Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน4 พฤษภาคม 2550
ซีลวาเนียเชือดรีเทลเหตุดั๊มราคาตลาดหลอดไฟหดสูงสุด20%รอบ5ปี             
 


   
search resources

Electric
ซีลวาเนีย (ประเทศไทย), บจก.




ตลาดหลอดไฟรวมปีนี้ อาจไปไม่ถึงฝั่งฝัน คาดมีอัตราการเติบโตลดลงกว่า 20% ต่ำสุดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา จากมูลค่า 6,000 ล้านบาทที่ตั้งเป้ากันไว้ เหตุลูกค้าตลาดโปรเจกต์หดแผนลงทุน ผู้บริโภคใช้จ่ายน้อยลง เจ้าของสินค้าพากันดั้มราคาแย่งกันขายของ “ซีลวาเนีย” ปรับทัพมุ่งเจาะตลาดนิชมาร์เก็ต เน้นกลุ่มไลท์ติ้งรีเทลและบ้านเศรษฐี หวังดูดทรัพย์เข้ากระเป๋าให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้กว่า 600 ล้านบาท โตขึ้น 20% ในปีนี้

นายทัตพงษ์ ภัทรพงศ์ศรี ผู้จัดการฝ่ายขาย และการตลาด ดูแลในส่วนของงานโครงการ บริษัท ซีลวาเนีย (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า มูลค่าตลาดรวมอุปกรณ์ให้แสงสว่างในปีนี้ ที่คาดการณ์กันไว้ว่าน่าจะมีมูลค่าสูงถึง 6,000 ล้านบาท ใกล้เคียงกับในปีที่ผ่านมานั้น

ปรากฏว่าสถานการณ์ล่าสุดมองว่าจากการทำตลาดตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา จนถึงไตรมาสหนึ่งที่ผ่านมานั้น รายได้ในกลุ่มตลาดโครงการลดลง 30% จากงานโครงการต่างๆรวมไปถึงกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และบ้านจัดสรรที่เริ่มชะลอแผนการลงทุนลงไปประมาณ 30% ส่วนตลาดรีเทลพบว่ามีรายได้ลดลงเช่นเดียวกัน จึงคาดว่าทั้งปีตลาดรวมน่าจะมีอัตราการเติบโตลดลงจาก 6,000 ล้านบาท ประมาณ 20 % หรือมีมูลค่าอยู่ที่ 5,000 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งตัวเลขการเติบโตที่ลดลงนี้ถือว่ามากที่สุดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมาอีกด้วย

ขณะเดียวกันกลยุทธ์ราคา ถือเป็นเครื่องมือที่เจ้าของแบรนด์และตัวแทนจำหน่าย โดยเฉพาะในกลุ่มรีเทลนิยมใช้กันมาก จนทำให้การขายสินค้าไม่ก่อให้เกิดกำไร ดังนั้นตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา บริษัทฯได้ทำการบอกเลิกสัญญาจำหน่ายสินค้าภายในห้างสรรพสินค้าไปแล้ว 2-3 รายเนื่องจากห้างฯดังกล่าวทำการลดราคาสินค้าของบริษัทฯโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า อีกทั้งยังให้บริษัทฯแบกรับต้นทุนเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งขณะนี้เหลือเพียงไม่กี่รายที่บริษัทฯยังวางจำหน่ายสินค้าอยู่ เช่น โฮมโปร, โฮมเวิร์ค และบิ๊กซี เป็นต้น

ซีลวาเนียเปิดเกมรุก

อย่างไรก็ตามบริษัทฯได้วางกลยุทธ์การทำตลาดของกลุ่มตลาดโครงการขึ้นใหม่ จากเดิมที่ขายเฉพาะกลุ่มโครงการมาสู่กลุ่มตลาดนิชมาร์เก็ตมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มไลท์ติ้งรีเทลหรือชอปโชว์สินค้าต่างๆที่อยู่ภายในห้างสรรพสินค้าทั่วไป โดยมองว่ากลุ่มนี้มีการเปลี่ยนหลอดไฟบ่อยครั้ง และอีกกลุ่มคือ ลูกค้าระดับพรีเมี่ยมที่มีการก่อสร้างบ้านหลังใหม่ราคาสูง ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการใช้จ่ายสูงมาก

