|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
การเมืองเป็นเหตุ ทำเศรษฐกิจพัง ธุรกิจรับจัดงานติดร่างแห ส่อเค้าขยับขึ้นยาก จาก 14,000 ล้านบาทของปีที่แล้ว เหตุลูกค้าติดเบรกหั่นงบทำตลาดลง “ซีเอ็ม ออร์กาไนฯ” โอด เล็งปรับเป้ารายได้เติบโต 5% ในปีนี้ เหลือ 780 ล้านบาทเท่าที่ผ่านมา พร้อมลุยตลาดคอร์ปอเรตมาร์เก็ตติ้ง อีเวนต์เต็มตัว หลังพบใช้เม็ดเงินทำตลาดสูง พร้อมสยายปีกอัดเม็ดเงินอีก 10 ล้าน ผุดบริษัทร่วมทุนที่เขมร ก้าวสู่อนาคตผู้นำธุรกิจรับจัดงานในอาเซียนอีก 3 ปีข้างหน้า
นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจออร์กาไนเซอร์และรับจัดงานต่างๆ เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจรับจัดงานมูลค่ากว่า 14,000 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา ที่มีอัตราการเติบโตกว่า 20% นั้น มองว่าสถานการณ์การเมืองในวันนี้ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดความกดดันต่างๆต่อการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน จนทำให้ธุรกิจรับจัดงานเองในปีนี้ คาดว่าน่าจะมีแนวโน้มทรงตัวหรือมีมูลค่าใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาเท่านั้น
“ไตรมาสแรกที่เพิ่งผ่านมานี้ เชื่อว่าภาพรวมของธุรกิจรับจัดงานกำลังมีอัตราการเติบโตที่ลดลงไปแล้วกว่า 5-10% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา จากการสอบถามไปยังบริษัทที่ดำเนินธุรกิจรับจัดงานประมาณ 10 กว่าบริษัท พบว่าส่วนใหญ่มีรายได้ลดลงเฉลี่ยที่ 5-10% เช่นเดียวกันหมดในช่วง 3 เดือนแรกนี้ อีกทั้งยังพบว่ามีสัญญาณบอกเหตุถึงการทำตลาดในอีก 3 ไตรมาสที่เหลือว่าลำบากมากขึ้น เช่น ลูกค้าเริ่มบอกเลิกสัญญาจ้างบริษัทฯให้ดูแลการจัดงานให้ หรือนำเสนองานต่อลูกค้ายากขึ้น รวมถึง การหาสปอนเซอร์ชิปลำบากขึ้น ต่อการจัดงานในแต่ละครั้ง จึงเชื่อว่าปีนี้ธุรกิจรับจัดงานทำได้ดีที่สุด คือ ทรงตัว หรือมีมูลค่าเท่าปีที่ผ่านมาเท่านั้น”
ทั้งนี้ในส่วนของบริษัทฯเองนั้น รายได้ในไตรมาแรกที่ผ่านมา ถือได้ว่าค่อนข้างดี โดยมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นกว่า 20% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากการที่สามารถรับรู้รายได้จากงาน พืชสวนโลก และการดูแลพิพิธภัณฑ์ของประเทศกัมพูชาในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ในไตรมาสนี้ด้วยนั้นเอง จึงทำให้รายได้ยังมีอัตราการเติบโตอยู่นั้นเอง
แต่เมื่อมองในภาพรวมแล้ว ยอมรับว่าเป้าหมายการเติบโตที่วางไว้ประมาณ 5% จากรายได้ 780 ล้านบาทของปีที่ผ่านมานั้น ค่อนข้างจะเป็นไปได้ยาก ดังนั้นทางบริษัทฯกำลังพิจารณาที่จะปรับเป้ารายได้ของปีนี้ลดลงเหลือเพียง 780 ล้านบาท เท่ากับปีที่ผ่านมาด้วย
โดยในส่วนของแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ ทางบริษัทฯ ได้วางงบการตลาดไว้กว่า 10 ล้านบาท สำหรับมุ่งเน้นสร้างรายได้จากตลาดกลุ่มคอร์ปอเรต มาร์เก็ตติ้ง อีเวนต์อย่างจริงจังมากขึ้นเป็น 50% จากเดิมที่สร้างรายได้ให้บริษัทฯประมาณ 30% ของรายได้รวมทั้งหมด เนื่องจากพบว่าตลาดกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ใช้เม็ดเงินในการทำการตลาดมากที่สุด โดยเฉพาะการตลาดผ่านสื่อต่างๆ รวมถึงสื่อบีโลว์ เดอะไลน์ อย่างการจัดงานต่างๆด้วย โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาเริ่มมีลูกค้าบ้างแล้ว เช่น งานมอเตอร์โชว์ ที่ดูแลการจัดงานให้กับค่ายรถไปกว่า 5 แบรนด์ เช่น โตโยต้าและนิสสัน
นอกจากนี้บริษัทฯยังได้ร่วมทุนกับทางบริษัท บายอน เรดิโอ แอนด์ เทเลวิชั่น จำกัด ผู้นำธุรกิจด้านเอนเตอร์เทนเม้นต์ในประเทศกัมพูชา ก่อตั้งบริษัท บายอนซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์ จำกัด ในปีนี้อีกด้วย สำหรับดำเนินธุรกิจรับจัดงานในกลุ่มตลาดไมซ์, เนชั่นแนลอีเว้นต์ และไลท์แอนด์ซาวด์โดยทางบริษัทฯเป็นผุ้ถือหุ้นใหญ่กว่า 75% และได้ใช้งบลงทุนครั้งนี้ไปกว่า 10 ล้านบาท โดยทางบายอนถือหุ้น 25% ที่เหลือ ซึ่งในเดือนพฤษภาคมนี้ จะเปิดตัวออฟฟิศอย่างเป็นทางการด้วย และพร้อมกับจะเริ่มรับรู้รายได้ภายในปีนี้อย่างแน่นอน โดยตั้งเป้ารายได้ในปีแรกไว้กว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ
“นอกจากร่วมทุนเปิดบริษัทใหม่ในกัมพูชาแล้ว บริษัทฯยังได้เริ่มสำรวจและทดลองตลาดในประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆอีด้วย เช่น พม่า ลาว และเวียดนาม ในลักษณะเป็นแต่ละงานไป ทั้งนี้ก็เพื่อวางรากฐานสู่การเป็นผู้นำธุรกิจรับจัดงานในระดับอาเซียน ในอีก 3 ปีข้างหน้านี้นั้นเอง” นายเสริมคุณ กล่าว
อย่างไรก็ตามใน 2-3 ปีที่ผ่านมา หลังจากบริษัทฯเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ ได้ดำเนินธุรกิจรูปแบบกระจายความเสี่ยง จึงได้ขยายธุรกิจรับจัดงานสู่ธุรกิจอื่น เช่น ตลาดไมซ์ เช่น งานเอเชียไมซ์, ตลาดการจัดนิทรรศการไอซีทีเอ็กซ์โป และดูแลพิพิธภัณฑ์ของประเทศกัมพูชา ซึ่งจาก 3 งานนี้สร้างรายได้ให้บริษัทฯไปแล้วกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งเมื่อนับรวมรายได้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ขณะนี้บริษัทฯมีรายได้รวมกว่า 400 ล้านบาทแล้ว จากเป้ารายได้ 780 ล้านบาท ที่ได้ปรับลดลดลง คาดว่าสิ้นปีน่าจะทำได้ตามที่วางไว้
|
|
|
|
|