|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ธปท.เผยไตรมาสแรกของปีนี้ระบบแบงก์พาณิชย์กลับมีกำไรสุทธิเป็นบวก หลังไตรมาสก่อนขาดทุนจากภาระการกันสำรองตามมาตรฐานบัญชีใหม่ (IAS39) คาดแนวโน้มในอนาคตยังคงชะลอตัวอยู่ เหตุภาวะเศรษฐกิจชะลอ-ดอกเบี้ยขาลง-ภาระการกันสำรองตามมาตรฐานใหม่ ซึ่งคาดจะกดดันแบงก์ไปจนถึงสิ้นปีนี้ โดยเฉพาะแบงก์ที่มีภาระหนี้สูงและที่ยังกันสำรองยังไม่ครบ
รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) แจ้งว่า ธปท.ได้รายงานผลประกอบการของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ พบว่า ธนาคารพาณิชย์ไทยกลับมามีผลกำไรสุทธิเป็นบวก หลังจากที่ไตรมาสก่อนต้องประสบกับการขาดทุนจากภาระการกันสำรองที่เพิ่มขึ้นตามการปฏิบัติตามมาตรฐานบัญชีสากล(IAS39) อย่างไรก็ตาม แม้กำไรของธนาคารพาณิชย์ในไตรมาสนี้จะปรับตัวดีขึ้น แต่ยังคงมีทิศทางชะลอตัวลดลง 24.2% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมา การชะลอตัวของสินเชื่อ และภาระการกันสำรองตาม IAS 39 ที่ยังคงมีการบังคับใช้อยู่เป็นสำคัญ
ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2550 ธนาคารพาณิชย์ไทยมีกำไรจากการดำเนินงาน 35,700 ล้านบาท โดยรายได้ดอกเบี้ยชะลอลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน เนื่องจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้รายรับดอกเบี้ยทั้งจากสินเชื่อและการลงทุนในหลักทรัพย์ลดลงเร็วกว่ารายจ่ายดอกเบี้ยเงินฝาก นอกจากนี้ การขยายตัวของสินเชื่อที่ชะลอลงตามภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนตัวก็ทำให้ความสามารถในการทำกำไรจากสินเชื่อชะลอลงเช่นกัน อย่างไรก็ตาม รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยขยายตัวในเกณฑ์ดีจากรายได้ค่าธรรมเนียมเงินโอนและกำไรจากการปริวรรตเป็นสำคัญ
สำหรับกำไรสุทธิของธนาคารพาณิชย์ไทยในไตรมาสแรกของปีนี้อยู่ที่ 19,900 ล้านบาท แม้จะปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิจากภาระการกันสำรองที่สูงกว่าปกติ แต่ก็อยู่ในทิศทางที่ชะลอตัว โดยกำไรสุทธิปรับลดลง 24.2% จากระยะเดียวกันของปีก่อน อันเป็นผลสำคัญจากการชะลอตัวของกำไรจากการดำเนินงานตามการอ่อนตัวของภาวะเศรษฐกิจและการปรับตัวในช่วงวัฏจักรดอกเบี้ยขาลงและการที่ธนาคารไทยพาณิชย์ยังคงมีภาระการกันสำรองตามมาตรฐานบัญชีสากล (IAS39) อยู่บ้าง
อย่างไรก็ตาม คาดว่ากำไรสุทธิของธนาคารพาณิชย์ไทยจะยังได้รับผลกระทบจากการกันสำรองตามมาตรฐานบัญชีดังกล่าว ต่อไปอีกจนถึงสิ้นปี 2550 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้เต็มที่ โดยเฉพาะกำไรของธนาคารพาณิชย์ที่มีสินทรัพย์ด้อยคุณภาพในจำนวนสูงและยังกันสำรองไม่ครบถ้วน
อนึ่ง ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2550 มีธนาคารพาณิชย์เพื่อรายย่อย (ธย.) เพิ่มขึ้นใหม่อีก 2 แห่ง คือ ธย.ไทยเครดิต และธย.เอไอจี ขณะที่ธนาคารที่คืนใบอนุญาตมีจำนวน 1 แห่ง คือ ธย.จีอี มันนี่ ที่ปิดไปรวมกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา ทำให้ระบบธนาคารพาณิชย์ไทยมีธนาคารพาณิชย์รวม 18 แห่ง โดยเป็นธนาคารพาณิชย์เพื่อรายย่อย 3 แห่ง
|
|
|
|
|