Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน3 พฤษภาคม 2550
“ชาเขียวพร้อมดื่ม”อ่อนแรงผู้ผลิตตบเท้าปั้นสินค้าใหม่แทน             
 


   
www resources

โฮมเพจ ยูนิ-เพรสซิเดนท์ (ประเทศไทย)

   
search resources

ยูนิ-เพรสซิเดนท์, บจก.
Green Tea




ทัพเครื่องดื่มถล่มชาเขียวขาลง พาเหรดปั้นชาพร้อมดื่มรูปแบบใหม่เสียบแทน ยูนิลีเวอร์ ส่งมิลค์ ที ชาชงผสมนม ยูนิ-เพรสซิเดนท์ คลอดชานมพร้อมดื่มรสข้าวบาร์เลย์ ด้านโออิชิผู้นำตลาดชาเขียวสู้ยิบตา กระทุ้งการดื่มรอบด้านหวังตลาดหวนคืน

สภาพตลาดชาเขียวที่ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2548 จากมูลค่ามากกว่า 5,000ล้านบาท กระทั่งปัจจุบันตลาดชาเขียวเหลือมูลค่าเพียง 3,000ล้านบาท ทว่าในภาวะที่ชาเขียวอยู่ในช่วงขาลง ผู้ประกอบการรายอื่นๆ ต่างฉกฉวยโอกาสอันดีนี้เปิดตัวชาพร้อมดื่มในรูปแบบต่างๆ นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมานี้

รายงานความเคลื่อนไหวล่าสุด บริษัทยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง เปิดตัวชาผงซองรูปแบบใหม่”มิลค์ ที” ลงสู่ตลาด โดยเป็นชาผสมนมสำหรับชงดื่มทั้งในรูปแบบร้อนและเย็น เพิ่มเติมจากเดิมที่มีเพียงชาชนิดผงรสชาติออริจินัลเท่านั้น นับว่าเป็นการเคลื่อนไหวทางการตลาดครั้งแรกในรอบหลายปี สำหรับลิปตันภายใต้เงื้อมมือของบริษัทยักษ์อย่างยูนิลีเวอร์

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะบริษัทดังกล่าว มีนโยบายรุกตลาดอาหารมากขึ้นตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ภายใต้กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแบรนด์เบสท์ฟู้ดส์,คนอร์ ,วอลล์ และลิปตัน โดยนโยบายหลักของการรุกตลาดอาหารเน้นหนักการครีเอต ดีมานต์ใหม่ๆ สอดคล้องกับวิถีชีวิตของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่มีเวลาทำอาหารเอง และต้องการบริโภคอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและมีน้ำตาลน้อย

ยูนิฯ ปั้นชารสข้าวบาร์เลย์

ด้านบริษัท ยูนิ-เพรสซิเดนท์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชาเขียวพร้อมดื่มยูนิฟ กรีนที ได้เคลื่อนไหวด้วยการเปิดตัวชาพร้อมดื่มรสข้าวบาร์เลย์ ขนาด 350 มล.ราคา 20 บาท โดยเป็นชาระดับพรีเมียม เริ่มวางจำหน่ายผ่านช่องทางร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นเช่นกัน ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้บริษัทดังกล่าวหันมาขยายโปรดักส์ไลน์ใหม่ อาทิ ชาพร้อมดื่ม เนื่องจากตลาดชาเขียวพร้อมดื่มมีอัตราการเติบโตที่น้อยลง ในขณะที่ ยูนิฟ กรีน ที เป็นสินค้าเรือธงอันดับ 2 สร้างรายได้ให้กับบริษัทถึง 30% รองจากกลุ่มน้ำผักและผลไม้มีสัดส่วนรายได้ถึง 40% ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มให้พลังงาน ยูนิฟ-ไอเฟิร์ม 10% กลุ่มผลิตภัณฑ์กาแฟอา-ฮ่า 10% และผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 10%

เป๊ปซี่ฉวยโอกาสปั้นลิปตันชาแดง

นายชาลี จิตจรุงพร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดบริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯได้เปิดตัวสินค้าใหม่ของชาลิปตัน คือ ลิปตันชาแดงเพื่อเป็นการสร้างทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภคพร้อมกับเป็นการสร้างสีในในตลาดด้วย และเป้าหมายสำคัญ เพื่อเป็นการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดของลิปตันให้มากขึ้นอีก

ปีที่ผ่านมาตลาดชาโดยรวมมีอัตราการเติบโตที่ลดลง ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาระยะหนึ่งแล้วโดยปีที่แล้วตลาดชารวมเหลือพียง 3,000 ล้านบาทเท่านั้น จากปี 2548 ที่มีตลาดรวมมากกว่า 5,000 ล้านบาท ในขณะที่ตลาดรวมชาเขียวเองนั้นซึ่งเป็นสัดส่วนมากที่สุดในตลาดชารวมถึง 80% ก็มีการปรับตัวลดลงมากถึง 36% เมื่อปีที่แล้ว

“ตลาดชาดำกลับเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมั่นคงเมื่อเทียบกับตลาดอื่น โดยเฉพาะชาเขียวที่บูมอย่างมากเมื่อช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา โดยปีที่แล้วชาดำเติบโต 10% ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่บริษัทฯ ได้ทำการตลาดกับผลิตภัณฑ์ชาลิปตันมาอย่างต่อเนื่องด้วย”

โออิชิพยายามปลุกตลาดชาเขียว

ภาวะดังกล่าวในฐานะโออิชิ ผู้นำตลาดชาเขียวพร้อมดื่มครองส่วนแบ่ง 56% ถึงกลับต้องควักกลยุทธ์การตลาดออกมากระตุ้นการดื่มของผู้บริโภค ในช่วงหน้านี้ชาเขียวพร้อมดื่มโออิชิ ส่งบรรจุภัณฑ์ 2 ขนาด ได้แก่ ขนาด 1ลิตร เพิ่มเติมลงมาโดยเป็นชาเขียวชนิดเข้มข้นเข้าไปอีก 20% เพื่อสร้างพฤติกรรมการดื่มในรูปแบบออนเดอะร็อก คือ ดื่มชาเขียวโดยเติมน้ำแข็งสำหรับดื่มที่บ้านและทั้งครอบครัว จากเดิมที่ผ่านมาการดื่มชาเขียวด้วยตัวบรรจุภัณฑ์ขวดเพ็ท และกล่องยูเอชทีเน้นความสะดวกสบาย ทำให้กลุ่มเป้าหมายมักจะมีไลฟ์สไตล์ดื่มนอกบ้านเป็นหลัก อีกทั้งยังส่งบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็กขนาด 160 ซีซี ราคา 6บาท ทั้งนี้เพื่อขยายฐานลูกค้าในต่างจังหวัดมากขึ้น เนื่องจากกำลังการซื้อลดลง โดยจะจำหน่ายผ่านทางตู้แช่ร้านค้าโชวห่วย   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us