ไอ.พี.เทรดดิ้ง ทุ่มงบ 100 ล้านบาท ขยายกำลังการผลิตไฮยีน รองรับแผนรุกทั้งในและต่างประเทศ พร้อมทุ่มงบตลาด 300 ล้านบาทลุยเต็มที่ เน้นการขยายตลาดต่างจังหวัด อัดกิจกรรมมากขึ้น ส่วนตลาดต่างประเทศเตรียมลงทุนสร้างโรงงานและออฟฟิศที่เวียดนาม ลุยตลาดใหม่อินโดนีเชีย

นายธิติ ธานศวรกุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไอ.พี. เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ภายในบ้านหลายแบรนด์เช่น ไฮยีน , วิช , วิกซอล ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายภายใต้แบรนด์ แดนซ์ ,โฟกัส และผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ไอวี่ เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯมีแผนการลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท ในประเทศ ในส่วนของกลุ่มน้ำยาปรับผ้านุ่ม ไฮยีน โดยจะซื้อเครื่องจักรเพื่อเพิ่มการผลิตใหม่ เพื่อรองรับกับการรุกตลาดทั้งในและต่างประเทศ

ทั้งนี้เป็นการขยายกำลังผลิตในโรงงานเดิม เพราะบริษัทฯยังไม่มีแผนการลงทุนสร้างโรงงานเพิ่มขึ้นอีก โดยโรงงานเดิมตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมบางปูยังมีศักยภาพเพียงพอรองรับการขยายตัวได้อีกหลายปี แต่ทั้งนี้ภายในอีก 5 ปีจากนี้ หากกำลังผลิตไม่เพียงพรองรับการขยายตัวก็มีแผนที่อาจจะเพิ่มโรงงานใหม่ได้

สำหรับแผนการทำตลาดไฮยีนในปีนี้ มีแผนที่จะขยายฐานตลาดไปยังตลาดภูมิภาคมากขึ้นอีก ทั้งในแง่ของการเพิ่มช่องทางจำหน่าย การทำตลาด ซึ่งได้กระจายสินค้าไปยังกลุ่มร้านค้าย่อยในต่างจังหวัดมากขึ้น ซึ่งตรงนี้ได้ส่งผลให้ช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาของปีนี้ ยอดขายของไฮยีนมีอัตราการเติบโตมากขึ้นกว่า 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งๆที่ภาวะเศรษฐกิจจะยังไม่ค่อยดีเท่าใดนัก

อีกเหตุผลหนึ่งนอกจากการขยายช่องทางเพิ่มขึ้นแล้ว ยังเป็นผลมาจากการที่บริษัทฯได้จัดกิจกรรมทางการตลาดมากขึ้นด้วยนั่นเอง เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้นเพื่อส่งผลต่อเป้าหมายที่ต้องการเพิ่มยอดขายในต่างจังหวัดมากขึ้นด้วย ซึ่งปีนี้ทั้งปีบริษัทฯตั้งงบการตลาดไว้ประมาณ 300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 20% จากปีที่แล้ว ซึ่งถือว่าไม่น้อยเลย

สำหรับแผนการรุกตลาดต่างประเทศนั้น ที่ผ่านมาก็มีการทำมาอย่างต่อเนื่องและได้รับความสำเร็จอย่างมาก ในปีนี้ก็มีแผนที่จะขยายตลาดส่งออกอีก โดยจะเน้นไปที่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งอยู่ใกล้กับไทยสามารถทำตลาดและบริหารได้ง่าย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เคยมีการส่งน้ำยาไฮยีนไปจำหน่ายในประเทศเพื่อนบ้านบ้างแล้วเช่น เวียดนาม กัมพูชา เป็นต้น ซึ่งปรากฏว่าตลาดให้การตอบรับอย่างดี

โดยเฉพาะในตลาดประเทศเวียดนามนั้น ถือว่ามียอดขายดีมาก ทำให้บริษัทฯเตรียมขยายธุรกิจด้วยการจะลงทุนสร้างออฟฟิศและโรงงานที่เวียดนาม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาและเตรียมการ

ขณะที่ตลาดใหม่ๆในภูมิภาคนี้ที่จะขยายใหม่เช่น อินโดนีเชีย ซึ่งถือเป็นประเทศที่มีตลาดใหญ่ มีประชากรจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรในท้องถิ่น ซึ่งคาดว่าจะสามารถได้ข้อสรุปและเริ่มดำเนินการส่งออกน้ำยาปรับผ้านุ่มไฮยีนได้ในช่วงปลายปีนี้แน่นอน

นายธิติกล่าวว่า จากแผนการดำเนินงานทั้งการลงทุนเพิ่มกำลังผลิต การขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ คาดว่าผลการดำเนินงานในส่วนของกลุ่มผลิตภัณฑ์ไฮยีนในไตรมาสที่เหลือจากนี้ จะมีอัตราการเติบโตด้านรายได้ไม่น้อยกว่า 15% ซึ่งเป็นอัตราเดียวกับการเติบโตช่วงไตรมาสแรกปีนี้ และทั้งปีคาดว่าบริษัทฯจะมีรายได้รวมเติบโต 15% จากรายได้รวมปีที่แล้วที่มีประมาณ 1,500 ล้านบาท ซึ่งรายได้ปีที่แล้วต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อยอันเนื่องมาจากผลกระทบทางเศรษฐกิจ