|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ดราก้อนวัน ปรับแผนขายหุ้นที่เหลือจากการขายให้ผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 97 ล้านหุ้น ให้กับบุคคลในวงจำกัด 2 ราย ที่ราคาหุ้นละประมาณ 1 บาท ผู้บริหารมั่นใจทยอยขายหมดภายใน 2 เดือนนี้ ก่อนจะเสนอแผนดำเนินธุรกิจเพื่อคงฐานะบริษัทจดทะเบียนต่อไป พร้อมปรับเปลี่ยนแผนเข็น A-Host เข้าจดทะเบียนในตลาดเอ็มเอไอแทนใช้เป็นบริษัทแกนในการดำเนินธุรกิจของดราก้อนวัน
หลังจากที่บริษัท ดราก้อน วัน จำกัด (มหาชน) หรือ D1 ได้โอนสินทรัพย์ หนี้สิน ตลอดจนกิจการทั้งหมด ให้แก่บริษัท ไดอาน่าคอนวีเนี่ยนสโตร์ จำกัด หรือ DCS ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ D1 และต่อมาได้มีการจำหน่ายบริษัท DCS ให้แก่นายเนตร จันทรัศมี เป็นผลทำให้ D1 ไม่มีการประกอบธุรกิจหลักและเข้าข่ายเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีสินทรัพย์ทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมดในรูปของเงินสด (Cash Company) ซึ่งต้องแก้ไขสภาพดังกล่าวและยื่นเรื่องแก่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายใน 1 กรกฎาคม 2550 นั้น
นายจเรรัฐ ปิงคลาศัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดราก้อนวัน จำกัด (มหาชน) หรือ D1 เปิดเผยถึง แผนการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เหลือจากการขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 96,982,448 หุ้น ว่า บริษัทนำหุ้นที่เหลือเสนอขายให้บุคคลในวงจำกัด (PP) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้สนใจจำนวน 2 ราย โดยคาดว่าจะกำหนดราคาขายที่ประมาณหุ้นละ 1 บาท สอดคล้องกับราคาตลาดเฉลี่ยย้อนหลัง 7 วัน
"หุ้นที่เหลือเราจะนำออกมาทยอยขายให้กับผู้สนใจ ไม่ใช้การขายครั้งเดียว แต่น่าจะขายหมดภายใน 2 เดือนนี้ ในราคาประมาณ 1 บาท ซึ่งจัดว่าเป็นราคาที่ถูกอยู่แล้ว โดยในขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ถือหุ้น ซึ่งบริษัทเองก็ไม่ได้รีบร้อนขายหุ้น เพราะวัตถุประสงค์ของการระดมทุนครั้งนี้ บริษัทมีแผนจะนำเงินไปใช้ในการลงทุน แต่จากภาวะเศรษฐกิจไม่ค่อยเอื้ออำนวย บริษัทคงจะต้องชะลอการลงทุนออกไปก่อน"
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่บริษัทประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 1/50 หลังวันที่ 15 พ.ค.นี้ จะช่วยผลักดันให้ราคาหุ้น D1 ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งจะทำให้ผู้ร่วมทุนใหม่มีความมั่นใจในตัวบริษัท และหลังจากที่ขายหุ้นเพิ่มทุนที่เหลือได้หมดภายใน มิ.ย. บริษัทจะยื่นเรื่องกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ D1 คงสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป
"เรามีแผนคงสถานะบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะนำบริษัทใดมาเป็นธุรกิจหลัก แต่ขณะนี้มีอยู่แลว 3-4 แนวทาง"
พร้อมกันนี้ บริษัทได้ปรับเปลี่ยนแผนงานของบริษัท แอพพลิเคชั่น โฮสติ้ง เซอร์วิส จำกัด หรือ A-Host ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ทาง D1 ถือหุ้นอยู่ 91.14% นั้น โดยบริษัทได้พิจารณาเปลี่ยนแผนการดำเนินกิจการจากเดิมที่จะให้ A-Host มาเป็นธุรกิจแกนของ D1 เป็นการนำ A-Host เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) แทน โดยจะทำการเพิ่มทุนใหม่และเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ในสัดส่วน 25% ของทุนจดทะเบียน ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในอีก 5-6 เดือนหรือประมาณช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ แม้ว่าในขณะนี้ A-Host จะทำการทำไฟลิ่งเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากจะรอให้ดำเนินการแก้ไขสภาพของ D1 เรียบร้อยก่อน
"A-Host ต้องจัดตั้งเป็นบริษัทมหาชนใหม่ ซึ่งขณะนี้บริษัทได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว เพื่อให้มีคุณสมบัติครบตามหลักเกณฑ์ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดเอ็มเอไอ ทำให้คาดว่าจะเรียบร้อยและสามารถขายหุ้นไอพีโอและเข้าซื้อขายในตลาดเอ็มเอได้ได้ในช่วงไตรมาส 4 โดยเฉพาะของของทุนจดทะเบียนที่ตลาดเอ็มเอไอกำหนดให้มีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท ขณะที่ปัจจุบันทุนจดทะเบียน A-Host อยู่ที่ 43 ล้านบาท" นายจเรรัฐ กล่าว
ก่อนหน้านี้ A-Host ในฐานะบริษัทย่อยของ D1 ได้ประกาศเพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม 23 ล้านบาท เป็น 43 ล้านบาท ด้วยการเพิ่มหุ้นสามัญจำนวน 200,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (ราคาพาร์) หุ้นละ 100 บาท เพื่อจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ในราคาหุ้นละ 100 บาท แต่บริษัท ไออีซี บิซิเนส พาร์ทเนอร์ส จำกัด ผู้ถือหุ้นของ A-Host ได้แสดงความจำนงสละสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าว ทำให้ D1 เป็นผู้ถือหุ้นใน A-Host ทั้งหมด จาก 91.14%
นอกจาก A-Host แล้ว D1 ยังลงทุนในบริษัทอื่นๆ ได้แก่ บริษัท วันเน็ต จำกัด, บริษัท บริทไบค์ จำกัด และ บริษัท ไชโย โปรดักชั่นส์ จำกัด เป็นต้น
ด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้น D1 วานนี้ (8 พ.ค.) ราคาหุ้นปรับตัวซื้อขายอยู่ในแดนลบ โดยมีราคาสูงสุดที่ 1.14 บาท ก่อนจะปิดที่ราคาต่ำสุด 1.10 บาท ลดลงจากวันก่อน 0.03 บาท หรือ 2.65% มูลค่าการซื้อขายรวม 3.08 ล้านบาท
|
|
|
|
|