Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤษภาคม 2550








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤษภาคม 2550
นวัตกรรม "เพลน่าร์ X Screen" Size does matter             
โดย สุปราณี คงนิรันดรสุข
 

 
Charts & Figures

เปรียบเทียบตลาดโฮมเธียเตอร์


   
www resources

โฮมเพจ เพลน่าร์ ซิสเต็ม อิงค์

   
search resources

Electric
Innovation
Planar Systems Inc.
B.F.M. Innovex, บจก.
กศิปัญญ์ ศิริธรรม




ปัจจุบันตลาดจอภาพขนาดยักษ์ 60-100 นิ้วขึ้นไป มีรายใหม่ "เพลน่าร์ X Screen" เข้ามาเจาะ niche market ที่มี big player ทำตลาดอยู่น้อยรายมาก เช่น จอทีวียักษ์ของซัมซุงขนาด 103 นิ้ว ราคา 4 ล้านบาท และจอภาพของโซนี่ 70 นิ้ว เป็นต้น

พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่เปลี่ยนไปต้องการดูหนังฟังเพลงเล่นเกมในจอทีวีขนาดมาตรฐานในปัจจุบัน 32 นิ้วขึ้นไป ภาย ใต้แรงกระตุ้นตลาดจากราคาของเทคโนโลยีระดับ HDTV ที่ราคาลดต่ำตกลงจากหลักแสน เหลือเพียงหลักหมื่นบาท โดยทั่วไปจอภาพ LCD หรือ Plasma ขนาด 32-46 นิ้ว จะมีราคาระหว่าง 50,000-170,000 บาท

ราคาที่ผู้ซื้อเข้าถึงได้นี้ช่วยกระตุ้นดีมานด์ตลาดทีวีจอใหญ่มากขึ้นในตลาด mass ของโฮมเธียเตอร์ในปัจจุบัน ที่มีผู้เล่นระดับ Big Brand ทุกยี่ห้อ เข้ามาแย่งส่วนแบ่ง การตลาดกันมาก โดยทำกลยุทธ์การตลาดประเภทลดแลกแจกแถมกันดึงดูดลูกค้า เช่น ในงาน Homepro หรือ Commart

ปีที่แล้ว ตลาดรวมของทีวีจอแบน, จอภาพ LCD, Plasma ขายได้ประมาณ 60,000 หน่วย และคาดว่าปีนี้ปริมาณขายจะขยายไปแตะเพดาน 100,000 หน่วยได้ เพราะ ราคาทีวีถูกลง เป็นแรงจูงใจให้ลูกค้าต้องการ สิ่งบันเทิงขนาดใหญ่เท่าที่จะจ่ายได้ (affordable) จากปัจจัยเศรษฐกิจพอเพียงและความหวาดกลัวภัยก่อการร้าย ทำให้คนมีพฤติกรรมใช้ชีวิตอยู่บ้านมากขึ้น

เป็นที่น่าสังเกตว่า ช่องว่างตลาดโฮมเธียเตอร์ขนาด 60-100 นิ้ว ยังเปิดกว้างอยู่ เพราะมี big player ไม่กี่รายและกลุ่มลูกค้า เป้าหมายระดับ B+ ขึ้นไปก็มีกำลังซื้อสูง เป็น ผู้ที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีทันสมัย ดีไซน์สวยและราคาสมเหตุสมผล ดังนั้นตลาด นี้จึงมี marginal value ที่น่าสนใจ

ล่าสุด newcomer จากอเมริกาคือ "บริษัท Planar Systems Inc." (จดทะเบียนใน Nasdaq) ซึ่งก่อตั้งมา 24 ปีและมีชื่อเสียง จากฐานธุรกิจฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์สำหรับ จอแสดงภาพ ที่มีคุณภาพแสงและสีที่มีความ แม่นยำสูงที่ใช้ในวงการแพทย์ เช่น จอ CT Scan ฯลฯ ได้ขยายธุรกิจมาสู่ตลาดโฮมเธียเตอร์ ซึ่งเป็น consumer product ในรูปของผลิตภัณฑ์จอแสดงภาพผ่านโปรเจ็กเตอร์ "เพลน่าร์ X Screen" ซึ่งมีรางวัลนานา ชาติรับรอง

