบี้ยน่าจะลดลงอีกแม้ว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยจะยังไม่มีท่าทีที่ชัดเจนในเรื่องปรับลดอัตราดอกเบี้ยก็ตาม เนื่องจากสถานการณ์ตลาดเช่นนี้หากต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาขยายตัวเพิ่มขึ้นก็จะต้องมีการปรับลดดอกเบี้ยลงอีกเพื่อเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อและการลงทุนให้ขยายตัว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us