สำหรับกลยุทธ์การทำตลาดนั้นจะเป็นการนำสินค้าร่วมกันกับตัวแทนจำหน่ายทั้งหมด 3 แบรนด์ที่บริษัทฯทำตลาดมาตลอด 10 ปี เสนอต่อลูกค้าพร้อมกันทั้งหมด โดยสินค้าทั้ง 3 แบรนด์ ได้แก่ คอนคอร์ดมาร์ลีน (Concord:marlin) เป็นแบรนด์หลอดไฟที่มีชื่อเสียงอย่างมากในกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมี่ยมและดีไซเนอร์ที่มีชื่อเสียงจากประเทศอังกฤษ แบรนด์ต่อมาคือ ลูมิอองซ์ (Lumiance) เป็นแบรนด์จากประเทศเนเธอร์แลนด์ สำหรับเจาะกลุ่มลูกค้าทั่วไปที่มีรายได้สูง สุดท้ายคือ แบรนด์ ซีลวาเนีย สำหรับเจาะกลุ่มเป้าหมายคอนซูเมอร์ทั่วไป โดยแบรนด์คอนคอร์ดมาร์ลีนและลูมิอองซ์นั้น จะนำมาใช้เจาะกลุ่มนิชมาเก็ตโดยเฉพาะ

ส่วนแบรนด์ซีลวาเนีย ทางบริษัทฯจะเน้นเปิดสินค้าใหม่อีก 2 รายการในปีนี้ คือ 1.“ไบร์ทสปอต” เจาะกลุ่มชอปร้านค้าต่างๆที่ต้องการใช้ไฟสำหรับให้แสงสว่างในการจัดโชว์สินค้า และ 2.“ไมโคร ลิ๊งซ์” เจาะกลุ่มที่อยู่อาศัยทั่วไป ที่ให้ความสำคัญด้านดีไซน์ มีด้วยกัน 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นประหยัดไฟ “ไมโครลิ๊งซ์ เอฟ” และหลอดแอลอีดี รุ่น “ไมโครลิ๊งซ์ แอลอีดี”

โดยการทำตลาดในกลุ่มโครงการนั้น ปีนี้บริษัทฯได้จัดเตรียมงบการตลาดไว้กว่า 10% ของยอดขายกลุ่มตลาดโครงการที่คาดว่าจะมีได้ไม่ต่ำกว่า 250 ล้านบาท หรือโตขึ้นจากปีที่ผ่านมา 20% สำหรับทำตลาดตลอดทั้งปี โดยมุ่งเน้นกลยุทธ์การจัดสัมมนาที่เริ่มทำปีนี้เป็นปีแรก ในรูปแบบการจัดสัมมนากลุ่มย่อยจำนวนไม่เกิน 20-30คน จำนวน 4 ครั้งในปีนี้ หรือจัดขึ้นไตรมาสละ 1 ครั้ง ซึ่งใช้งบการจัดงานต่อครั้งอยู่ที่ 4-5 แสนบาท เชื่อว่าจะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มนักออกแบบและตกแต่งที่อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี ซึ่งมองว่ากลุ่มคนดังกล่าวเป็นผู้มีอำนาจการตัดสินใจเลือกใช้หลอดไฟเพื่อใช้งานได้ดีที่สุดในการออกแบบที่อยู่อาศัยนั้นเอง

นายทัตพงษ์ กล่าวต่อว่า แม้แนวโน้มตลาดรวมอาจเติบโตลดลงถึง 20% ก็ตาม แต่บริษัทฯยังคงวางเป้าหมายการเติบโตของปีนี้ไม่ต่ำกว่า 20% เช่นเดิม คิดเป็นมูลค่ากว่า 600 ล้านบาท มาจากกลุ่มตลาดโครงการ 250 ล้านบาท ที่เหลือมาจากตลาดรีเทลและขายส่งในสัดส่วนเท่าๆกัน ทั้งนี้ก็เพื่อต้องการก้าวสู่เป้ารายได้ 1,000 ล้านบาทต่อปี ในปี 2552 ที่จะถึงนี้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us