จากประสบการณ์ทดลองชมภาพผ่านจอภาพ "เพลน่าร์ X Screen" พบว่า จุดขาย อยู่ที่การนำเอานวัตกรรมของจอภาพที่ใช้เทคโนโลยี Daytime Film Technology ที่ตัดแสงรบกวนที่เป็นปัญหาของจอโปรเจ็กเตอร์ทั่วไปออกไปได้ เพราะเนื้อฟิล์มไม่สะท้อน แสงแดด หรือแสงในห้องเหมือนจอ Plasma และกระจกจอพื้นผิวเรียบขนาดหนา 4 มม. ทำให้แผ่นฟิล์ม ติดจอแบนเรียบ ช่วยให้แสงสะท้อนไม่พึงประสงค์ออกด้านข้าง ค่า contrast จึงมากกว่าจออื่น 2 เท่า ภาพจึงสว่างคมชัดในภาวะปกติที่ไม่ต้องดูในห้องมืด และช่วยถนอมสายตาไม่เมื่อยล้าแสบตา รวม ถึงดีไซน์ที่ออกแบบได้อย่างมีสไตล์ทันสมัยด้วยกรอบสีดำมันวาวแบบ piano black

นอกจากนี้ เพลน่าร์ X Screen ยังสามารถใช้ได้กับโปรเจ็กเตอร์ทุกยี่ห้อ โดยเฉพาะ "เพลน่าร์ โปรเจ็กเตอร์โฮมเธียเตอร์" ที่เข้ามาขายในตลาดไทยถึง 5 รุ่น ที่มีระดับ native 720p (1 ล้านพิกเซล) ไปจนถึงระดับสูง native HD 1080p (2 ล้านพิกเซล) รวมทั้งยังให้ออปชั่น เป็น Plus Pack ซึ่งเป็นกล่องควบคุมและรับสัญญาณภาพ วงจรสวิตช์ จูนเนอร์ และ Pixelworks Scaler ที่เป็นตัวปรับภาพให้คมชัดที่ความละเอียดสูงสุด 1081i พร้อมกับช่องรับสัญญาณถึง 6 ช่องเพื่อเสียบสายเล่นหนังฟังเพลง DVD, เกม, กล้องดิจิตอล, เคเบิลทีวี หรืออุปกรณ์ดิจิตอลอื่นๆ

ความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์นี้ตรงกับปรัชญาธุรกิจที่ว่าด้วย innovation+style+performance ของกศิปัญญ์ ศิริธรรม นักธุรกิจค้าวัสดุตกแต่งอาคาร "บริษัท B.F.M.ผู้แทนจำหน่ายแผ่นอะลูมิเนียมคอมโพสิทยี่ห้อ "APOLIC/fr" ของบริษัท Mitsubishi Chemical Functional Products เพียงรายเดียวในประเทศไทย กศิปัญญ์ตกลง ร่วมทำธุรกิจนี้กับ regional office ของเพลน่าร์ที่สิงคโปร์อย่างจริงจัง

ประสบการณ์สิบปีในวงการก่อสร้างและการค้า กศิปัญญ์มองเห็นโอกาสทางตลาดที่สอดคล้องกับฐานธุรกิจเดิมของตนเองและขยายตัวธุรกิจตั้งบริษัท B.F.M.Innovex เพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงของเพลน่าร์ว่า ตลาด niche ที่เจาะตลาดระดับสูงนี้ ยังมีช่องว่างอยู่ในตลาดโฮมเธียเตอร์ที่ต้องการจอขนาด 60-100 นิ้ว ในราคาที่มีความได้เปรียบและแข่งขันได้ เช่น ชุด 60 นิ้ว ราคา 1.9 แสนบาทและชุด 100 นิ้วราคาเพียง 3 แสนบาท ถูกมองว่าเป็นความคุ้มค่า (Cost effectiveness) เมื่อเทียบกับคู่แข่งที่ตั้ง ราคา 103 นิ้วไว้ที่ 4 ล้านบาท และความได้เปรียบแง่น้ำหนักของเพลน่าร์ที่เบากว่า 4 เท่าของคู่แข่ง ทำให้พื้นบ้านไม่ทรุด

"ผมเห็นว่าผลิตภัณฑ์เพลน่าร์ของผมเป็น product living ที่ทำให้คนรักบ้านดูหนัง ก็ได้อารมณ์สนุกเต็มอิ่มและถนอมสายตาไม่เมื่อยล้าด้วย" ในฐานะ CEO ของบริษัท B.F.M.Innovex กศิปัญญ์เล่าให้ฟังขณะสาธิตเทคโนโลยีของเพลน่าร์

