ซีเมนส์ประกาศกร้าวยึดผู้นำอันดับสองตลาดมือถือไทยเพียงผู้เดียว หลังตัวเลขมาร์เก็ตแชร์ปี
2545 เบียดกับโมโตโรล่าแบบฉิ่วเฉียด เตรียมลบจุดอ่อนเรื่องโปรดักต์ขาดความหลากหลายเป็นอุปสรรคหลักในช่วงปีที่ผ่านมา
พร้อมอัดรุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดเพิ่มอีก 7-8 รุ่น ตอบรับความต้องการผู้บริโภคที่เน้นเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์มากขึ้น
ขายความเป็นโทรศัพท์มัลติมีเดีย สร้างภาพลักษณ์แบรนด์ยังส์เจนเนอเรชั่นที่ทันสมัย
อินเทรนด์ รับกระแสแฟชั่นโฟน เสริมงบการตลาดกว่า 300 ล้านบาททำกิจกรรม มากยิ่งขึ้น
นางสุวรรณี สิงห์ฤาเดช ผู้ช่วยรองประธานฝ่ายอุปกรณ์สื่อ สารและโทรศัพท์มือถือ
บริษัท ซีเมนส์ โมบาย(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของซีเมนส์โมบายในช่วงปี
2545 ที่ผ่าน มา ตัวเลขส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 17-18% ทำให้โมโตโรล่าแซงขึ้นไปอยู่ในอันดับสองของตลาดมือถือไทย
ซึ่งตัวเลขส่วนแบ่งทางการตลาดระหว่างอันดับที่สองและสามนั้นค่อนข้างที่จะใกล้เคียงกันมาก
ทางซีเมนส์คิดว่าการที่อยู่อันดับที่สองหรือที่สามในขณะนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ที่สำคัญในปีนี้ทางบริษัทต้อง
การที่จะเป็นผู้นำอันดับที่สองของตลาดอย่างชัดเจน โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ
20%
"เรายอมรับได้ไม่ว่าจะเป็นที่สองหรือที่สาม แต่ยังไม่เชื่อในตัวเลขที่บ่งบอกออกมามากนัก
เนื่องจากเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกันมาก จนแทบจะไม่แตกต่างกันเลยกับการที่ผู้ให้บริการอีกรายหนึ่งในตลาดบอกว่าตัวเองเป็นผู้นำอันดับของตลาดอยู่ในขณะนี้"
จุดอ่อนที่สำคัญของซีเมนส์ในช่วงปีที่ผ่านมา คือการที่มีโทร-ศัพท์มือถือออกสู่ตลาดน้อยเกินไป
หากเทียบกับคู่แข่งในตลาด ทำให้ในปีนี้ทางบริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวโทรศัพท์มือถือเพื่อเพิ่มความ
หลากหลายในกับแบรนด์ซีเมนส์มากยิ่งขึ้น และยังเป็นการกำจัดจุดอ่อนที่สำคัญไปด้วย
ซึ่งคาดว่าจะมีการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือซีเมนส์รุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอีกประมาณ 7-8
รุ่น
นางสุวรรณี กล่าวว่าในการทำตลาดมือถือในปี 2546 ต้องยอม รับว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว
และมีโอกาสที่จะเกิดการพลิกผันได้ตลอดเวลา อยู่ที่ว่าผู้ประกอบการรายใดจะมีการปรับตัวได้รวด
เร็วตอบรับกับกระแสการเปลี่ยน แปลงได้มากน้อยกว่ากัน ในตัวของ ซีเมนส์เองตามแผนการเปิดตัวรุ่นใหม่ขณะนี้อาจจะมีอยู่ประมาณ
7-8 รุ่น แต่หากตลาดมีการเปลี่ยนการเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่อาจจะมีมากกว่า 10 รุ่นก็ได้
ขึ้นอยู่กับการประเมินสถานการณ์ตลาด
"ขณะนี้การทำแผนการตลาด จะต้องมีทั้งแผนระยะยาวที่วางไว้ทั้งปี แต่ในความเป็นจริง
ธุรกิจมือถือมีการแข่งขันที่สูงมากและมีอัตราการเติบโตที่น่าจะแตกต่างจาก ช่วงปีที่ผ่านมา
ทำให้การปรับแผน การตลาดและการติดตามนั้นจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงทุก 2-3 เดือน เพราะไม่มีใครที่สามารถคาด
การณ์ธุรกิจได้ในระยะยาว"
ทั้งนี้โทรศัพท์รุ่นใหม่ของ ซีเมนส์ที่จะนำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยนั้น ซีเมนส์พิจารณาถึงความเหมาะสมในการใช้งานให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคคนไทยมากที่สุด
ทำให้โทรศัพท์รุ่น ใหม่ที่ออกในตลาดประ เทศทุกรุ่น ไม่จำเป็นที่จะต้องนำเข้า มาเปิดตลาดในประเทศไทย
เนื่อง จากผู้บริโภคคนไทยอาจไม่ต้องการ มือถือในรุ่นที่มีฟีเจอร์ที่ให้มาในเครื่อง
