|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ตลาดแอร์เหงื่อตก หวั่นปีนี้สถานการณ์ไม่น่าจะสู้ดีนัก หลายค่ายเปิดศึกชิงรายได้รุนแรง หนีบุกตลาดคอมเมอร์เชียลแอร์ "เซ็นทรัลแอร์" บ่นอุบ ปีนี้มีเหนื่อย ลูกค้าโครงการหดลงเหลือ 20 โครงการ แต่เชื่อฝีมือฝ่ายขายแต่ละโครงการมีมูลค่าเพิ่มขึ้น มั่นใจสิ้นปีรายได้ยังเดินหน้าเติบโตได้อีก 10 % จาก 900 ล้านบาทของปีที่ผ่านมา
นายสัตยา ศรีอ่อน รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แพนสยาม เอ็นจิเนี่ยริ่ง จำกัด ผู้ผลิต และจัดจำหน่าย เครื่องปรับอากาศ "เซ็นทรัลแอร์" เปิดเผย "ผู้จัดการรายวัน"ว่า จากสภาพตลาดเครื่องปรับอากาศที่ค่อนข้างมีการแข่งขันกันรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดคอนซูเมอร์ ที่ผู้ประกอบการต่างนำเอากลยุทธ์ทางด้านราคาลงมาแข่งขันเพื่อดึงรายได้ให้เป็นไปตามแผนที่ตั้งไว้ เหลือราคาในการจำหน่ายลดลงเฉลี่ยประมาณ 10 % เทียบกับปีที่ผ่านมานั้น ส่งผลให้ในความเป็นจริงรายได้ที่กลับมานั้น แทบจะไม่มีกำไร ดังนั้นผู้ประกอบการหลายราย จึงมุ่งหันมาสร้างรายได้ในตลาดอื่นแทน โดยเฉพาะตลาดคอมเมอร์เชียลแอร์ หรือ ตลาดโครงการ เพื่อการพาณิชย์ต่างๆ
ทำให้จากเดิมที่ทางบริษัทฯ จะเน้นทำตลาดคอนซูเมอร์อยู่ก่อนแล้ว เริ่มมีคู่แข่งมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันการแข่งขันในตลาดคอมเมอร์เชียลแอร์ก็สูงขึ้นเช่นกัน เริ่มมีการนำกลยุทธ์ทางด้านราคามาจูงใจลูกค้าบ้างแล้ว ส่งผลให้ในปีนี้ทางบริษัทฯ เหลือลูกค้าในกลุ่มดังกล่าวเพียง 20โครงการเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มร้านอาหาร กลุ่มสปา กลุ่มโรงแรม และกลุ่มอพาร์ทเม้นต์ต่างๆ จากเดิมในปีที่ผ่านมา ที่มีจำนวนลูกค้ากว่า 30 โครงการ
แต่ปัญหาดังกล่าวมองว่ายังไม่ส่งผลกระทบเท่าไร เนื่องจากโครงการส่วนใหญ่ที่ได้รับมานั้น มีมูลค่าโครงการค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับโครงการที่รับมาของปีที่แล้ว ที่ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการระดับเล็กมีมูลค่าโครงการ 3-4 ล้านบาทเท่านั้น
ส่วนในตลาดคอนซูเมอร์นั้น ทางบริษัทก็ได้มีการพัฒนาสินค้าใหม่ออกมาเช่นเดียวกัน โดยมุ่งเน้นเทคโนโลยีทางด้านการประหยัดไฟที่ดีกว่าเดิมเป็นจุดขาย ซึ่งได้เริ่มแนะนำสินค้าสู่กลุ่มผู้บริโภคไปบ้างใน 2รุ่น คือ ขนาด 9,000 บีทียู และ 13,000 บีทียู คาดว่าน่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ทางบริษัทฯ ยังได้พัฒนาสินค้าในกลุ่มเครื่องปรับอากาศเคลื่อนที่ในรุ่น 12,000บีทียู ออกมาจำหน่ายอีกด้วยในปีนี้ รวมไปถึงแอร์มุ้งก็มีรุ่นใหม่ออกมาจำหน่ายเช่นเดียวกัน
ขณะที่ในปีนี้ทางบริษัทฯ ได้วางงบการตลาดไว้กว่า 50-60ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ในการทำตลาดเครื่องปรับอากาศตลอดทั้งปี ซึ่งคาดว่าน่าจะเพิ่มผลประกอบในปีนี้ให้ดีขึ้นอีกประมาณ 10% จาก 900ล้านบาท ของรายได้ในปีที่ผ่านมา โดยยังคงสัดส่วนรายได้จากกลุ่มคอมเมอร์เชียลแอร์ 60 % และคอนซูเมอร์ 40 % เช่นเดิม ขณะเดียวกันสามารถแบ่งรายได้เป็นกรุงเทพฯ ประมาณ 65 % และต่างจังหวัด 35 % ซึ่งทางบริษัทฯ จะมุ่งเน้นตลาดต่างจังหวัดมากยิ่งขึ้นด้วย
โดยในปัจจุบันจากการที่บริษัทฯ มีจำนวนตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศกว่า 400ราย ทางบริษัทฯ จะมุ่งเน้นให้ทีมงานได้มีการทำงานประสานงานร่วมกับทางตัวแทนจำหน่ายมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มจำนวนฝ่ายขายเพื่อให้เข้าถึงพื้นที่ในการขายยังต่างจังหวัดให้มากที่สุด จากเดิมที่พนักงานหนึ่งคนดูแลพื้นที่การขาย 10จังหวัด ก็ลดลงเหลือเพียง 5-6 จังหวัดเท่านั้น ส่วนตลาดต่างประเทศนั้น ก็มีทำตลาดบ้างแต่ไม่มาก เนื่องจากบริษัทฯ มีนโยบายในการทำตลาดในประเทศเป็นสำคัญ
นายสัตยา กล่าวต่อว่า จากการแข่งขันที่รุนแรงในปีนี้ ส่งผลให้ทางบริษัทฯได้เพิ่มกำลังการผลิตขึ้นอีกเล็กน้อยประมาณ 10% หรือกว่า 40,000-50,000 ยูนิตในปีนี้ ทั้งนี้ก็เพื่อมุ่งเน้นยอดขายทางด้านปริมาณมากกว่ากำไร พร้อมทั้งมีการจัดการภายในในการลดต้นทุน ทั้งนี้เพื่อให้ได้ผลประกอบเป็นไปตามเป้าที่วางไว้นั้นเอง
|
|
|
|
|