เขาวาง position ของจอภาพเพลน่าร์ X Screen นี้ ในฐานะเป็นเฟอร์นิเจอร์และ living product ที่บ่งบอกสถานภาพของเจ้าของที่อยู่อาศัยราคาแพงได้อย่างดีมีสไตล์ ในกลุ่มลูกค้าระดับ B+ ขึ้นไป โดยตลาดหลัก จะอยู่ในกรุงเทพฯ และหัวเมืองท่องเที่ยว เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต สมุย

กศิปัญญ์หวังว่า ผลิตภัณฑ์เพลน่าร์ X Screen นี้สามารถ creat value business ใหม่ขึ้นมาได้ อย่างน้อยปีหนึ่งประมาณร้อยล้านบาท

เป้าหมายนี้เป็น mission ของธิปัตย์ สุนทรารชุน อดีตวาณิชธนากรระดับ AVP ของทิสโก้แบงก์ ปัจจุบันเป็นกรรมการผู้จัดการ ของบริษัท B.F.M. Innovex และได้เปิดตัวเพลน่าร์ X Screen ไปเมื่อปลายเดือนมีนาคม นี้ที่สยามพารากอน ที่ซึ่งร้าน Marantz กำลัง ขายผลิตภัณฑ์เพลน่าร์ X Screen นี้ขณะที่อีกแห่งที่เซ็นทรัลเวิลด์ ฝั่ง Isatan ก็มีโชว์ด้วย เช่นกัน นี่คือสองพันธมิตรทางธุรกิจระดับ high end คือ บริษัท MRZ Standard ผู้ขายเครื่องเสียง Marantz และบริษัท โคไนซ์ Conice Electronic ของตระกูลทวาทศิน มีชื่อเสียงมานานกว่า 30 ปี และมีกลุ่มลูกค้า audio ระดับพรีเมียมกว่า 3,000 ราย

"target ของเราคือ ตลาด home 70% และ corporate 30% เรามองคนที่มีบ้านใหญ่ คอนโดฯ หรืออพาร์ตเมนต์ต่างๆที่ราคา 10-20-30 ล้านขึ้นไป และอีกกลุ่มลูกค้าที่เราต้องการไป replace เปลี่ยนจอใหม่จากความเบื่อที่ต้องดูแต่ในห้องมืด อยาก เปลี่ยนบรรยากาศ

ส่วน corporate เราก็เห็นว่ากลุ่มเป้าหมายเป็นบริษัทที่ต้องการติดตั้งจอโปรเจ็ก เตอร์ของเรา ในห้องประชุม (boardroom) หรือที่ศูนย์การประชุม (convention hall), โรงงาน, event organizer ต่างๆ ก็เป็น target และกลุ่มธุรกิจประเภทไลฟ‡สไตล์ เช่น ผับ ร้านอาหาร สปา และสนามกอล์ฟ เราน่า จะ push ตลาดตรงนี้ได้" ธิปัตย์เปิดเผย ถึงกลุ่มเป้าหมายลูกค้าหลัก

นอกจากนี้ยังใช้กลยุทธ์ขายตรง เจาะตลาดลูกค้าระดับเจ้าของโครง การและสถาปนิกผู้ออกแบบบ้านหรูราคาแพงที่สามารถกำหนดพื้นที่ con-ceptual design สำหรับชุดโฮมเธียเตอร์ของ "เพลน่าร์ X Screen" 100 นิ้ว ซึ่งมีความยาว 2.5 เมตรได้ สวยงามสำหรับลูกค้า

"ตอนนี้เราติดต่อกับ Crystal Park ตรงรามอินทรา ซึ่งปลูกบ้านระดับ 35 ล้านขึ้นไป ถ้าเป็นไปได้ เราอยากให้เขาเอาชุดโฮมเธียเตอร์ 100 นิ้ว ของเพลน่าร์มูลค่าหลักสี่แสนไปร่วมในรายการ โปรโมชั่น จะทำให้โครงการเขาใหม่และสดขึ้น ทันที โดดเด่นกว่าคู่แข่ง" กศิปัญญ์ CEO กล่าว

ปีนี้กลยุทธ์การตลาดของโฮมเธียเตอร์ แบรนด์ "Planar X Screen" จะเปิดตาและประสบการณ์ใหม่ได้อย่างเร้าใจและบรรลุเป้า ยอดขายร้อยล้านหรือไม่? เรื่องท้าทายแบบที่... ใครไม่ใหญ่ถอยไป! เพราะ Size does matter!   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us