ทำให้การทำตลาดยากที่จะแข่งขันด้วย
สิ่งที่จะเกิดขึ้นสำหรับโทร-ศัพท์มือถือรุ่นใหม่ของซีเมนส์จะเฉพาะเจาะจงกับกลุ่มลูกค้าในแต่ละเซกเมนต์มากที่สุด
จนอาจจะทำให้เกิดกลุ่มใหม่ๆ สำหรับลูกค้าซีเมนส์ได้ ซึ่งจะเป็นการแบ่งย่อยกลุ่มลูกค้าเฉพาะเจาะจงในแต่ละตลาด
แต่ทั้งหมดจะเกาะในกลุ่มเซกเมนต์เดิม
สำหรับเทรนด์ของมือถือที่จะเห็นในปีนี้นั้น เน้นไปที่ฟีเจอร์ ฟังก์ชั่นที่มากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของจอสี จาวา MMS GPRS เนื่อง จากการเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือ ณ
วันนี้จะมีเรื่องของเทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญในการเลือกซื้อของกลุ่มผู้บริโภค
ที่สำคัญการเข้ามาของโทรศัพท์มือถือทุกยี่ห้อในปีนี้จะประกอบไปด้วย แง่มุมของเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์เป็นหลัก
โทรศัพท์มือถือที่ออก ส่วนใหญ่จึงมุ่งไปสู่การเป็นโทรศัพท์มัลติมีเดียมากขึ้น
ส่วนมือถือซีเมนส์เองจะมีการตอบสนองฟีเจอร์ฟังก์ชั่นที่แตกต่างกันไป เพื่อให้สามารถเข้า
ไปตอบสนองความต้องการของลูกค้า ในทุกเซกเมนต์ โดยมีเรื่องของราคาและฟีเจอร์เข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคได้มีการเปลี่ยนเทียบกับโปรดักต์ของคู่แข่งในตลาด
อย่างที่ซีเมนส์ได้เปิดตัวมือถือรุ่น S57 จะเห็นได้ว่าเป็นโทรศัพท์ที่มีฟีเจอร์มากมายและเป็นบิสซิเนสยูสอย่าง
แท้จริง หากนำไปเปรียบเทียบกับคู่แข่งทั้งด้านโปรดักส์ คุณสมบัติและราคา ซีเมนส์เหนือกว่าค่อนข้างมาก
สำหรับแผนการตลาดทาง ซีเมนส์ยังคงยึดในเรื่องของการปรับตัวเองให้เป็นแบรนด์ยังส์เจนเนอเรชั่น
โดยการอาศัยกิจกรรมหลักที่บ่งบอกความเป็นซีเมนส์ผ่าน กิจกรรมดนตรี กีฬา สามารถสะท้อนความเป็นแบรนด์
รวมทั้งจะต้องตอบโจทย์ความต้องการของ ลูกค้าให้ได้ โดยการอาศัยความแข็งแกร่งของบริษัทซีเมนส์เป็นฐาน
เสริมศักยภาพการแข่งขันสะท้อนความน่าเชื่อถือ ความทันสมัย อินเทรนด์และการเป็นโทรศัพท์แฟชั่น
"ลูกค้าทุกคนไม่มีใครอยากแก่ ทุกคนต้องการความเป็นเด็ก หรือยังส์เจนเนอเรชั่น
ซึ่งอาจจะมีอยู่มากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับความ ต้องการของแต่ละคน มือถือซีเมนส์
จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนตัวเองอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้เป็นแบรนด์ที่สนองความต้องการในเรื่องนี้
ซึ่งในแบรนด์ซีเมนส์มีแวลลูในเรื่องความทันสมัยอยู่แล้ว" นางสุวรรณี กล่าวและว่า
ซีเมนส์ต้องการเป็นท็อป ออฟมายแบรนด์ในใจผู้บริโภค ซึ่ง ณ วันนี้หากพูดถึงแบรนด์มือถือใน
ใจผู้บริโภคคิดว่ามีอยู่สามแบรนด์ได้แก่ โนเกีย โมโตโรล่า และก็ ซีเมนส์
นอกจากนี้ซีเมนส์ยังมีการร่วมกับพันธมิตรในกลุ่มต่างๆ เพื่อทำตลาดร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของแอปพลิเคชั่นใหม่ที่จะเกิดขึ้นมาเพื่อรองรับความต้องการ
ใช้งานที่หลากหลายของผู้บริโภค ลักษณะเช่นนี้ซีเมนส์ทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์เพื่อให้เกิดโซลูชั่นร่วม
กันเพราะปัจจุบันการขายโทรศัพท์ จะต้องมีเรื่องของแอปพลิเคชั่น พ่วงเข้ามานำเสนอสำหรับการเปิดตัวโทรศัพท์รุ่นใหม่
นางสุวรรณีกล่าวอีกว่าซีเมนส์ ให้ความสำคัญกับตลาดในประเทศ ไทยเป็นอันดับที่สองในเอเชียรองจากประเทศจีน
แนวโน้มการ เติบ โตไม่น่าจะต่ำกว่าช่วงปีที่ผ่านมาหรือ ประมาณ 8 ล้านเครื่อง ทำให้ซีเมนส์
ตั้งงบด้านการตลาดมากขึ้นเป็น 300 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาที่ใช้งบประมาณในส่วนนี้ไป
250 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นส่วนเสริมสำคัญที่ทำให้ซีเมนส์บรรลุเป้าหมายการเป็นผู้นำตลาดอันดับสองได้ในปีนี้