Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน10 พฤษภาคม 2550
เนสท์เล่จ้องโค่นเอนฟาโกลด์ทุ่ม200ล.ระเบิดศึกยึดตลาดรวม             
 


   
www resources

โฮมเพจ เนสท์เล่ประเทศไทย

   
search resources

เนสท์เล่ (ไทย), บจก.
Dairy Product
Baby Products




เนสท์เล่ ตั้งป้อมโค่นเอนฟาโกลด์เจ้าตลาดนมเด็กพรีเมียม อัดฉีด 200 ล้านบาท ระเบิดแคมเปญ “ภูมิคุ้มกันสร้างได้ ตอนเรียนรู้โลกใต้ทะเล” จ่อคิว 1-2 ปี ผงาดขึ้นบัลลังก์โกยแชร์ 14-15% สิ้นปีแชร์คอร์ปอเรตพุ่งเป็น 49% ระบุตลาดนมผง 7.8 พันล้านบาทโตน้อย ยันเศรษฐกิจซบโอกาสที่พ่อแม่จะหันไปซื้อนมผงกลาง-ล่างแทนพรีเมียมคาดคะเนได้ยาก ชี้วิกฤติเศรษฐกิจปี 40 ส่งผลนมระดับล่างโตพรวด

นางสาวดวงพร ตัณฑ์พูนเกียรติ ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์นมผงสำหรับเด็ก บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายนมผงสำหรับเด็กตราหมีแอดวานซ์ และคาร์เนชั่น เปิดเผยว่า นโยบายปีนี้บริษัทจะรุกตลาดนมผงสำหรับเด็กโตภายใต้แบรนด์ “ตราหมี แอดวานซ์ โพรเท็กซ์ชัน” ซึ่งเป็นนมผงในระดับเซกเมนต์พรีเมียมมากขึ้น

โดยบริษัทได้วางเป้าหมายภายในปีนี้หรือปีหน้าจะขึ้นเป็นผู้นำตลาดด้วยการครองส่วนแบ่งเพิ่มเป็น 14-15% แทนที่เอนฟาโกลด์ภายใต้บริษัทมิลล์จอห์นสันซึ่งมีส่วนแบ่ง 13% จากปัจจุบันตราหมีแอดวานซ์ โพรเท็กซ์ชันมีส่วนแบ่ง 10.4% เป็นอันดับสองของตลาด จากการเปิดตัวสินค้าลงสู่ตลาดในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมานี้

ดังนั้นปีนี้บริษัทได้ทุ่มงบ 200 ล้านบาท แบ่งเป็น อะโบฟเดอะไลน์ 60% ผ่านการใช้งบผ่านสื่อทีวี สื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุประชาสัมพันธ์ และการทำบีโลว์เดอะไลน์ 40% ผ่านการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่สามารถเข้าตรงถึงกลุ่มเป้าหมาย โดยในช่วงครึ่งปีแรกทุ่มงบ 100 ล้านบาท เน้นการทำตลาดสร้างความแตกต่างจากสินค้าคู่แข่งที่เน้นการพัฒนาของสมอง ในขณะที่ของบริษัทเน้นการสร้างภูมิคุ้นกัน โดยได้ประเดิมเปิดตัวแคมเปญ “ภูมิคุ้มกันสร้างได้ ตอนเรียนรู้โลกใต้ทะเล” นำร่องส่งภาพยนตร์โฆษณา Sea World ภายใต้แนวคิด”ธรรมชาติรู้จักสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อปกป้องตัวเอง ลูกรักของคุณก็ต้องการการปกป้องเช่นกัน”

