โมโตโรล่าประกาศสูตรกลยุทธ์การตลาดปรับภาพลักษณ์แบรนด์สู่ยังส์เจนเนอเรชั่น วางเป้าหมายการตลาด
3 ด้านหลัก วินเดอะเน็กซ์เจนเนอเรชั่น สร้างแบรนด์แข็งแกร่ง และความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า
ผ่านการมีโปรดักส์รับทุกความต้องการ สร้างราคา จูงใจทุกกลุ่ม พร้อมทั้งนำเอนเตอร์เทนเมนต์เต็มรูปแบบให้บริการ
เตรียมปล่อยไม้เด็ดเว็บไซต์ภาษาไทย มายโมบายซอฟต์และสร้าง โมโตคลับ เชื่อมกลุ่มลูกค้าภักดีในตัวสินค้า
ทั้งยังช่วยขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น มั่นใจรักษาผู้นำอันดับสองในตลาดมือถือเหนียวแน่น
นายวิทการ จันทวิมล ผู้จัดการฝ่ายการตลาดคนใหม่ บริษัท โมโตโรล่า (ประเทศไทย) จำกัด
เปิดเผยว่า ภาระกิจทางการตลาดของโมโตโรล่าในขณะนี้สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการเร่งปรับภาพลักษณ์ให้ดูเป็นยังส์เจนเนอเรชั่นให้ได้
หลังจากมีการปรับเปลี่ยนเรื่อง ของดีไซน์ที่ทันสมัยขึ้น การปรับฟังก์ชั่นการใช้งานและฟีเจอร์ด้วย
ซอฟต์แวร์ที่ใช้งานง่ายขึ้น เพื่อเจาะให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายลูกค้าโมโตโรล่าทุกกลุ่มเป้าหมายทุกเซกเมนต์
“ปีนี้บริษัทแม่ตั้งยอดขายไว้ในประเทศไทยไทยกว่า 2 ล้านเครื่อง และต้องสร้างมาร์เก็ตแชร์ให้ได้
30% เป็นโจทย์ที่ฝ่ายการตลาดต้องมานั่งวางแผนเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้”
เป้าหมายทางการตลาดของโมโตโรล่าวางไว้ 3 ด้านหลัก ได้แก่
1. วินเดอะเน็กซ์เจนเนอเรชั่น ด้วยการเป็นแบรนด์ที่ทันสมัย ดีไซน์สวย ฟังก์การใช้งานที่ง่ายขึ้น
2.การสร้างแบรนด์ให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น
3.การสร้างความสัมพันธ์ความพึงพอใจสูงสุดให้กับดีลเลอร์ ผู้ขาย และลูกค้าผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ
ในการทำให้บรรลุเป้าหมายทางการตลาดที่วางไว้นั้น ฝ่ายการตลาดต้องเดินตามแผนที่วางไว้
คือ
1.การที่โมโตโรล่ามีโปรดักส์ทั้งที่อยู่ในตลาดและกำลังจะเปิดตัวในปีนี้อีก 7 รุ่น
นั้นจะเจาะเข้าไปทุกกลุ่มความต้องการ โดยแบ่งกลุ่มลูกค้าตามลักษณะการใช้งาน ประกอบด้วย
Personal เบสิก Personal Fun สมาร์ทโฟนบิสซิเนส และสมาร์ทโฟน Personal
2.โปรดักส์ของโมโรโตล่าในปีนี้จะมีราคาที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ ตามความพึงพอใจในการใช้งาน
ทางบริษัทเน้นเรื่องกลยุทธ์ราคาในการแข่งขัน
3.โมโตโรล่าเน้นเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์ เห็นได้จากการ ที่โมโตโรล่าเซ็นสัญญากับทางเอ็มทีวีมูลค่าถึง
25 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อนำคอนเทนต์ด้านดนตรีมาพัฒนาเป็นบริการให้กับลูกค้า ซึ่งรวมถึงลูกค้าคนไทยด้วย
“เราพยายามที่ทำให้โมโตโรล่าเป็นทุกสิ่งที่ทุกอย่างสำหรับคนไทย แบรนด์โมโตโรล่าจะไม่ใช่แบรนด์เฉพาะโทรศัพท์รุ่นคุณพ่อคุณแม่อีกต่อไป
แต่จะขยายเข้าไปทุกกลุ่มทุกเซกเมนต์ในตลาด”
การสร้างแบรนด์ให้เกิดขึ้นทั่วประเทศ ทางโมโตโรล่าเตรียมกิจกรรมโรดโชว์ตามสถานที่ต่างๆ
ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ซึ่งมีการเริ่มไปบางแล้ว อาทิ เซ็นทรัลพระราม 2 เซ็นทรัลปิ่นเกล้า
และอุดรธานี ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี กำลังจะจัดกิจกรรมเพิ่มขึ้นในหาดใหญ่ พิษณุโลก
และเชียงใหม่
ด้านนายพีระพล ฉัตรอนันทเวช ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและผลิตภัณฑ์กลุ่มอุปกรณ์สื่อสารส่วนบุคคล
บริษัท โมโตโรล่า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การที่โมโตโรล่าโฟกัสที่มุ่งเน้นไปสู่ยังส์เจนเนอเรชั่นยังต้องมีปัจจัยและองค์ประกอบด้านต่างๆ
