เทคโนโลยีและผลกระทบ
Smart Mob หมายถึงกลุ่มคนที่ติดต่อสัมพันธ์กัน และมีการใช้เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าในวิถีทางใหม่ๆ
ซึ่งส่งผลกระทบอย่างสำคัญต่อวิถีชีวิตของผู้คน นับตั้งแต่ Howard Rheingold
ผู้ ประพันธ์ได้รู้จัก SMS หรือการส่งข้อความสั้นผ่านโทรศัพท์มือถือเป็นครั้งแรกที่หัวมุมถนนสายหนึ่งในกรุงโตเกียว
เมื่อปี 2000 เขาก็เริ่มสำรวจตรวจสอบบรรดาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในทุกวันนี้
รวมถึงผลกระทบของมันที่จะเกิดขึ้นตลอด 10 ปีต่อจากนี้
ดังนั้น Smart Mobs จึงเป็นการเจาะลึกลงไปถึงการเปลี่ยน แปลงทางเทคโนโลยีขนานใหญ่ต่างๆ
ที่กำลังเกิดขึ้นในโลกของเรา และการที่ชิป Internet ไร้สาย SMS และความก้าวหน้าอื่นๆ
ในเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ กำลังผลักดันผู้คนไปในทิศทางที่ไม่มีใครคาดคิดถึง
การอุบัติขึ้นของวัฒนธรรมย่อย
เมื่อว่าด้วยเรื่องการส่ง SMS ผ่านโทรศัพท์มือถือ Rheingold กล่าวว่า SMS
ไม่ได้เพียงนำไปสู่ "การอุบัติขึ้นของวัฒนธรรมย่อยๆ ทั้งในยุโรปและเอเชียเท่านั้น"
แต่การใช้ SMS เคยเป็นส่วนหนึ่งของการโค่นล้มรัฐบาลมาแล้ว
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 ปีมานี้ ต่างถูก
Rheingold นำมาตรวจสอบ ในแง่ของการที่ถูกผู้ใช้นำมาใช้ในวิถีทางใหม่ๆ Rheingold
ยังได้อธิบายศัพท์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นมาจากเทคโนโลยีใหม่ๆ เหล่านั้น ซึ่งภายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าก็จะกลายเป็นศัพท์ที่พวกเราจะคุ้นเคยต่อไป
จาก smart room ถึง digital city
Rheinglod เขียนไว้ว่า การใช้ "peer-to-peer (p2p) network" เดี๋ยวนี้
ก้าวหน้าไปไกลกว่าแค่การแลกเปลี่ยนไฟล์เพลง แต่ได้ก้าวเข้าไปสู่ครรลองแห่งการค้นหาการติดต่อสื่อสารที่มาจากต่างดาว
และการค้นหาวิธีรักษาโรคร้ายต่างๆ
นอกจาก p2p แล้ว Rheingold ยังกล่าวถึงความก้าวหน้า ทางเทคโนโลยีอีกหลายอย่าง
ได้แก่ "smart room" คือห้องที่สามารถติดต่อสื่อสารกับคนที่อยู่ในห้องได้ "sentient object" คือวัตถุสิ่งของที่สามารถติดต่อสื่อสารและรับส่งข้อมูลข่าวสารกับคนได้ "คอมพิวเตอร์สวมใส่" คือเสื้อผ้าที่ทำหน้าที่เป็นคอมพิวเตอร์ได้และ สามารถติดต่อสื่อสารกับผู้สวมใส่ได้
และสุดท้ายคือ "digital city" เมืองดิจิตอลที่มีความสามารถในการติดต่อสื่อสารและรับส่งข้อมูล
อย่างล้นเหลือ
ความก้าวหน้าทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ล้วนแต่ต้องขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีคลื่นวิทยุ
คลื่นอินฟราเรด และเทคโนโลยีด้านการส่งสัญญาณอื่นๆ ที่จะทำหน้าที่เป็นสื่อทำให้ชิปสามารถส่งข้อมูลไปยังคนอื่นๆ
หรือเครื่องมือต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะอยู่ใกล้เพียงในห้องเดียวกัน หรือไกลขนาดอีกซีกโลกหนึ่งก็ได้
นอกจากนี้ Rheingold ยังสำรวจตรวจสอบพัฒนาการของระบบบันทึกข้อมูล และอนาคตของระบบพิสูจน์ความน่าเชื่อถือของบุคคลออนไลน์
ซึ่งมีความก้าวหน้ามาเป็นลำดับและกำลังจะกลายเป็นคลังข้อมูลที่ "นอกจากจะสามารถพิสูจน์ความน่าเชื่อถือของรหัสเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ
และประวัติเครดิตของคุณได้แล้ว ยังสามารถจะทำนายรสนิยมด้านดนตรีและพิสูจน์ความสามารถในการเลือกไวน์ของคุณได้อีกด้วย"
นั่นคือการนำเทคโนโลยีมาใช้ในแง่ของการร่วมมือกัน ซึ่งเราได้เห็นมาแล้วในเว็บไซต์อย่าง
eBay และ Amazon ระบบพิสูจน์ความน่าเชื่อถือของบุคคล ช่วยทำให้การทำธุรกรรมมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ระหว่างคนที่ไม่เคยรู้จักกันเลย
ไม่เคยแม้แต่ จะเห็นหน้าค่าตากัน กลายเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ใน eBay ส่วนระบบแนะนำหนังสือของ
Amazon สามารถบอกลูกค้าว่ามีหนังสือ และอัลบั้มเพลงใดบ้างที่ถูกซื้อไปโดยคนที่มีรสนิยมคล้ายๆ
กับคุณ
ด้านลบของเทคโนโลยี
นอกจากประโยชน์อเนกอนันต์ของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีข้างต้นแล้ว Rheingold
ยังระบุถึงด้านลบของมันด้วย เช่น การละเมิดความเป็นส่วนตัวและอิสรเสรีของบุคคลโดยรัฐและ
นักการเมืองฝ่ายตรงข้าม และการถูกนำไปใช้โดยผู้ก่อการร้าย และพวกมาเฟีย
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเกี่ยวกับการติดตามตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับประชาชน
ที่เข้มข้นขึ้นตามการเพิ่มสูงขึ้นของปริมาณการติดต่อสื่อสารออนไลน์ และผลกระทบของเครื่องมือสื่อสารทันสมัยต่างๆ
ที่กระทบต่อการทำงาน ครอบครัวและชีวิตในสังคมของคนเราอย่างลึกซึ้ง
Rheingold ได้ตีแผ่จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาสและอันตรายของเทคโนโลยีแบบเคลื่อนที่และพกพา
ซึ่งนับวันก็จะมีการใช้กันอย่างแพร่หลายขึ้นเรื่อยๆ พร้อมๆ ไปกับการระบุถึงผลกระทบต่อสังคมของเทคโนโลยีเหล่านี้
นอกจากนี้ เขายังได้กล่าวถึงลักษณะความสัมพันธ์ทางสังคมที่ต้องเปลี่ยนแปลงไป
อันเป็นผลโดยตรงมาจากการอุบัติขึ้นของเครือข่ายความสัมพันธ์ทางสังคมแบบใหม่ในโลก
cyberspace