สวนแวร์ซาย (Versailles) ในประเทศฝรั่งเศส สร้างขึ้นโดยกษัตริย์ Louis ที่
14 ใช้เวลาสร้างสรรค์ 7 ปี สวนที่เริ่มต้นจาก 250 เอเคอร์ กลายมาเป็น 15,000
เอเคอร์ ยังคงลักษณะของ Star pattern, มี strong Central Axial ที่เล็งไปยังห้องพระบรรทมของ "the Sun King" ที่พระองค์นับถือพระอาทิตย์เป็นสัญลักษณ์ประจำพระองค์ ซึ่งเป็นการแสดงถึงอำนาจของคนเหนือมนุษย์และเหนือคนทั่วๆ
ไป, มีรูปแบบทุกอย่างเป็น symmetrical ที่แสดงความสวยงามของสัดส่วนที่รับกันด้วยเหลี่ยมทรงเรขาคณิต
โดยมีน้ำพุ 14,000 แห่งตกแต่งอย่างรื่นรมย์
นั่นคือความอลังการของสวน Versailles
ความคาดไม่ถึงว่าจะมีใครอยากจะนำความอหังการ ยิ่งใหญ่ของสวน Versailles
มาสร้างให้เกิดขึ้นในเมืองไทยเราได้
แต่สิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นมาได้เราก็มักจะได้เห็นกันจนชินตาจนเป็นปกติกันอยู่เสมอ
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะเห็นสวน Versailles ในเมืองไทยของเรา ที่สำนักงานใหญ่ของการสื่อสารแห่งประเทศ
ไทย บริเวณถนนแจ้งวัฒนะ
เริ่มแรก ความคิดในการนำแบบสวนของ Versailles มาจัดสร้างเป็นสวนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ ในปี พ.ศ. 2535
เกิดขึ้นมาจากความคิดเบื้องต้นของ อัศวิน เสาวรส อดีตผู้ว่าการการสื่อสารแห่งประเทศไทย
ความคิดเช่นนี้ถ้าเกิดขึ้นในองค์กรอื่นคงเป็นเรื่องแปลก แต่เนื่องจากการสื่อสารแห่งประเทศไทย
มีผู้นำสูงสุดขององค์กรรุ่นแล้วรุ่นเล่า ล้วนแต่ร่ำเรียน มาจากสำนักซอร์บอนน์
ประเทศฝรั่งเศส เสียแทบทั้งสิ้น กลิ่นอายและลมหายใจในงานศิลปะ ทัศนคติ และรสนิยมแบบฝรั่งเศส
จึงอบอวลไม่จางหายไปจากการสื่อสารแห่งประเทศไทย
รูปแบบของสวน Versailles นั้นเป็น Formal style ใช้เส้นสายลายเรขาคณิตเป็นหลักในการปลูกต้นไม้
แม้แต่ความคิดดั้งเดิมของการจัดสร้างสวน Versailles ของกษัตริย์ Louis ที่
14 เองระหว่าง ค.ศ.1638-1715 เมื่อทรงครองราชย์ปี 1654 ความที่ทรงโปรดชีวิตกลางแจ้ง
ทรงใช้พระราชวังVersailles เป็นที่ล่าสัตว์เรียกว่าเป็น Cards house ของพระองค์และพระสหาย
เมื่อทรงครองราชย์อย่าง เป็นทางการจึงทรงรวบรวม สถาปนิก ศิลปิน มา สร้างอุทยาน
พระราชวัง โดยขยายพื้นที่ให้ใหญ่ขึ้น
เนื่องจากต้นแบบสวน Versailles สมัยนั้นยังนิยมในรูปแบบของ Italian Gardens
ที่ใช้รูปปั้น และน้ำพุเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของสวนมาเป็น ต้นแบบ กับการที่กษัตริย์
Louis ที่ 14 ถือเอาสัญลักษณ์ดวงอาทิตย์เป็นตราประจำพระองค์ จึงไม่น่าแปลกใจที่จะพบรูปปั้นเทพเจ้ากรีกคือ
Apollo สัญลักษณ์ของเทพแห่งดวงอาทิตย์ทั้งภายในและนอกพระราชวัง Versailles
สวนของ Versailles จึงเต็มไปด้วยรูปปั้นภายในสวนที่เน้น รูปปั้นเทพกรีก
น้ำพุ การจัดวางรูปปั้น น้ำพุ และสระน้ำ จะทำไว้ได้อย่างเหมาะเจาะ สวยงาม
ดอกไม้ที่ปลูกจะนิยมใช้สีแดงเป็นสีหลัก สีดอกไม้จะคำนึงให้สีเข้ากับสีเสาสีแดงทางเข้าวังและประตูด้านหน้าสีครีมเป็นหลักใหญ่
เล่ากันว่า ในสมัยกษัตริย์ Louis ที่ 14 ทรงพระชนม์ชีพอยู่จะทรงโปรดให้เปลี่ยนดอกไม้ในแปลงทุกวัน
ทรงโปรดความงามและกลิ่นหอมของดอกไม้มาก ไม่น่าแปลก ใจที่ทรงกล่าวกับข้าราชบริพารว่า "We feel asleep surrounded with the smell of tuberoses and woke up to
the scent of jasmine."
