Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน3 พฤษภาคม 2550
KMCดึงทุนใหม่แก้หนี้ใส่เงินก้อนโตฟื้นธุรกิจ             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน)

   
search resources

กฤษดามหานคร, บมจ.
Real Estate
ธเนศวร์ สิงคาลวณิช




บิ๊กกฤษดาฯชี้แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ กรณีขายหุ้นเพิ่มทุน 1,500 ล้านหุ้น หวังนำเงินใช้หนี้สถาบันการเงิน เพิ่มสภาพคล่องขยายโครงการใหม่ ระบุ สถานการณ์เศรษฐกิจขณะนี้ไม่สามารถสร้างยอดขาย เพื่อทำกำไรใช้หนี้แบงก์ได้ทันตามกำหนดสัญญาชำระหนี้ พร้อมแจงประวัติ4นักลงทุน ผู้ถือหุ้นรายใหม่ในบริษัท ไม่ใช้บริษัทนิติบุคคล

นายธเนศวร์ สิงคาลวณิช กรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ KMC ได้ชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์ฯถึงกรณีการขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง(PP) จำนวน 1,500 ล้านหุ้นให้แก่กลุ่มผู้ลงทุนที่ชื่อ Sophast ว่า กลุ่มดังกล่าวเป็นชื่อเรียกของกลุ่มนักลงทุนที่เข้ามาซื้อหุ้นของบริษัท ซึ่งประกอบด้วยบุคคล4 ราย มิใช่บริษัทนิติบุคคล โดยนางสาวพรณรัตน์ โรจน์ชูพันธุ์ ปัจจุบันเป็นพันธมิตรกับกลุ่มซีเมนท์ของประเทศเยอรมนีและบริษัทอินซิกเนียร์ และเป็นบริษัทที่ดำเนินการจัดตั้งระบบของเครื่องมือและอุปกรณ์มือถือในประเทศไทย ,นางสาวสมลักษณ์ โสภาเสถียรพงศ์ ปัจจุบันประกอบธุรกิจส่วนตัวในประเทศฮ่องกง ลักษณะธุรกิจคือ การดูแลการลงทุนและให้คำปรึกษาการลงทุนในต่างประเทศ , นายวิรุฬห์ วงศ์แสงนาค ดำเนินธุรกิจการลงทุนในกิจการอื่นและให้เช่าอาคาร และนายKhamseng Khamkoon เป็นนักลงทุนต่างประเทศ เคยดำรงตำแหน่ง CEO New Cyber International and Beijing ISM Internet Development Company และเป็นเจ้าของ Summer Investment Ltd.

โดยสาเหตุหลักของการขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ บริษัทกฤษดาฯ ต้องการนำเงินมาชำระหนี้และเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน เนื่องจาก บริษัท มีภาระหนี้คงเหลือตามสัญญาปรับโครงสร้างกับสถาบันการเงิน 1,797 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินต้นประมาณ 1,300ล้านบาท และดอกเบี้ยค้างจ่าย 497 ล้านบาท ซึ่งต้องจ่ายชำระทั้งหมดให้เสร็จสิ้นภายในปี 2555 ในขณะที่บริษัทฯ มีภาระหนี้เงินต้นประมาณ 515 ล้านบาท และดอกเบี้ยค้างจ่ายประมาณ 399 ล้านบาทที่ครบกำหนดชำระในปี 2550 โดยตามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ หากบริษัทฯไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด บริษัทฯจะต้องรับผิดชอบชำระหนี้คืนเต็มจำนวนของเงินต้นและดอกเบี้ยในมูลหนี้เดิมก่อนการลงนามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้

อย่างไรก็ตาม จากสภาพสถานการณ์และเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศที่ชะลอตัวตั้งแต่ปี 2549 ส่งผลให้บริษัทฯ มียอดขายโครงการในปัจจุบันมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนม.ค.2549 และจากการพิจารณาประมาณการรายได้ของบริษัทฯ และรายงานงบประมาณการปี 2550 หากบริษัทฯ ไม่สามารถเพิ่มรายได้จากการขายอสังหาฯในโครงการต่างๆ ที่มีอยู่เพื่อเพิ่มกระแสเงินสด จะส่งผลให้ไม่มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเพียงพอต่อการจ่ายชำระหนี้ที่ครบกำหนดต้องจ่ายชำระในปี 2550