“เป้าหมายของแคมเปญดังกล่าว เพื่อตอกย้ำถึงความสำคัญของการสร้างภูมิคุ้มกันและคุณประโยชน์ที่ลูกรักจะได้รับจากการดื่มนม และประการสำคัญมีส่วนในการเพิ่มยอดขายให้กับนมตราหมี แอดวานซ์ โพรเท็กซ์ชัน โดยแคมเปญ “ภูมิคุ้มกันสร้างได้ ตอนเรียนรู้โลกใต้ทะเล” จัดกิจกรรมในระหว่างวันที่ 23-24 มิถุนายน นี้ ที่ สยามโอเชี่ยน เวิลด์ และในระหว่างเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม จัดกิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ จัดโปรโมชัน และแจกสินค้าตัวอย่าง ทั้งนี้คาดว่าสิ้นปีนี้จะเพิ่มฐานสมาชิกจาก 4-5 หมื่นรายเป็น 7-8 หมื่นราย”

สำหรับแนวโน้มตลาดนมผงสำหรับเด็กโตมูลค่า 7,800 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตไม่ถึง 4% เนื่องจากในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมานี้ สภาพตลาดยังไม่มีอัตราการเติบโต อีกทั้งเกิดจากอัตราการเกิดของเด็กลดลง และพฤติกรรมของเด็กดื่มนมยูเอชทีเร็วขึ้น

โดยปีนี้นมผงสำหรับเด็กโตในเซกเมนต์พรีเมียมมูลค่า 2,340 ล้านบาท หรือคิดเป็น 30% ของตลาดรวม มีอัตราการเติบโตสูงที่สุด ส่วนเซกเมนต์ระดับกลางมีมูลค่า 3,120 ล้านบาท หรือคิดเป็น 40% ของตลาดรวม กลับเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตน้อยสุด เพราะผู้ประกอบการหันไปทำเซกเมนต์พรีเมียมมากขึ้น อีกทั้งพ่อแม่ยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าที่มีคุณภาพให้ลูก

ส่วนเซกเมนต์ระดับล่างมูลค่า 1,400 ล้านบาท หรือคิดเป็น 17-18% มีอัตราการเติบโตรองจากเซกเมนต์พรีเมียม อย่างไรก็ตามจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ผู้บริโภคมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น แต่โอกาสที่พ่อแม่จะหันไปซื้อนมผงสำหรับเด็กโตในเซกเมนต์กลางหรือล่างแทนที่เซกเมนต์พรีเมียมยังไม่สามารถคาดคะเนได้ เมื่อเทียบกับวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 เห็นชัดเจนว่าปัจจัยการตัดสินใจซื้อสินค้าของพ่อแม่คำนึงด้านราคาเป็นหลัก ส่งผลให้นมผงสำหรับเด็กในเซกเมนต์อีโคโนมีในยุคนั้นมีอัตราการเติบโตสูง สำหรับการแข่งขันในปีนี้มีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการสื่อสารผ่านพ่อแม่ และตัวผลิตภัณฑ์

“ขณะนี้บริษัทยังไม่มีนโยบายจะปรับราคานมผงสำหรับเด็กโตเพิ่มขึ้น และยังไม่ได้แจ้งเกี่ยวกับการปรับราคาสินค้าขึ้นต่อกรมการค้าภายในแต่อย่างใด แม้ว่าต้นทุนในขณะนี้จะปรับเพิ่มขึ้นตามต้นทุนวัตถุดิบและราคาน้ำมัน”

ปัจจุบันเนสท์เล่เป็นผู้นำตลาดนมผงสำหรับเด็กโต โดยครองส่วนแบ่งในเชิงคอร์ปอเรต 46% แบ่งเป็น นมผงไฟท์ติ้งแบรนด์ยี่ห้อคาร์เนชั่น 19% นมตราหมี แอดวานซ์ 16-17% และนมตราหมี แอดวานซ์ โพรเท็กซ์ชัน 10.4% ทั้งนี้สิ้นปีตั้งเป้าส่วนแบ่งเพิ่มเป็น 49% ส่วนอันดับสองดูเม็กซ์ ครองส่วนแบ่ง 24-25% และมิลล์จอห์นสัน 19%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us