ความงามอันวิเศษแห่งสวนสวรรค์แห่งนี้คือแรงบันดาลใจที่ทำให้อัศวิน เสาวรส
ต้องการจำลอง สวน Versailles เพียงเสี้ยวหนึ่งมาอยู่ที่การสื่อสารแห่งประเทศไทย
ที่เนรมิตสวนสวยงาม 21.65 ไร่ ในปี 2535
หลักในการออกแบบสวนแห่งนี้ จากการคุยกับ สาทิส อจลสุต สถาปนิกใหญ่จากกองสำรวจและ
ออกแบบ Hardscape และ ภัทราวดี ผลพูล จากกองอำนวยการกลางผู้ดูแล Softscape
เล่าให้ฟังว่า พื้นที่เดิมลุ่มโล่งมาก ต้องถมดินสูงเท่าถนน แล้วปลูกหญ้า
ส่วนโครงสร้างหลักเป็นทรงเรขาคณิตแบบสวนที่ Versailles โดยใช้พื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด
70 X 260 เมตร แบ่งพื้นที่ออกเป็น 9 ส่วน ซึ่งหมายถึงสร้างถวายแด่สมเด็จพระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่
9 มีลานอเนกประสงค์สี่มุมที่เชื่อมต่อพื้นที่ 9 ส่วนให้ถึงกันด้วยทางเดินเท้าปูอิฐบล็อก
เพื่อความประหยัดจึงใช้ต้นไม้ที่ดูแลง่าย ทนต่อโรคและแมลง เช่น ต้นเข็ม และชาฮกเกี้ยนเป็นไม้หลัก
ความหลากหลายของสีสวนใช้สีไม้ใบเป็นหลักใหญ่
แม้งานสวนแบบ formal แห่งนี้จะดูเหมือนดูแลค่อนข้างง่ายที่สุดกว่าสวนแบบอื่น
เพราะตาราง เวลาการทำงานที่สามารถกำหนดให้ลงตัวแน่นอน จะยากตรงที่สวนแบบนี้ต้องมีการปลูกซ่อมต้นไม้ให้ได้ขนาดเท่ากับฟอร์มเดิม
ความยิ่งใหญ่ของสวน formal แบบVersailles นั้น นักนิยมสวนล้วนตั้งใจว่าสักครั้ง
หนึ่งในชีวิตต้องไปชมให้เห็นความยิ่งใหญ่ให้ได้สัก ครั้ง แม้ความพยายามการจัดสวน
formal แบบVersailles ของ กสท. ถึงแม้ว่าตอนนี้จะสามารถจำลองมาได้เพียง 1
ใน 100 ก็ตาม ความพยายาม นี้ก็ยังน่านับถือมากอยู่
ความน่านับถือไม่ใช่เพียงแค่การพยายามรักษาสวนแบบนี้ให้ดูสวยคงรูปร่างที่ดูดีตลอดเวลา
10 ปี ไม่ให้เสื่อมโทรมเท่านั้น ความน่านับถือยังอยู่ตรงที่ว่า ทุกพื้นที่ทุกส่วนอันเป็นพื้นที่สีเขียวใน
กสท. ล้วนได้รับการดูแลเป็นอย่างดี นับได้ว่า กสท. กล้าหาญมากที่จะแบกรับความรับผิดชอบเรื่องสวนขององค์กรอย่างเป็นจริงเป็นจัง
ไม่แพ้สวนต้นแบบ Versailles ของจริงในฝรั่งเศสเลย