ดังนั้นบริษัทฯ จำเป็นต้องทำการระดมทุนจากภายนอกเพิ่มเติม ซึ่งจากความต้องการแก้ปัญหาเรื่องการขาดสภาพคล่อง บริษัทฯได้ระดมทุนจากภายนอกเพิ่มเติม ในเดือน พ.ย.49 ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติ เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นสามัญเดิม และผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิเดิมจำนวน 527,812,374 หุ้น ในราคาหุ้นละ 1.50 บาท เพื่อนำเงินมาพัฒนาโครงการขยายกิจการ และเป็นทุนหมุนเวียน โดยการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวมีจำนวนหุ้นที่เหลือจากการจองซื้อโดยผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 177,353,062 หุ้น หรือประมาณ 34 %ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่ออก

จากสถานการณ์ดังกล่าว และการปฏิบัติตามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินหลายสถาบัน ทำให้บริษัทฯไม่สามารถระดมทุนเพิ่มเติมโดยการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน เพื่อใช้เสริมสภาพคล่องได้ รวมถึงบริษัทฯประสบปัญหาในการจัดหาแหล่งเงินกู้ยืมใหม่ มาเพื่อการจ่ายชำระคืนหนี้ตามสัญญาปรับโครงสร้างเดิม (Refinance) ได้ ทำให้บริษัท อาจประสบปัญหาเรื่องไม่มีผู้สนใจจะซื้อหุ้นเพิ่มทุน

ดังนั้น เพื่อให้บริษัทฯ สามารถจ่ายชำระหนี้ที่ครบกำหนดชำระตามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ได้ จึงเลือกแนวทางระดมทุนประมาณ 1,500ล้านบาทโดยการจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนแก่บุคคลในวงจำกัดและ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบันในราคาไม่ต่ำกว่าหุ้นละ1บาทซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดในช่วงที่บริษัทมีมติของคณะกรรมการ ซึ่งการเพิ่มทุนดังกล่าวจะทำให้บริษัทฯไม่ผิดนัดชำระหนี้ (Default) และเป็นการเพิ่มสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจด้วย

ทั้งนี้ หลังจากที่บริษัทเพิ่มทุนดังกล่าวแล้ว จะทำให้ นางสาวนพรัตน์ โรจน์ชูพันธ์ ถือหุ้นในสัดส่วน799,999,999 หุ้นคิดเป็น33.64% ,นางสาวสมลักษณ์ โสภาเสถียรพงศ์ ถือหุ้นในสัดส่วน 150 ล้านหุ้น คิดเป็น 6.31% , นายวิรุฬ วงศ์แสงนาค ถือหุ้นในสัดส่วน 540 ล้านหุ้น คิดเป็น22.71% และนาย Khamseng Khamkoon ถือหุ้นในสัดส่วน 10 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.42% และจะทำให้โครงสร้างทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ 7,392,015,184 บาท จากเดิมที่มีทุนจดทะเบียน4,349,927,226 บาท

นายธเนศวร์กล่าวว่า การขายหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้ บริษัทจะได้รับเงินกู้จำนวน 1,403 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินกู้ 1,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยไม่เกินกว่า MLR ส่วนหุ้นกู้แปลงสภาพจำนวน 403 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 1.75% ต่อปี อายุ 3 ปีทำให้บริษัทได้รับเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยที่ต่ำมาก เมื่อเทียบกับเงินกู้ที่บริษัทได้รับมาในอดีต ทำให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทต่ำลง ส่งผลดีต่อความสามารถในการแข่งขัน

และยังทำให้บริษัทสามารถปฎิบัติตามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้ได้อย่างครบถ้วน ไม่ทำให้หนี้ในส่วนดอกเบี้ยที่ได้รับลดหย่อนกลับมาเป็นหนี้ปกติ โดยคาดว่าการเพิ่มทุนครั้งนี้ น่าจะได้รับการลดหนี้สำหรับเจ้าหนี้ที่บริษัทจะจ่ายชำระหนี้ เนื่องจากเงื่อนไขของผู้ร่วมทุนบริษัทจะต้องปรับโครงสร้างหนี้ บริษัทจะต้องได้รับการตัดหนี้บางส่วนจากเจ้าหนี้ ทำให้บริษัทมีกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ ที่สำคัญภาพพจน์ของบริษัทจะดีขึ้น   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us