เข้ามาช่วยเสริม ทางบริษัทได้เปิดเว็บไซต์ภาษาไทยขึ้นอีกครั้งหลังมีการทำและหยุดไป
เพื่อเป็นจุดกระแสข่าวสารประชาสัมพันธ์ต่างๆ ของโมโตโรล่า ซึ่งต่อไป จะมีการเว็บไซต์นี้ให้เป็นช่องทางหนึ่งทางการตลาดในรูปแบบอินเตอร์แอคทีฟ
นอกจากนี้ยังมีการนำรูปแบบของสำเร็จของมายโมบายซอฟต์ ที่เกิดขึ้นในจีนและฮ่องกงในเรื่องของการดาวน์โหลดมาให้ลูกค้าใน
ประเทศไทยได้สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ เทรนด์ดังกล่าวประสบ ความสำเร็จอย่างมาก เพราะปัจจุบันเรื่องของดาวน์โหลด
ไม่ว่าจะเป็นภาพ ริงโทน หรือคอนเทนต์ต่างๆ ของโมโตโรล่าถูกพัฒนาให้แตกต่างจากบริษัทคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด
ส่วนการพัฒนาคอนเทนต์ภายในประเทศทางบริษัทได้จับมือกลุ่มเจ้าของคอนเทนต์หลัก 5
ราย ได้แก่ จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ อาร์เอส โซนี่ บีอีซีเทโร และป็อปพอร์ทัลไซต์ เนื่องจากทางบริษัทกำลังพิจารณาว่าคอนเทนต์ชนิดไหนตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้ามากที่สุด
ก็จะพัฒนาเป็นบริการออกมา และในอนาคตจะมีการเพิ่มพันธมิตรให้มากขึ้นด้วย
“เราต้องการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ใช้โมโต ในช่วงแรกของการให้บริการจะเป็นการเปิดให้บริการฟรี
เพราะช่วงหนึ่งต้องรอการเชื่อมต่อระบบบิลลิ่งของโอเปอเรเตอร์แต่ละราย ทั้งเอไอเอส
ดีแทคและออเร้นจ์ให้พร้อมเสียก่อน จึงจะพิจารณาเรื่องของการเรียกเก็บค่าบริการ”
ที่สำคัญในปัจจุบันโมโตโรล่ามีการร่วมการทำงานกับผู้ให้บริการ โทรศัพท์เคลื่อนที่อย่างใกล้ชิด
ซึ่งผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทต่อไปในอนาคตจะไม่ได้ซัพพอร์ตลูกค้าผู้ใช้ทั่วไปเพียงอย่างเดียว
แต่จะมีการพัฒนาโซลูชั่นที่รองรับความต้องการของกลุ่มคอร์ปอเรท
ด้านการทำตลาดร่วมกับช่องทางการจัดจำหน่ายของโมโตโรล่านั้น ทางบริษัทพยายามที่สร้างแบรนด์ได้ควบคู่กับตัวแทน
3 รายของ บริษัท ทั้งเอ็มลิงค์ ยูดี และออเร้นจ์ ตามแผนการตลาดนั้นจะมีการออกแคมเปญร่วมกันอย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีการตั้งโมโตคลับเพื่อเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะกลุ่มผู้ใช้โมโตโรล่า เนื่องจากในการสำรวจยอดผู้ใช้โทรศัพท์โมโตปัจจุบันพบว่ามีอยู่ประมาณ
3-4 ล้าน ประกอบกับลูกค้าใหม่ที่กำลังเพิ่มขึ้นในปีนี้ ทำให้บริษัทมีจำนวนผู้ใช้จำนวนมากและมีส่วนแบ่งทางการตลาดมาก
การสร้างความแตกต่างของโมโตคลับจะช่วยให้ลูกค้ามีความ สัมพันธ์ที่ดีกับโมโตโรล่าและอยู่กับแบรนด์นี้ไปตลอด
ซึ่งรูปแบบ ของกิจกรรม เช่น การจัดคอนเสิร์ต กิจกรรมด้านมิวสิค มูวี่ส์ และอื่นๆ
คาดว่าจะเริ่มต้นได้ในเร็วๆ นี้
“ณ วันนี้โมโตเป็นอันดับสองในตลาด เราต้องการที่จะรักษาความ เป็นอันดับสองให้แข็งแรง
เราจะเริ่มให้มีผู้ใช้เพิ่มจำนวนมากยิ่งขึ้น สร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า และให้ลูกค้าอยู่กับเราไปอย่าง
ยาวนาน คือยุทธศาสตร์ที่โมโตโรล่าได้วางไว้สำหรับปีนี้” นายวิทการกล่าวและว่า
ในแผนยุทธศาสตร์ที่โมโตโรล่าได้วางไว้จะอาศัยช่วงระยะเวลา 1-2 ปีนี้ในการปรับภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์โมโตโรล่าใหม่
การรักษาอันดับสองของตลาดอย่างแข็งแรง จึงเป็นหนึ่งในแผนก่อนที่จะก้าวขึ้นสู่ผู้นำอันดับหนึ่งในตลาด
เพราะเราต้องการที่จะไปให้ถึงในจุดนั้น แต่ยังต้องอาศัยระยะเวลา และการดำเนินการตลาดแผนการทาง
ธุรกิจและรูปแบบการทำตลาดที่วางไว้ให้ประสบความสำเร็จก่อน