Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน27 เมษายน 2550
ทุนมาเลเซียบุกอสังหาฯ             
 


   
search resources

Real Estate




กลุ่มทุนมาเลเซียเริ่มขยายธุรกิจการลงทุนในธุรกิจอสังหาฯเข้าสู่ประเทศไทย ผ่านบริษัทแปซิฟิค สตาร์ อินเตอร์เนชั่นแนลฯ ประเดิมเงินลงทุนจากกองทุนเอเชีย เรียลเอสเตท อินคัม ฟันด์ หนึ่งในกองทุนของกลุ่มแปซิฟิค สตาร์ เข้ามาลงทุนในโครงการคอนโดมิเนียมระดับไฮเอ็นท์ 2 โปรเจกต์ในโซนซีบีดี มูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาท ลั่นในช่วง 1-2 ปี ขอสร้างชื่อบริษัท เล็งปีที่ 3-5 จะเริ่มเข้าสู่ยุคการออกกองทุนฯอสังหาฯ ยอมรับหนักใจเรื่องกฎหมายคนต่างด้าว แต่ระยะยาวแล้วไทยมีศักยภาพในการลงทุน

นายอุรเสฏฐ นาวานุเคราะห์ ผู้จัดการด้านบริหารสินทรัพย์ บริษัท แปซิฟิก สตาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทแปซิฟิค สตาร์ ซึ่งมีผู้ก่อตั้งเป็นคนสัญชาติมาเลเซีย ได้ตัดสินใจที่เริ่มขยับการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคเอเชียอย่างเต็มที่ หลังจากได้มีการก่อตั้งบริษัทเมื่อช่วง 6-7 ปีที่ผ่านมา มีสำนักงานแรกอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ และเมื่อช่วงต้นปี 2549 ทางกลุ่มบริษัทแปซิฟิคฯ เข้ามาจัดตั้งบริษัทในประเทศ รวมแล้วขณะนี้ทางกลุ่มได้มีการเปิดตัวบริษัทในภูมิภาคเอเชียไปแล้ว 4 แห่ง คือ มาเลเซีย ,สิงคโปร์,เซียงไฮ้และประเทศไทย และอยู่ระหว่างการศึกษาที่จะเปิดอีกหลายแห่ง ได้แก่ ที่ประเทศออสเตรเลีย , ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และประเทศจีน

สำหรับกลุ่มบริษัทแปซิฟิคฯ มีความชำนาญในด้านการลงทุนทางด้านอสังหาฯ การจัดสรรเงินทุน การบริหารสินทรัพย์ ืและบริการการจัดการอสังหาฯในเอเชีย ได้ทำตลาดด้านการลงทุนอสังหาฯเป็นหลัก ซึ่งในช่วง 6-7 ปีที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทฯมีมูลค่าธุรกรรมผ่านมาในมือประมาณ 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 70,000-80,000 ล้านบาท เช่น Wisma Atria and Ngee Ann City to Macquarie MEAG Prime REIT รูปแบบห้างสรรพสินค้าในประเทศสิงคโปร์ ในเดือนก.ย. พ.ศ. 2548 ที่สามารถทำกำไรได้ถึง 29%

" รูปแบบธุรกิจของบริษัทแปซิฟิค สตาร์ฯจะทำครบวงจร ตั้งแต่ตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทุนที่ระดมเงินได้จะจัดหาแหล่งไปลงทุนทั้งในส่วนของที่ดินและทรัพย์สินต่างๆ การพัฒนาโครงการ รวมถึงบริหารการขาย ซึ่งเมื่อพิจารณาจุดต่างๆที่บริษัทจะเข้าไปลงทุน ทั้งในไทยและในประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชียแล้ว แสดงว่าแนวโน้มของตลาดในเอเชียยังเติบโตได้อีก ประกอบการคู่แข่งขันที่จะทำธุรกิจภายใต้รูปแบบของบริษัทมีน้อย "นายอุรเสฏฐ กล่าว

โดยการลงทุนในประเทศไทยนั้น ในช่วงแรกทางบริษัทแปซิฟิค สตาร์ฯจะพยายามสร้างชื่อเสียงของบริษัทให้ลูกค้าได้รับรู้ ซึ่งในช่วงปลายปี 2549 ทางบริษัทได้ลงทุนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมจำนวน 2 โครงการ ในทำเลศูนย์กลางธุรกิจ(CBD) ซึ่งเป็นโครงการแนวสูงระดับพรีเมี่ยม มูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาท โครงการแรกคาดจะเปิดอย่างเป็นทางการในเดือนมิ.ย.ถึงก.ค. และโครงการที่ 2 จะเปิดตัวในช่วงเดือนก.ย.ถึงต.ค.

ในส่วนของแหล่งเงินที่จะนำมาดำเนินการโครงการดังกล่าว จะมาจากเอเชีย เรียลเอสเตท อินคัม ฟันด์ หรือ AREIF ซึ่งเป็น 1 ใน 2 กองทุนรวมอสังหาฯที่กลุ่มบริษัทแปซิฟิค สตาร์ฯได้จัดตั้งขึ้น โดยเงินทุนที่กองทุน AREIF สนับสนุนในครั้งนี้ คิดเป็นจำนวนครึ่งหนึ่งของทุนเงินกองทุนที่มีมูลค่าประมาณ 500 ล้านยูโร ขณะที่อีกองทุนจะชื่อ BAITAK Fund ถือหุ้นใหญ่โดยรัฐบาลคูเวต

" ช่วง 1-2 ปี เราต้องการสร้างชื่อ สร้างความน่าเชื่อถือของบริษัทให้ลูกค้าได้รับรู้ ซึ่ง 2 โครงการดังกล่าวจะมีส่วนในการผลักดันบริษัท และเชื่อว่าภายในระยะ 3-5 ปีข้างหน้า จะเข้าสู่ธุรกิจในด้านการออกกองทุนอสังหาฯได้ ซึ่งตรงนี้อาจจะช่วยให้นักลงทุนไทย มีโอกาสขยายการลงทุนสู่ตลาดต่างประเทศได้ " ผู้จัดการด้านบริหารสินทรัพย์กล่าว

นายแดเนียล รอสส์ รองผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและการลงทุนบริษัท แปซิฟิก สตาร์ฯกล่าวว่า ในระยะนี้ ทางบริษัทจะต้องพยายามสร้างความสัมพันธ์กับธุรกิจต่างๆ เพื่อผลในระยะยาว ส่วนสถานการณ์ทางการเมือง และเรื่องกฎหมายประกอบธุรกิจคนต่างด้าวนั้น ตนก็ให้ความสำคัญและติดตามประเด็นดังกล่าวมาตลอด อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อมั่นใจศักยภาพของประเทศไทย ประกอบการการลงทุนของบริษัทเป็นการวางฐานในระยะยาว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us