|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เอ็กโกพร้อมเจรจาขายหุ้นกัลฟ์ อิเล็คตริกฯทั้งหมดให้เจเพาเวอร์ โดยมีเงื่อนไขว่ายังถือหุ้นในบริษัทลูก คือ กัลฟ์ เพาเวอร์ฯ 50%ต่อไป หลังโรงไฟฟ้าแก่งคอย 2 ยูนิตแรก เริ่มจ่ายไฟเข้าระบบ 5พ.ค.ที่ผ่านมา เผยปรับแผนการลงทุนใหม่ใส่เงินเพิ่มขึ้นเป็น 1.6 หมื่นล้านบาท รองรับการเข้าประมูลไอพีพี ตั้งเป้าชนะการประมูล 900 เมกะวัตต์
นายวิศิษฎ์ อัครวิเนค กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือเอ็กโก เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัท เจ เพาเวอร์ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท กัลฟ์ อิเล็คตริก จำกัด (มหาชน) ได้เจรจาซื้อหุ้นกัลฟ์ ลิเล็คตริกที่เอ็กโกถือหุ้นอยู่ 50% เนื่องจากต้องการเข้าไปบริหารงานอย่างเต็มที่ในบริษัทกัลฟ์ อิเล็คตริกฯ ซึ่งเรื่องนี้คงต้องมีการเจรจาหารือ โดยเอ็กโกอาจจะยอมขายหุ้นที่ถืออยู่ในกัลฟ์ อิเล็คตริกฯทั้งหมด
ขณะเดียวกันก็มีเงื่อนไขว่า เอ็กโกจะยังคงถือหุ้นในบริษัทกัลฟ์ เพาเวอร์ เจเนอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือกัลฟ์ อิเล็คตริกฯถือหุ้นอยู่ 100% โดยเอ็กโกต้องการรักษาสัดส่วนการถือหุ้นในกัลฟ์ เพาเวอร์อยู่ 50% แม้ว่าจะไม่ได้ถือหุ้นในกัลฟ์ อิเล็คตริกฯแล้วก็ตาม เนื่องจากกัลฟ์ เพาเวอร์ฯเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าแก่งคอย 2 ขนาดกำลังการผลิต 1,468 เมกะวัตต์ โดยเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ยูนิตแรก 734 เมกะวัตต์เมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา และจะจ่ายไฟฟ้าเข้ายูนิต 2 อีก 734 เมกะวัตต์ในเดือนมี.ค. 2551
“ผู้ถือหุ้นญี่ปุ่นจะขอซื้อหุ้นกัลฟ์ อิเล็คตริกฯที่เอ็กโกถือหุ้นอยู่ 50% อาจเนื่องจากญี่ปุ่นอยากมีธุรกิจในไทย ซึ่งเราก็บอกว่ามาเจรจากันได้ แต่เราจะยอมขายบริษัทแม่ แต่จะไม่ยอมขายบริษัทลูก (กัลฟ์ เพาเวอร์ เจเนอเรชั่นที่ปัจจุบันถือเอ็กโกถือหุ้นอยู่ 50%ตามสัดส่วนการถือหุ้นกัลฟ์ อิเล็คตริก)”
นายวิศิษฎ์ กล่าวต่อไปว่า ในปีนี้ บริษัทมีแผนลงทุนประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมที่เคยตั้งเป้าหมายการลงทุนปีนี้ไว้ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับการเข้าร่วมประมูลโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากเอกชนอิสระรายใหญ่ (ไอพีพี) ที่รัฐจะเปิดประมูลจำนวน 3,000 เมกะวัตต์ โดยเอ็กโกตั้งเป้าหมายที่จะชนะการประมูลให้ได้ 30%ของปริมาณกำลังผลิตไฟฟ้ารวม หรือคิดเป็น 900 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นเอ็กโกจะเป็นผู้ลงทุนเพียงรายเดียว เว้นแต่จะชนะประมูลมากกว่าเป้าหมายจึงจำเป็นต้องหาพันธมิตร
ขณะนี้บริษัทได้เตรียมพื้นที่ในการยื่นเข้าร่วมประมูลอยู่ 3 แห่งประกอบด้วยภาคตะวันออก ภาคตะวันตกและภาคใต้ โดยพื้นที่แต่ละแห่งสามารถสร้างโรงไฟฟ้าได้ 2 ยูนิตๆละ 800 เมกะวัตต์ เว้นภาคใต้ที่จะใช้พื้นที่ในโรงไฟฟ้าขนอม สามารถสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มเติมได้ 400-700 เมกะวัตต์ โดยโรงไฟฟ้าเหล่านี้จะใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งบริษัทมีความได้เปรียบด้านบุคคลกร
เดิมบริษัทมีแผนจะยื่นประมูลโรงไฟฟ้าใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง หลังจากรัฐให้เอกชนรับความเสี่ยงการคัคค้านจากประชาชนในพื้นที่เอง อย่างไรก็ตาม ในอนาคตเมื่อมีการเปิดประมูลไอพีพีครั้งหน้าก็อาจจะยื่นประมูลสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินก็ได้
สำหรับแหล่งเงินที่ใช้ในการลงทุนปีนี้นั้นจะมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน และการกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงินไทยอีก 8,000 ล้านบาท และรายได้ปีนี้คาดว่าจะไม่ต่ำกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี และโรงไฟฟ้าแก่งคอย 2
นายวิศิษฎ์ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ปตท.ได้เจรจากับบริษัทฯเพื่อขอให้โรงไฟฟ้าบีแอลซีพีของเอ็กโกลดปริมาณการปล่อยมลพิษทางอากาศลงต่ำกว่ามาตรฐาน เพื่อที่จะให้โรงงานใหม่ของปตท.เกิดขึ้นได้ ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินลงทุนไม่เกิน 100 ล้านบาท โดยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นนี้คงต้องให้ปตท.เป็นผู้รับภาระ เนื่องจากบริษัทลูกของเอ็กโกปฏิบัติตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว
ในปีนี้คาดว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าจะเพิ่ม 6-7% โดยเอ็กโกมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 3,400 เมกะวัตต์ โดยปีนี้บริษัทเตรียมเข้าประมูลไอพีพีรอบใหม่ โดยตั้งเป้าหมายชนะการประมูลอย่างน้อย 900 เมกะวัตต์ รวมทั้งการเข้าไปถือหุ้นในโครงการโรงไฟฟ้าน้ำเทิน 1 ที่สปป.ลาว และการเข้าไปร่วมประมูลซื้อโรงไฟฟ้าที่ฟิลิปปินส์ขนาดกำลังการผลิต 200 เมกะวัตต์ในกลางปีนี้ โดยจะจับมือกับโคแนล ซึ่งเป็นพันธมิตรถือหุ้นในโรงไฟฟ้าฟิลิปปินส์ 50% ใช้เงินลงทุนประมาณ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายของบริษัทฯ 5ปีข้างหน้า (ปี2548-2552 )เอ็กโกจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นปีละ 10% ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเกิน สูงกว่าเป้าหมาย
|
|
|
|
|